10 มี.ค. เวลา 07:32 • นิยาย เรื่องสั้น

เรื่องเล่าวันฝนตก #18

ครืน…นนนนนนน เสียงฟ้าร้องคำราม..ดังก้องอยู่ในม่านเมฆสีเทาบนฟ้า ไม่นาน…เม็ดฝนก็ทะยอยตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย
ชายคนนั้นยืนนิ่ง…กลางสายฝน
และในนาทีเดียวกัน สาธิตที่หมอบอยู่บนหลังคารถตู้ พอจะรู้แล้วว่า สิ่งที่จ่อหัวเขาอยู่นั้น…น่าจะเป็นปลายกระบอกปืน แต่เขาไม่รู้จริงๆว่า คนที่จ่อหัวเขาอยู่นั้นเป็นใคร มาทำอะไรที่นี่
สาธิตทำได้แค่เพียงยกมือขึ้น แสดงความจำยอมต่อเหตุการณ์ทั้งหมด สายฝนที่ตกลงมาหนักขึ้นในรอบนี้ ทำให้เนื้อตัวเขาเปียก และออกอาการสั่นเทา ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะหนาวหรือกลัว
“ยอมแล้วครับ" สาธิตบอกคนที่เอาปืนจ่อหัวเขา แต่ยังไม่กล้าหันไปมอง
"มึงมาทำอะไรที่นี่" สายสืบเอ ที่เฝ้าซุ้มดูเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นของวันนี้ เอ๋ยปากถาม เพื่อเช็ครายละเอียดว่า ไอ้หนุ่มคนนี้มันจะบอกความจริงเขามากน้อยเพียงใด จริงๆแล้วสาธิตไม่อยากจะควักปืนออกมาขู่พร่ำเพื่อแบบนี้ แต่เขาไม่รู้ว่า…จะใช้อะไรมาหยุดสิ่งที่ไม่ไว้ใจตรงหน้า นอกจากปืน…
“เรื่องมันยาวนะ พอจะมีเวลาซักห้านาทีไหมครับ “ สาธิตตอบเหมือนประโยคฮิตในโลกออนไลน์
สายสืบเอ ผู้ซึ่งไม่ค่อยเล่นโซเชี่ยล เลยไม่รู้สึกอะไรกับประโยคนี้….
“เอาแบบสั้นๆ มึงมาทำอะไรตรงนี้ ? " สายสืบเอ บอกคนที่หมอบอยู่
ปั้ง!ๆ ตุ๊บๆ
 
เสียง ปั้ง !!! ที่ดังขึ้น ทำให้ทั้ง สายสืบเอ และ สาธิตหยุดเหตุการณ์ตรงหน้า แล้วมองหาต้นเสียง
ปั้ง! ปั้ง ปั้ง !!!!!
