9 มี.ค. เวลา 06:56 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
ถนน เยาวราช

พระพุทธองค์ผู้มาก่อนกาล ทรงตื่นรู้ว่ามนุษย์ต่างดาวมีจริง ตอนที่๒(สรุปจบ)

คราวที่แล้วผู้เขียนได้เล่าถึงดาวอุตตรกุรุทวีปที่เต็มไปด้วยความสุขสราญบานใจ แต่ไม่มีธรรมะของพระพุทธเจ้าให้ชาวดาวอุตตรกุรุได้สดับรับฟัง ทำให้ชาวดาวอุตตรกุรุมีเพียงความยินดีปรีดาและความมีน้ำใจไมตรี แม้ไม่มีทิฏฐิมานะ,โลภะและโทสะแต่ก็เต็มไปด้วยราคะและโมหะ
การเวียนว่ายตายเกิดของชาวอุตตรกุรุจึงวนเวียนไปแค่ 4 ภพภูมิเท่านั้น ได้แก่ มนุษย์ สัตว์ จาตุมหาราชิกาและดาวดึงส์ แต่ไม่ไปทุคติจำพวกอสุรกาย เปรตและนรกภูมิ ด้วยว่ายังพอมีความราบเรียบของกรรม ซึ่งค่อนไปทางดีแต่ดีในแบบโลกย์ ทำให้เมื่อตายก็ไปเทวภูมิแต่จะไม่มีวันหลุดพ้นได้
ถึงจะเป็นเช่นนั้นชาวดาวอุตตรกุรุก็ยังมีความสุขแบบโลกย์ ทั้งรูปพรรณสวยหล่อ กินดีอยู่ดี ฐานะสุขสบาย ผิดกับอีกสองดาวดาวที่ผู้เขียนกำลังจะเล่าให้ฟัง
มากันที่ดาวเคราะห์ดวงแรกที่เป็นดาวเคราะห์มีมนุษย์ดวงใหญ่ที่สุดหนึ่งในสี่ดวงของจักรวาลปัจจุบัน ดาวบุพวิเทหทวีปนั่นเอง ชื่อที่ชาวดาวนี้เรียกตัวเองนั้นเป็นเช่นไรไม่อาจทราบ แต่ชาวมคธโบราณเรียกกันอย่างนี้ตามพระพุทธองค์และอัครสาวก ดาวดวงนี้อยู่ฝั่งตะวันออกของภูเขาสิเนรุ(ตะวันออกของจักรวาล)
มนุษย์ที่ดาวนี้ศีรษะใหญ่ กลมโต ใบหน้าออกมนๆ หุ่นระหง คล้ายกับเอเลี่ยนเกรย์หรืออาจหมายถึงพวกเกรย์เลยก็ว่าได้ ผิวเป็นสีเม็ดมะปราง จะเข้มหรือจางก็แล้วแต่ว่าเกิดใกล้เส้นศูนย์สูตรแค่ไหน พวกบุพวิเทหะมีนัยน์ตาสีนิลทั้งดวง หญิงชายรูปกายคล้ายจนถึงเหมือนกัน ต่างกันแค่อวัยวะสืบพันธุ์
พวกบุพวิเทหะว่ากันว่าศีรษะกลมดั่งบาตรพระ ไม่มีเส้นผม พวกนี้มีสัญญาเก่าคือปัญญาทางโลกย์สูงมาก จึงได้มาเกิดเป็นเผ่าพันธุ์อันมีบุญเก่าหนุนให้สมองใหญ่ ฉลาด สื่อสารกันด้วยวิธีส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าออกจากสมอง สติปัญญาดีแต่ดันเกิดในดาวเคราะห์ที่ค่อนข้างแห้งแล้งนิดๆ มีแต่ภูเขาสลับซับซ้อน
