7 มี.ค. เวลา 08:52 • ปรัชญา

?+?=นิสัย 2สิ่งนี้จะแก้ความขี้เกียจได้อย่างไร ลองอ่านดูครับ

ความต่อเนื่อง+สิ่งแวดล้อม=นิสัย
PLAY MOND
(ฝืนใจอ่านสักครั้งบางทีบทความนี้อาจะเปลี่ยนชีวิตคุณ)
 
ขอพูดแบบไม่ยืดยาวเลยนะครับ ความขี้เกียจเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับเรามานานตั้งแต่บรรพบุรุษ จึงเป็นเรื่องปกติเมื่อเราจะขี้เกียจ และอีกอย่างนึงที่ทำให้ขี้เกียจก็คือความคุ้นเคย,เคยชินกับความสบาย นั่นเองครับ
ไมน์เซ็ทอันทรงพลัง ก็ยากที่จะต้านความขี้เกียจ
PLAY MOND
แต่ผมเชื่อว่าคนที่อ่านบทความนี้จะต้องเป็นคนที่ต้องการจะเลิกขี้เกียจแน่นอน และผมก็คิดว่าหลายๆคนจะเป็นประมาณนี้
(เหตุการณ์สมมติ)
คุณเป็นคนที่ติดหนังมากแต่ก็รู้สึกว่าถ้าเราติดหนังแบบนี้ต่อไปคงจะไม่มีอันจะกินแน่ คุณจึงจะอ่านหนังสือทุกวันเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ ใน3วันแรก-1สัปดาห์แรกก็อาจจะอ่านได้เยอะๆโดยไม่เป็นอะไร แต่พอผ่านไปประมาณนึงคุณจะรู้สึกถึงแรงต้านอันหนักอึ้ง และก็จะกลับไปดูหนัง เผลอตัวอีกทีก็ขี้เกียจอ่านหนังสือไปซะแล้ว แล้วก็วนอยู่แบบนี้เป็นปีๆ ก็สร้างนิสัยไม่ได้สักที เครียดกว่าเดิมอีก
จากเหตุการณ์ข้างต้นผมเชื่อเลยว่าทุกคนน่าจะประสบกับอะไรแบบนี้แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องอ่านหนังสือก็ตาม เอาล่ะ2สิ่งในการสร้างนสัยเพื่อเลิกความขี้เกียจก็คือ
ความต่อเนื่อง+สิ่งแวดล้อม=นิสัย
ที่นี้ผมจะขยายความให้เข้าใจยิ่งขึ้น
จริงๆแล้วที่คุณเป็นแบบเหตุการณ์ที่ผมบอกไปเป็นเพราะคุณกดดันตัวเองเกินไปครับ สำหรับคนที่กดดันแล้วเกิดนิสัยใหม่ผมก็ยินดีด้วย แต่ถ้าคนที่ทำแล้วหมดไฟตลอดก็ต้องใช้วิธีของผมคือ
"ความต่อเนื่อง"
วิธีก็คือไม่ต้องกดดันตัวเองให้ทำมากๆครับ ทำทีละนิดๆ สร้างความเคยชินให้กับสมองของคุณ " ก็คือทำทีละเล็กๆโดยที่ไม่ต้องฝืนครับ เน้นความสม่ำเสมอมากกว่าคุณภาพ เมื่อเกิดความคุ้นชินค่อยให้คุณภาพนำครับ เมื่อคุณกดดันตัวเองเกินไปคุณจะท้อมากๆครับและไม่อยากทำต่อ ความต่อเนื่องก็จะไม่เกิดขึ้น
ตัวอย่างครับ
คุณต้องการจะอ่านหนังสือทุกวัน
แทนที่ต่อไปนี้เราจะอ่านหนังสือวันละ1ชม.
เป็น
ในเดือนนี้ฉันจะอ่านหนังสือวันละ5นาที
และในเดือนถัดไปค่อยเพิ่มเป็น10นาที
(ลองคิดดูถ้ามากกว่า1ปีแล้วคุณเพิ่มระยะเวลาอ่านทุกเดือนคุณจะอ่านหนังสือวันละกี่ชม.กัน)
ฟังดูแตกต่างกันนะครับ แล้วถ้าถามว่าวันละ5นาทีมันจะได้อะไร ได้สิครับ เราไปช้าๆเพื่อสร้างนิสัยของเราครับ ทนกัดฟันหน่อยเพื่อที่เราจะได้ไม่หมดไฟ
(ที่สำคัญคืออย่าทำจนแรงต้านเยอะเกินไปครับ มันจะไม่มีกำลังใจทำต่อ)
อย่างที่สองครับ
"สภาพแวดล้อม"
สิ่งนี้เอาไว้สนับสนุน"ความต่อเนื่องครับ"
เช่น คุณต้องการจะอ่านหนังสือ แต่คุณเวลาเห็นโทรศัพท์ก็มักจะโฟกัสหลุดและไปเอามาเล่น รู้ตัวอีกทีก็ไม่ได้อ่านหนังสือซะแล้ว ดังนั้นคุณสามารถเปลี่ยนสภาพแวดล้อมได้โดยการนำโทรศัพท์ไปไว้อีกห้องครับ เพื่อที่คุณจะไม่ได้นึกถึงและอ่านหนังสืออย่างมีคุณภาพ
2สิ่งนี้แหละครับ สามารถนำไปปรับใช้ได้กับทุกเรื่อง
สรุปครับ
"ความต่อเนื่อง" ไม่กดดันตัวเอง เน้นทำให้ได้ทุกวันและค่อยๆเพิ่มจำนวนการลงมือทำ
"สิ่งแวดล้อม" ใช้สนับสนุนความต่อเนื่องให้มีคุณภาพ และต่อเนื่องได้ง่ายขึ้นนั่นเองครับ
ตัวอย่างของตัวผมเอง
ผมอยากออกกำลังกาย(ตอนนี้ออกมาได้เกือบ2ปี โดยที่สามารถยกหนักๆ2ชม.ได้ทุกวัน(ยกเว้นวันพัก)โดยที่ไม่ฝืนเลย)
ความต่อเนื่องของผมคือ
ในสัปดาห์แรกผมเริ่มจากสิ่งเล็กๆคือเดินวันละ10นาทีเองครับ สัปดาห์ต่อไปก็เพิ่มอีก10นาที จนเดือนถัดมาก็เพิ่มโปรแกรมวิ่งเข้าไป จากนั้นก็เพิ่มบอดี้เวท เวทเทรนนิ่งตามลำดับครับ
ส่วนสภาพแวดล้อมคือ
สาวสวยครับ🤣 ตอนนั้นผมชอบสาวคนนึง
น่ารักมากเลย จึงต้องการจะฟิตหุ่นไปจีบเธอครับ จนตอนนี้ก็อกหักไปแล้ว5555
นี่แหละครับก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ผลักดันให้เราเกิดความต่อเนื่องจนเคยชิน แล้วเราจะไม่ฝืนอีกเลย
โฆษณา