เสียงเริ่มดังหนักขึ้น จนรู้ว่า..เสียงนั้นถูกส่งออกมาจากด้านในรถตู้ สาธิตซึ่งรู้อยู่แล้วว่า ชายคนนั้นเป็นต้นเหตุ เขาคงได้สติแล้ว…ถึงได้ออกอาการโวยวายแบบนี้
สายสืบเอ ยังยืนนิ่งเล็งปืนตรงไปที่สาธิต ทว่าในหัวตอนนี้กำลังใช้ความคิดแก้ไขเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้าให้ดีที่สุด
ย้อนหลังกลับไปก่อนหน้านี้ สายสืบเอได้ยินเสียงดังคล้ายปืน แต่ด้วยเพราะสายฝนที่ตกลงมา ทำให้เสียงนั้นไม่ชัดเจน แต่สายสืบเอไม่วางใจกับการสงสัยครั้งนี้ เขาคิดว่าข้างนอกคงเกิดเรื่องราวบางอย่างขึ้นแน่ๆ จึงปลดกุญแจที่ล็อกข้อมือตัวเอง คล้องไว้กับชายแปลกหน้า แล้วเปลี่ยนมาล็อกชายคนนั้นไว้กับเสา ตรงที่ซ่อนตัวใกล้คลังแสง
แล้วสายสืบเอก็ออกมาตามหาต้นตอเสียงที่สงสัย
ด้วยเพราะเสียงฟ้าและสายฝนทำให้เขา เดินตามหาสิ่งผิดปรกติอยู่นาน…. กระทั่งสายสืบเอ ก็พบกับชายคนหนึ่งที่กำลังหมอบอยู่บนหลังคารถตู้กลางสายฝน
ม่านฝนที่เกิดขึ้นนั้น…กั้นให้สายตาสายสืบเอ สังเกตุรายละเอียดได้ไม่ชัดเจนว่า… ชายคนนั้นเป็นใคร จากนั้น สายสืบเอ ก็พยายามเคลื่อนตัวเข้าหารถตู้สีดำ และรอจังหวะจนแน่ใจว่าปลอดภัย จึงปีนขึ้นไปบนหลังคารถ คว้าปืนขึ้นมาหวังขู่ชายคนที่ไม่น่าไว้ใจคนนี้
กระทั่งชายคนดังกล่าว ส่งเสียงตอบออกมา สายสืบเอถึงได้รู้ว่า เขาคือคนหนึ่งในกลุ่มชายที่สุงสิงกับกำนัน สายสืบเอ นึกย้อนกลับไป แล้วถามตัวเองว่า ชายคนนี้รอดสายตาเขาออกมาที่ตรงนี้ได้อย่างไรนะ
ยังไม่ทันที่จะได้คำตอบ ทั้งสองก็ตกใจกับเสียง เปรี้ยง!!!!! ฟ้าผ่าลงตรงตอไม้ไกล้รถตู้
เกิดประกายไฟจากแรงฟ้า ทำให้ทั้งคู่หันไปมองทางต้นเสียง
สาธิตไม่รอช้า…ใช้จังหวะนั้น พลิกตัวเอง ให้ตกลงมาจากหลังคารถตู้…
ตุ๊บ!!!! ความรู้สึกเจ็บและจุกวิ่งเข้าหาสาธิตทันที มันมาแทนที่ความตกใจกับเสียงฟ้าเมื่อครู่ สาธิตตัวสั่นเทา นอนนิ่งตั้งสติบนพื้นดินโคลนชุ่มน้ำ เขาหลับตานอน นิ่งคิด…ที่ผ่านมาสาธิตไม่เคยอยู่ไกล้สายฟ้าขนาดนี้ เมื่อกี้เขารับรู้ได้ถึงแรงประจุไฟฟ้าที่ฟ้าดลงมา…มันน่ากลัวกว่าที่คิดไว้เยอะเลย
“เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ “ สาธิตบอกตัวเอง พลางพลิกร่างตัวเองม้วนตัวเข้าไปหลบที่ใต้ท้องรถ… อย่างน้อยในนี้น่าจะปลอดภัยจาก กระสุนปืนจากชายคนนั้น ไม่มากก็น้อย