ดังนั้นพวกบุพวิเทหะจึงต้องใช้สมองอันใหญ่เพื่อคิดหาวิธีเอาตัวรอดบนดาวเคราะห์ที่มีสภาพแวดล้อมโหดร้าย ความโหดร้ายนั้นยังส่งผลให้พวกเขามีลูกยาก มักมีลูกแฝด ทั้งแฝดสอง ถึงแฝดแปด แต่ส่วนใหญ่จะต้องมีหนึ่งในนั้นตายก่อนโตเสมอ
สตรีชาวดาวบุพวิเทหะ
พวกบุพวิเทหะจึงเป็นนักวิทยาศาสตร์ชั้นเลิศ ขลุกตัวอยู่แต่กับการวิจัย ผ่าชันสูตร การทดลอง รวมทั้งการพัฒนาเทคโนโลยี จนนำไปสู่ความเจริญทางวัตถุในดินแดนอันแห้งแล้ง และว่ากันว่าดวงอาทิตย์ของดาวบุพวิเทหะนั้นเล็กกว่าดวงอาทิตย์ของโลกเรา ทำให้ดาวดวงนี้มีกลางคืนยาวนานกว่ากลางวันมาก
วิวัฒนาการทำให้ชาวดาวนี้มีเพศหญิงถึงสองจุดห้าในสามของประชากร พวกผู้ชายจึงต้องมีเมียหลายคน พวกผู้หญิงบางทีก็ทะเลาะเบาะแว้งกันเพื่อแย่งพ่อพันธุ์ที่ดีที่สุดสำหรับตน จนพลั้งฆ่าแกงกันก็มี แน่นอนว่าคนดาวดวงนี้ปกครองด้วยกฎหมาย ไม่มีพระธรรมกล่อมเกลาสันดานเพราะไม่เคยมีพระพุทธเจ้ามาอุบัติ
ข้อดีของดาวดวงนี้คือโทษอาญาหนักมาก คำตัดสินเที่ยงธรรมเฉียบขาด ผู้คนไม่โกหกกัน แต่มักโกรธ มักโลภ มักหลง เห็นใครมีอะไรดีก็อยากได้ ชอบแข่งกันชิงดีชิงเด่น ไม่มีน้ำใจให้กันยกเว้นกับลูกตัวเอง โอกาสแสวงหาธรรมจึงไม่มี
หลายคนทุ่มเทเวลาให้กับการวิจัยทั้งชีวิต เมื่อตายไปก็เลยไปเกิดเป็นสัตว์ป่า เปรต อสุรกายและนรก ไม่มีใครได้สัมผัสสุคติ
บุรุษชาวดาวบุพวิเทหะ
ถ้าใครคิดว่าบุพวิเทหะย่ำแย่แล้ว ไม่สามารถหลุดพ้นได้เข้าขั้นหนักแล้ว ยังมีอีกดวงดาวหนึ่งที่อาการหนักเสียยิ่งกว่าบุพวิเทหะ แม้จะดีกว่าอบายภูมิอยู่มากก็เถอะ นั่นก็คือดาวที่ชื่อว่าอปราโคจรยานทวีป หรือบางสำเนียงก็เรียกอมรโคยานทวีป
อมรโคยานทวีป เป็นดาวเคราะห์ที่อยู่ด้านตะวันตกของจักรวาล ชาวดาวนี้มีใบหน้าเรียว คางแหลม จมูกงุ้มดุจจันทร์เสี้ยว ผมเผ้ายาวลากพื้น ผิวสีแดงเลือดหมู ดวงตาสีขาวมีลายจุดๆ อาศัยอยู่บนดาวเคราะห์ที่มีมนุษย์ดวงใหญ่ที่สุดหนึ่งในสี่ดาวเคราะห์มีมนุษย์ที่ใหญ่ที่สุดในจักรวาลปัจจุบันเช่นกัน
ชายชาวดาวอมรโคยาน(แบบฮิวแมนไลค์)
ชาวอมรโคยานทวีปมีความเป็นอยู่คล้ายชนเผ่ามนุษย์กินคน ไม่สวมเสื้อผ้า มนุษย์ดาวนี้มีหลายเผ่า แต่ละเผ่าก็จะรุกรานกัน ฆ่าแกงกันเพื่อกำชัยชนะ ผู้ชายเป็นนักข่มขืน ข่มขืนทั้งคนในเผ่าตนและเผ่าอื่น ชาวอมรโคยานมีรูปร่างบึกบึนทึนทึกทั้งชายและหญิง มักล่าสัตว์ ฆ่าคนมากินเนื้อดิบ ผู้หญิงเมื่อคลอดบุตรออกมาก็จะมีผู้หญิงอื่นเข้ามาขโมยทารกไปกัดกินสดๆทั้งเป็น
