Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Supawan’s Colorful World
•
ติดตาม
10 มี.ค. 2024 เวลา 06:22 • ท่องเที่ยว
ซุ้มประตูม้าทอง ไก่มรกต ณ นครคุนหมิง
ซุ้มประตูม้าทอง ไก่มรกต (Golden Horse and Jade Cock Gate) ณ นครคุนหมิง
ย่านถนนคนเดินของคุนหมิงที่ขึ้นชื่อว่าเก่าแก่ที่สุด ชื่อว่าถนน “จิ้นปี่ลู่” อยู่ในใจกลางเมืองคุนหมิง .. ถนนคนเดินสายนี้ นับเป็นถนนย่านการค้าที่มีเอกลักษณ์ของจีน ที่นำเอาสถาปัตยกรรมเก่าแก่ และความทันสมัย มาผสมกันกลายเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและช้อปปิ้งในปัจจุบันนี้ของนครคุนหมิง
เราเดินทอดน่องดูกิจกรรมหลากหลายที่เกิดขึ้นบนถนนสายนี้ ซึ่งมีทั้งน้ำพุดนตรี และบรรยากาศการแสดงทางวัฒนธรรม … ดูไปแล้วก็คล้ายๆกับถนนคนเดินหลายเมืองของบ้านเรา เช่น ที่เชียงใหม่ ซึ่งมีการแสดงดนตรี ร้องเพลง ฯลฯ
ตอนกลางของถนน “จินปี้ลู่” .. เป็นซุ้มประตูม้าทอง และซุ้มประตูไก่มรกต ซึ่งในภาษาจีนเรียกว่า จินหม่า และ ปี้จี .. จึงมีการเอาคำย่อ “จินปี้” มาขนานนามถนนว่า “จินปี้ลู่” (ลู่ = ถนน) ซึ่งก็คือ ถนน(ม้า)ทอง(ไก่)มรกต
ประวัติความเป็นมาของประตูม้าทองคำและซุ้มประตูไก่หยก
ซุ้มประตู สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิงของจีน มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 400 ปี บนแกนกลางของเมืองคุนหมิงเก่า
ซุ้มประตูม้าสีทอง .. ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกติดกับภูเขาซึ่งมีชื่อเดียวกับซุ้มประตู
ซุ้มประตูไก่เขียว .. อยู่ทางทิศตะวันตกติดกับภูเขาไก่เขียว
ซุ้มโค้งทั้ง 2 แห่งอยู่ในระยะที่ห่างจากกันเพียงเล็กน้อย มีลักษณะเป็นซุ้มโค้งแบบดั้งเดิม
เมื่อรวมกับซุ้มประตูแห่งความจงรักภักดีอีกแห่งหนึ่งในอีกด้านหนึ่ง .. ซุ้มโค้งทั้งสามนี้สร้างรูปทรงสามเหลี่ยมของกลุ่มซุ้มประตูโค้ง ด้วยลักษณะเฉพาะที่โดดเด่นทำให้มองเห็นทิวทัศน์อันงดงามท่ามกลางอาคารทันสมัยใจกลางเมืองที่รายล้อมอยู่
ชื่อของ “จินมะ” และ “บิจิ”
ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าชื่อ “ซุ้มโค้งจินมะบิจิ” มาจากไหน .. บางคนกล่าวว่าชื่อของจินมะและบิจินั้น ตั้งชื่อตามภูเขาสองลูกที่อยู่ใกล้เคียงที่เรียกว่า จินมะ และบิจิ แต่บางคนคิดไปไกลกว่านั้นมาก พวกเขาคิดว่าม้าทองคำและไก่หยกเป็นเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ เหตุผลของพวกเขาคืออะไร?