ครืน.น….นนนนน เสียงฟ้าคำราม พร้อมกับการไหลของน้ำฝนบนพื้นดิน ที่กลายเป็นโคลนสีน้ำตาลมาโอบรอบตัวสาธิต ยามนี้ฝนคงตกลงมาหนักที่สุดของวัน ไม่นานเขาอาจจะนอนอยู่ในสภาพที่ดินโคลนท่วมปากก็ได้ สาธิตคิด..และยังไม่รู้ว่าชายคนนั้นอยู่ที่ไหน เขาอาจจะยังยืนอยู่บนหลังคารถตู้ หรือกระโดดลงมาที่พื้นแล้ว เขาจะยังตามหาเราไหมนะ… สาธิตถามตัวเอง
ตุ๊บ !! บังเกิดเสียงฝีเท้า ลงแรงกระทบพื้น ที่รู้สึกได้แบบนี้ เพราะเสียงนั้นอยู่ใกล้หัวสาธิตที่นอนอยู่ใต้ท้องรถ เขาหันหัวตัวเองไปทางประตูรถตู้ ใกล้กับเสียงฝีเท้าที่ได้ยิน
ใช่แน่ๆ คนที่ถือปืนกระโดดลงมาแล้ว…. สาธิตนอนคิดนิ่งกลางกระแสน้ำโคลนที่ไหลมากระทบตัว เขาคิดอะไรไม่ออกเลย นอกจากความรู้สึกอยากจะหนีห่างไปจากรถคันนี้
ครืน…นนนนนนนน เสียงฟ้าคำรามน่ากลัว
ประตูหลังรถตู้ถูกเปิดออก จากสายสืบเอที่ล้มเลิกการตามหาชายคนนั้น แล้งเขาก็พบกับร่างชายคนหนึ่งที่โดนมัดมือและเท้าไว้นอนดิ้นบนพื้นรถตู้แทน
ปล่อยคนหนึ่งไป ดันพบกับอีกคน มันเป็นใครวะ สาธิตถามตัวเองในใจ
ที่สาธิตปล่อยชายคนที่เจอบันหลังคารถนั้นไปก่อน เพราะคิดว่า ยังไงแล้ว…ชายคนนั้นคงไปไหนได้ไม่ไกล เขาอาจจะกลับเข้าไปหาพวกกลุ่มชายที่สุงสิงกับกำนัน หรือไม่ก็หนีไปเลยก็ได้ แต่ก็ไม่เป็นไร เขาคนนั้นไม่ค่อยสำคัญเท่าไหร่ เพราะเป้าหมายของสายสืบเอและทีม อยู่ที่ การเข้าจับกุมซึ่งๆหน้า ที่มีของกลางและผู้ต้องหา ที่จะนำพาการสืบสวนเข้าหา กลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังการส่งของล็อตนี้
สายสืบเอกระโดดขึ้นไปบนรถตู้ …แล้วปิดประตู ความมืดเข้ามาแทนที่แสง และเสียงฟ้าฝนข้างนอกทันที ยามนี้บริเวณในรถตู้ มองเห็นเพียงลำแสงของฟ้าสลัว ที่ลอดผ่านรู้รั่วบนหลังคารถ มาพอรำไร ชายคนนั้นยังพลิกร่างไปมา เขาดิ้นรนเพื่ออยากจะหลุดพ้นจากการโดนมัดมือเท้า สายสืบเอ พยายามเก็บรายละเอียดชายคนนี้จากแสงสลัวที่ทำให้รายละเอียดที่มองเห็นไม่ชัดเจน
สายสืบเอทนความสงสัยตัวเองไม่ไหว เขาเก็บปืนที่ถือเข้าซองตรงเอว แล้วหยิบไฟฉายขึ้นมาส่องตรงไปชายคนั้น
ภาพนั้นทำให้สายสืบเอ ประหลาดใจ
“ อ้าว..ไอ้ชัด…มึงมาอยู่ตรงนี้ได้ไง “ สายสืบเอพูดออกไป
“ ใครครับเนี่ย…ช่วยแก้มัดผมก่อนได้มั้ยครับลูกพี่ “ ไอ้ชัดอ้อนวอน เขาคงยังมองไม่เห็นใบหน้าคนส่องไฟ
“มึงตอบกูมาก่อน…” สายสืบเอ ไม่ประมาท เขาต้องเค้นเอาความจริงจากชายคนนี้ เพราะ ไอ้ชัดที่นอนอยู่ตรงหน้า คือ สิบเอก ชัชวาล์ สายลับอิสระ ที่กองสืบสวนราชการลับมักเรียกใช้งานเขาบ่อยๆ ตำรวจส่วนมาก ไม่รู้จักเขา เพราะทุกงานมันเป็นความลับขั้นสุด ที่สายสืบเอรู้จัก เพราะเคยร่วมสืบสวนคดีด้วยกันเมื่อหลายปีก่อน
“ ดับไฟๆ ขอดูหน้าก่อน พวกเดียวกันมั้ย เสียงคุ้นๆ “ ไอ้ชัดยังไม่ยอมตอบสายสืบเอ จนกว่าจะแน่ใจว่าคนที่ส่องไฟมาเป็นใคร
สายสืบเอ ไม่ดับไฟฉาย แต่เอามันมาส่องหน้าจากปลายคาง แสงไฟนั้นทำให้ไอ้ชัดร้องออกมา
“ เชี่ย !!!! ผีหลอก “ ไอ้ชัดร้องออกมา
สายสืบเอ ส่องไฟฉายกลับไปทางไอ้ชัด “ตลกละมึง กูเอง “
“ พี่ แก้มัดก่อน ผมเมื่อย “ ไอ้ชัดอ้อนวอน
สายสืบเอ นิ่งแทนคำตอบ เขายังส่องไฟไปที่หน้าของไอ้ชัด
“ โอเคๆ ผมมาทำงาน แต่พี่ก็รู้ว่า ผมตอบอะไรพี่มากไปกว่านี้ ไม่ได้ มันเป็นงาน “ ไอ้ชัดเปิดปาก ซึ่งสายสืบเอ ก็พอจะเข้าใจในคำตอบ เพราะการสืบคดีจะมีไลน์ของตัวเอง แต่ละหน่วยจะปล่อยข้อมูลที่เปิดเผยได้เท่านั้น
สายสืบเอ ปิดไฟฉาย แล้วล้วงเอาไฟติดผนังออกมาจากกระเป๋า เขาติดมันไว้บนหลังคารถ ความสว่างของไฟ ทำให้พื้นที่โดยรอบชัดเจนขึ้น
ภาพตรงหน้า ทำให้สายสืบเอ อมยิ้ม ไอ้ชัดโดนมัดมือเท้า จนสิ้นลายสายลับ นอนดิ้นไปมา ส่งสายตาอ้อนวอน
ไม่กี่นาทีต่อมา ไอ้ชัดเป็นอิสระจากสายรัดพลาสติก สีและสัญลักษณ์ของสายรัดทำให้สายสืบเอ พอจะรู้ว่า มันมาจากใคร
“ พี่พอจะรู้สถานการน์นะ ผมไปก่อนนะครับ เดี๋ยวเสียงาน ขอบคุณครับ “ ไอ้ชัดตอบสั้นๆ แต่คำตอบนั้น เหมือนจะส่งคำถาม มากมายมาหาสายสืบเอ ให้ขบคิด
ประตูรถตู้ถูกเปิดออก เสียงฟ้าและสายฝน วิ่งเข้ามาหาสายสืบเอ ที่นั่งนิ่งคิดเรื่องราวต่างๆในหัว ให้ได้สติอีกครั้ง
ไอ้ชัดเดินจากไปในม่านฝน ทิ้งสายสืบเอ….ที่ยังนั่งนิ่งคิดอะไรต่อมิอะไรในรถ สายสืบเอมองปืนที่วางนอนอยู่บนพื้นรถ แล้วหยิบมันขึ้นมาพิจารณาใกล้ๆ สัญลักษณที่สลักไว้บนปลายประบอกปืน ทำให้สาธิตสับสน
ปืนจากหน่วยลับนี้ มาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง
เรื่องวุ่นๆ เมื่อหลายปีก่อน…เดินทางกลับมาให้สายสืบเอ..คิดอีกแล้ว….
ครืน…นนนนนนน. เสียงฟ้าร้องคำราม เหมือนกำลังบอกสายสืบเอว่า….. ความยุ่งยากกำลังเดินทางเข้ามาอีกครั้ง
โฆษณา