หญิงชาวดาวอปราโคจรจึงต้องแอบไปคลอดลูกบนภูเขาหรือในโพรงถ้ำหลืบหิน ชาวดาวนี้มักป่วยด้วยโรคเห็บเกาะไส้ เห็บทะลักทวาร ปรสิตกินคอ เป็นต้น(จากการกินแต่เนื้อสดๆ) แม้ไม่เคยมีการอุบัติของพระพุทธเจ้า แต่ดาวดวงนี้ก็มีข้อดีคือธรรมชาติที่สวยสดงดงามเขียวชอุ่มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ยักษ์เนืองแน่น มีทะเลสีน้ำเงินสดแต่เต็มไปด้วยมัจฉาดุร้าย
ชาวอมรโคยานทวีปปกครองกันแบบสมบูรณาญาเผด็จการอานารยะ ใครทำผิด โทษคือถูกฆ่าทันที แม้จะเป็นมนุษย์แต่ก็อยู่ด้วยความพรั่นพรึงตลอดเวลาจวบจนสิ้นลม ใครแข็งแกร่งกว่าก็จะกลายเป็นยอดคนเถื่อนถ่อยที่เป็นใหญ่ในปฐพี
ชาวอมรโคยานทวีปจึงมีแต่โลภะ โทสะและโมหะ พร้อมด้วยราคะแรงกล้า มีจำนวนผู้ชายและผู้หญิงอย่างละเท่าๆกันซึ่งล้วนแล้วแต่ราคะจริตกล้าแข็ง สมสู่กันไม่เลือกหน้า ถ้าหญิงใดไม่เป็นที่ต้องตาก็มีสิทธิถูกชายในเผ่าฆ่าทิ้งเอาได้ง่ายๆ
สตรีชาวดาวอปรโคยาน
ชาวดาวนี้เมื่อตายลง ก็ไปเกิดในนรกอย่างเดียว พอชดใช้กรรมหมดก็ไปเกิดเป็นอสุรกายต่อ ตามด้วยเปรต และเดรัจฉาน ก่อนจะไปชดใช้เศษกรรมด้วยการเกิดเป็นมนุษย์ในดาวอปราโคจรยานทวีป พอมาเป็นมนุษย์ก็เผลอพลั้งทำชั่วสร้างบาป พอตายไปก็ไปเกิดใหม่ในนรก
พอชดใช้กรรมในนรกหมดก็ไปเกิดใหม่ในอสุรกายโลก พอหมดก็ไปเกิดต่อที่เปรตวิสัยโลก ตามด้วยเดรัจฉานภูมิและกลับมาเกิดเป็นคนดาวอมรโคยานทวีปอีกก็ก่อกรรมชั่วอีก วนลูปไปไม่รู้จักจบจักสิ้น
ชายชาวดาวอมรโคยาน(แบบเดม่อนไลค์)
แต่ดวงดาวที่มหัศจรรย์ที่สุดยิ่งกว่าทุกดวงก็คือดาวโลกของเรานั่นเอง ในสมัยโบราณชาวมคธจะเรียกดาวโลกว่าจมบูละทวีป หรือชมพูทวีป อันหมายถึงแผ่นพิภพที่เพียบด้วยต้นหว้านั่นเองเพราะนครมคธในสมัยนั้นมีแต่ป่าหว้า การตั้งชื่อโลกว่าชมพูทวีปก็เพื่อให้คนมคธในสมัยนั้นเข้าใจง่าย
คนในชมพูทวีปมีความพิสดารที่สุดเพราะมีผิวสีเปลือกไข่ มีดวงตาทั้งสีขาวสีดำสีฟ้าสีเทาและสีโทนอุ่นโทนเย็นต่างๆ สีผมก็มีทั้งดำสนิท น้ำตาล แดง ส้ม ทองหรือแม้แต่ขาวทอง รูปร่างหน้าตาก็หลากหลายจนยากจะจัดจำแนก
สตรีชาวชมพูทวีป(ลูกครึ่งหลายเชื้อชาติ)
คนในชมพูทวีปนี้มีเพศและสถานภาพอันหลากหลายเหลือประมาณ มีทั้งยากดีมีจนชั่วเลว พิการสมบูรณ์ ชายจริงหญิงแน่ ชายไม่แท้หญิงเทียม มีมนุษย์ทุกรูปแบบ มีสภาพแวดล้อมของพื้นพิภพครบทุกแบบ ทั้งป่าเขาลำเนาไพร ป่าสน ป่าดงดิบ ทะเลทราย มหาสมุทร เทือกเขาสลับซับซ้อน ถิ่นร้อน ถิ่นอุ่น ถิ่นเย็น ถิ่นหนาว
ด้วยประการละฉะนี้กระมังจึงทำให้มนุษย์ในชมพูทวีปมีความสุดโต่งทางด้านความหาญกล้า ทำชั่วก็ชั่วสุดจะบรรยาย ทั้งฆ่าพ่อฆ่าแม่ฆ่าลูกฆ่าพระอรหันต์ รวมไปถึงฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ทำดีก็ทำดีจนเกินจินตนาการจะไปถึง ยอมเสียสละแม้กระทั่งเลือดเนื้อเชื้อไขและชีวิต สละทิ้งทุกอย่างเพื่อคนอื่น บางคนก็มีศีลธรรมสูงเกินไปจนเมื่อตายไปแล้วก็ไม่กลับมาเวียนว่ายตายเกิดในวังวนวัฏสงสารอีกเลย
ชายชาวชมพูทวีป(โลกตะวันตก)
ชายชาวชมพูทวีป(โลกตะวันออก)
เรียกได้ว่าเป็นดวงดาวที่ปะปนไปด้วยความสุข ความเรียบราบ และความทุกข์ มีธรรมชาติอันไม่เที่ยง ไม่คงสภาพ ซึ่งทำให้เกิดการปลดปลงตรงสู่มรรคผลนฤพานได้ง่ายที่สุดเมื่อเทียบกับทั้งดาวโลกมนุษย์อีก 3 ดวงและเมื่อเทียบกับทั้งกามภูมิ รูปภูมิและอรูปภูมิทุกๆจักรวาล
ทั้งหมดข้างต้นจึงเป็นเหตุผลที่พระพุทธเจ้าจะเลือกลงมาเกิดแค่เฉพาะที่ชมพูทวีปเท่านั้น ไม่ว่าจะในจักรวาลปัจจุบันของเรา หรือจักรวาลปัจจุบันของเพื่อนบ้านจักรวาลอื่นๆในช่วงเวลาเดียวกัน ถ้าในจักรวาลนั้นมีดาวแบบชมพูทวีป ย่อมมีพระพุทธเจ้าลงมาเกิดเพื่อเผยแผ่พระธรรมคำสอนเพื่อช่วยชี้ทางให้เวไนยสัตว์หลุดพ้นวัฏสงสารอย่างแน่นอน
ดังเช่นพระอริยบุคคลทุกท่านทั้งที่เป็นฆราวาส ทั้งที่เป็นเหล่าพระสงฆ์สาวก ผู้ซึ่งล้วนแล้วแต่บรรลุธรรมก้าวพ้นการเวียนว่ายตายเกิดด้วยหลักธรรมคำสอนจากพระพุทธเจ้าทั้งห้าพระองค์ในภัทรกัปนี้ของพวกเราทุกคน!
((สามารถคัดลอกบทความนี้ไปใช้ได้ฟรีโดยให้เครดิตแอดมินเตมียนาคราชแห่งเพจเฟซบุ๊ค[ธรรมะแฟนตาซี]เพื่อจะได้ไม่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์นะครับ))
โฆษณา