.. คือ ช่วงเวลามหัศจรรย์เมื่อเงาของจินมะและบิจิเข้าใกล้ตอนพระอาทิตย์ตกและพระจันทร์ขึ้น
วัฒนธรรมของซุ้มประตูจินมะบิจิ
ซุ้มประตูม้าทองและไก่หยก ถูกสร้างขึ้นในแนวตะวันออก-ตะวันตก ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกัน .. ทุกๆ 60 ปีจะเกิดปรากฏการณ์ที่น่าพิศวง
.. ในเวลา 17.00 หรือ 18.00 น. ตรงกับวันวสันตวิษุวัต (วันที่ 22, 23 หรือ 24 กันยายน ตามปฏิทินเกรกอเรียน) และวันเทศกาลไหว้พระจันทร์ (วันที่ 15 สิงหาคม ตามปฏิทินจันทรคติ) ของปีไก่ .. เมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าและดวงจันทร์ขึ้นเงา แสงอาทิตย์บนไก่ทองจะค่อยๆ ยาวขึ้น และเงาแสงจันทร์บนไก่หยกก็ชัดเจนขึ้น จากนั้นเงาของซุ้มม้าทองและไก่หยกก็เข้ามาใกล้ทีละน้อย จนก็กลายเป็นเงาเดียวเชื่อมต่อกันในที่สุด ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เรียกว่า “จินปี้ เจียวฮุย”
.. นั่นคือฉากอันงดงามของเงาม้าทองและไก่หยกที่ทับซ้อนกัน ทำให้เกิดทัศนียภาพอัศจรรย์ลักษณะ “รัศมีบรรจบ ณ ม้าทองไก่มรกต”
.. ว่ากันว่าปรากฏการณ์เงาที่ทับซ้อนกันของม้าทองและไก่หยกปรากฏขึ้นในรัชสมัยของจักรพรรดิเต้ากวง (พ.ศ. 2364-2394) ครั้งหนึ่ง และในรัชสมัยของจักรพรรดิกวางซู (พ.ศ. 2418-2452) .. เงาของม้าทองคำและไก่หยกเกือบจะทับซ้อนกันแต่หายไปเมื่ออยู่ห่างกันเพียงไม่กี่ก้าว เนื่องจากซุ้มประตูทั้งสองแห่งนี้ไม่ได้สร้างขึ้นใหม่อย่างเคร่งครัดตามขนาดเดิมหลังจากถูกทำลายในช่วงสงคราม
ซุ้มประตูโค้งในปัจจุบันของ Golden Horse และ Jade Cock ได้รับการสร้างขึ้นใหม่ในช่วงทศวรรษ 1960 ตามขนาดดั้งเดิมอย่างเคร่งครัด หวังว่าภาพเงาซ้อนทับของม้าทองคำและไก่หยกจะปรากฏขึ้นสักวันหนึ่งในอนาคต
ซุ้มประตูม้าทองคำและไก่หยกเป็นสัญลักษณ์ของคุนหมิงมายาวนาน ผู้คนเรียกยูนนานว่าเป็นบ้านเกิดของม้าทองคำและไก่หยก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมือง
NOTE : ซุ้มประตูด้านตะวันออกที่มุ่งหน้าไปยังภูเขาจินมะเรียกว่าซุ้มประตูจินมะ ซุ้มโค้งด้านตะวันตกที่มุ่งหน้าไปยังภูเขาบิจิเรียกว่าซุ้มประตูบิจิ ร่วมกับ “ประตูจงอ้าย” ทางตอนเหนือ เพื่อรำลึกถึงซัยยิดซึ่งเป็นนักการเมืองชื่อดังในราชวงศ์หยวน (ค.ศ. 1271-1368) จึงเป็นที่รู้จักในนาม “ปินซีซันฟาง”
ประตูสามบานที่มีรูปร่างเหมือนหมุดตัวอักษรจีน ผังรูปสามเหลี่ยมประกอบด้วยรูปสี่เหลี่ยมสามรูป สถานที่สำคัญใจกลางเมืองคุนหมิง ตรงกันข้ามกับเจดีย์ทางตะวันออกและตะวันตกของอาณาจักรหนานจ้าว ซึ่งยังคงตั้งอยู่ทางตอนใต้ของคุนหมิง ซึ่งเป็นตัวแทนของสถาปัตยกรรมของอารยธรรมคุนหมิงที่เก่าแก่กว่า
Ref :
https://www.yunnanexploration.com/the-golden-horse-and-jade-rooster-archway-kunming.html
ก๋วยเตี๋ยวข้ามสะพาน … หากพลาดไม่ได้รับประทาน ถือว่ายังมาไม่ถึงคุนหมิง
สำหรับนักเดินทาง เมื่อมาถึงคุนหมิงแล้ว คุณต้องไม่พลาดที่จะหาโอกาสมานั่งทานอาหารพื้นเมืองขึ้นชื่อของชาวจีนแถบนี้ .. Cross the bridge noodles หรือก๋วยเตี๋ยวข้ามสะพาน
ในยูนนาน ร้านค้าเล็กๆ หลายแห่งขายบะหมี่ข้ามสะพานที่เสิร์ฟในชามใบใหญ่ที่ผสมไว้แล้วที่โต๊ะ ในสถานที่เหล่านี้ เป็นอาหารประเภทมื้อกลางวันที่รวดเร็ว ราคาถูก และอิ่มท้อง
