ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปลายปี 2024 นี้ หลายประเทศทั่วโลกทยอยจัดการเลือกตั้งตลอดทั้งปี โดยรวมๆ แล้วมีประชากรกว่าครึ่งหนึ่งของโลกต้องเข้าคูหาเลือกตั้งในปีนี้
ประเทศแรกที่จบไปแล้ว คือ ไต้หวัน ในเดือนมกราคม ที่ผ่านมา โดยชัยชนะ ตกเป็นของ ไล่ชิงเต๋อ จากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าที่เข้ามาสานต่อนโยบายจากรัฐบาลเดิมได้สำเร็จ
และตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป หลายประเทศในยุโรปมีคิวจัดการเลือกตั้งกันต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น โปรตุเกส, เบลเยี่ยม, โครเอเชีย, โรมาเนีย, ออสเตรีย รวมถึงสหราชอาณาจักร และอื่นๆ อีกหลายประเทศ
อีกประเทศที่ต้องจับตาคือ รัสเซีย ที่จะมีการเลือกตั้งในเดือนมีนาคมเช่นกัน โดยคาดกันว่า วลาดิมีร์ ปูติน จะสามารถครองตำแหน่งประธานาธิบดีได้อีกสมัย ซึ่งปูตินอยู่ในตำแหน่งนี้มาตั้งแต่ปี 1999 และเชื่อว่าจะครองตำแหน่งนี้ยาวไปอีก 6 ปี
ถัดมาในเดือนเมษายน เป็นคิวของแดนภารตะ อินเดีย ที่ นเรนทรา โมดี นายกฯ คนปัจจุบันจะลงสู้อีกครั้ง และคาดการณ์ว่าจะนำชัยชนะมาได้เป็นสมัยที่ 3
ไฮไลท์เลือกตั้งแห่งปี 2024 คงอยู่ที่เดือน พฤศจิกายน ในศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ ระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน และโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีคนที่ 45 ที่ขอกลับมาแก้มืออีกครั้งในการเลือกตั้งปีนี้
และถือเป็นคู่เดือดแห่งปี เพราะแค่เริ่มต้นปี ทั้ง 2 ฝ่ายก็เปิดศึกใส่กันแล้ว กว่าจะถึงวันเลือกตั้งคงต้องฟาดฟันกันอีกหลายยก
ประเทศยักษ์ใหญ่ที่เดินหน้าสู่การเลือกตั้งในปีนี้ มีสัดส่วนถึง 60% ของเศรษฐกิจโลก และย่อมส่งผลต่อความไม่แน่นอนในตลาดการลงทุน นักลงทุนคงต้องติดตามกันแบบตาไม่กระพริบ
#BBLAM #เศรษฐกิจ #การลงทุน #กองทุน #กองทุนรวม