ร้านที่เราไปนั่งทาน อยู่ตรงหัวมุมประตูทางเข้าด้านหนึ่งของเมืองโบราณกวนตู้ .. เท่าที่มองดูตามภาพของเมนูอาหาร เขาจะให้สั่งอาหารที่มีราคาเป็นชุด เลือกไซด์ได้ตามชอบใจ
ก๋วยเตี๋ยวชนิดนี้เขาจะเสริฟเครื่องมาก่อน .. หลังจากนั้นจะตามมาด้วยหม้อน้ำซุปเดือดๆที่ทำจากไก่ กระดูกหมู และเครื่องปรุงรส เช่น โป๊ยกั้กและขิง นอกจากนี้ชั้นไขมันไก่ยังใช้เพื่อป้องกันซุปและทำให้ซุปอุ่นได้นานขึ้นอีกด้วย
ชุดนี้สำหรับคนเดียวนะคะ .. สิ่งที่ต้องทำ คือ เทเครื่อง เช่น แฮมชิ้นบาง ไก่ชิ้น หนังไก่ เต้าหู้แผ่น กุ้ยช่าย ถั่วงอก และเส้นหมี่ลงไป เมื่อเติมลงในน้ำซุปแล้ว ส่วนผสมจะสุกอย่างรวดเร็ว โดยมีชั้นไขมันไก่ละลายและน้ำมันอยู่ด้านบน ซุปใช้เวลาปรุงไม่กี่นาที จากนั้นตักขึ้นมาใส่ชามเล็กๆรับประทานค่ะ … อืมมม คำแรกก็อร่อยโดยไม่ต้องปรุงเพิ่มอีกค่ะ
บะหมี่ข้ามสะพานมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าศตวรรษ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของคุนหมิงมาตั้งแต่ปี 2551
ก๋วยเตี๋ยวข้ามสะพานนั้น มีตำนานเล่าขานกันมานานกว่า 200 ปี .. มีที่มาและสาเหตุว่า ทำไมถึงต้องแยกน้ำ แยกวัตถุดิบมา ทำไมไม่เทรวมๆลงไปเลยก่อนมาเสริฟ … แล้วทำไมถึงเรียกว่า “ก๋วยเตี๋ยวข้ามสะพาน” บางคนอาจจะเข้าใจว่า ต้องข้ามไปสะพานไปกินอาหารชนิดนี้ บ้างก็เข้าใจว่าร้านก๋วยเตี๋ยวตั้งอยู่บนสะพานบ้าง
แท้จริงแล้ว เรื่องที่เล่าเรื่องหนึ่งนั้นมีอยู่ว่า …
มีนักปราชญ์คนหนึ่งกำลังเรียนอย่างหนักเพื่อการสอบ .. เขาไปท่องตำราที่ศาลาบนเกาะกลางทะเลสาบ ณ เมืองเหมิงจื้อ มณฑลยูนนาน .. ภรรยาของนักปราชญ์คนนี้ต้องส่งอาหารไปให้เขาทานทุกวัน แต่เพราะระยะทางที่ห่างไกลจากบ้านมาก และต้องข้ามสะพาจึงจะไปถึงเกาะแห่งนั้นได้ จึงทำให้อาหารเย็นชืด และสูญเสียรสชาต
อยู่มาวันหนึ่งเธอต้มไก่ตัวหนึ่ง แล้วตักซุปไก่ร้อนๆใส่ลงไปในชาม เมื่อทำเสร็จแล้วเธอรู้สึกเพลียจนหลับไป
… เมื่อตื่นขึ้นมาก็จับชามดู พบว่าซุปไก่ยังร้อนอยู่ เธอจึงคิดได้ว่า น้ำมันไก่ที่ลอยขึ้นมาด้านบนของน้ำซุปไก่ ได้ทำหน้าที่เป็นฉนวนและทำให้น้ำซุปอุ่น รักษาอุณหภูมิได้ เธอจึงหิ้วซุปไก่ที่ร้อน แล้วนำเส้นบะหมี่และส่วนผสมอื่นๆ ผัก เนื้อหมู เนื้อปลา ขนมจีน และเครื่องปรุงใส่ไปในภาชนะแยกต่างหาก
.. เมื่อเธอมาถึงเกาะ เธอก็ผสมภาชนะทั้งสองเข้าด้วยกันเพื่อทำซุปอุ่นๆ เพื่อให้สามีได้ทานก๋วยเตี๋ยวที่ทั้งสดและนิ่ม รสชาตอร่อย ต่อมา นักปราชญ์คนนี้สอบได้เป็นจอหงวน
ก๋วยเตี๋ยวดังกล่าวจึงได้ชื่อว่า “กั้วเฉียวหมี่เซียน” หรือก๋วยเตี๋ยวข้ามสะพาน นั่นเอง
ในถนนย่านการค้าแห่งนี้ เป็นแหล่งเสื้อผ้าแบรนด์เนมทั้งของจีนและต่างประเทศ เช่น ร้านเครื่องประดับอัญมณี ร้านเครื่องดื่ม ร้านอาหารทั้งสากลและอาหารพื้นเมือง รมถึงร้านขายของที่ระลึก และอื่นๆอักมากมาย … มีทั้งของถูกและของแพง ขึ้นอยู่กับฝีมือการต่อรอง
สิ่งที่ฉันชอบเป็นพิเศษในบริเวณนี้ คือ รูปแบบของการนำเอางานศิลปะในรูปแบบต่างๆ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของความเคลื่อนไหวในลานแห่งนี้
.. แผนที่ของจตุรัส?
.. ชอบเสาที่ดูคลาสสิกด้วยลักษณะ และตัวอักษรจีน ที่อาจจะบอกเล่าเรื่องราวบางอย่าง
.. ชอบรูปปั้นบุคคล บรอนซ์ ในอิริยาบถต่างๆ ดูสนุกสานาน
**หากมีเวลาและโอกาส ก็แวะมาเดินเที่ยวนะคะ
บันทึก
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย