16 มี.ค. เวลา 05:18 • นิยาย เรื่องสั้น

บันทึกรักของชายหนุ่มตอนที่ 2

บางทีในวันเวลา สถานที่ และสถานการณ์ เราอาจจะอยู่ด้วยกันตรงนั้นแล้วนับครั้งไม่ถ้วน เพียงแต่ความสัมพันธ์ของเรานั้นเป็นคนแปลกหน้าซึ่งกันและกัน เราจึงหากันไม่เจอ
บทกวีสีน้ำผึ้ง
หลังจากที่ชายหนุ่มตื่นขึ้นมาแล้วพบว่า หญิงสาวที่ตนนั้นแอบปลื้ม มาทอดสะพานให้ เย็นวันหนึ่งก่อนเลิกเรียน ในคาบวิชาชมรม ทั้งสองได้เวลาพักหรือคาบฟรี เนื่องจากเป็นสัปดาห์เริ่มต้น คุณครูประจำชมรมส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยมีกิจกรรมให้ นักเรียน แต่ก็มีชมรมหนึ่งได้มีการเริ่มต้นไปแล้วในวันนั้น ซึ่ง เป็นชมรม เด็กขายของ ซึ่งเป็นตลาดนัดเล็กๆ ที่ให้นักเรียนและคุณครู เอาของ ใช้ หรือ อาหาร มาขายได้ ในขณะเดียวกัน ชายหนุ่ม ได้ยินว่า ในตลาดนนั้น มี กระเป๋ารูปเสือกระโดดใบหนึ่งที่ เด็กหญิงนั้น อยากได้เป็นพิเศษ
ชายหนุ่มจึงไม่รีรอ ที่จะควักเงินที่เป็น ค่าขนมของตัวเอง ประมาณ 80 % ของทั้งสัปดาห์เพื่อซื้อกระเป๋าใบนั้น แล้วฝากบัดดี้ของตัวเองที่เป็นเพื่อนของหญิงสาวไปให้ พร้อมกับคำถามและข้อความที่อยากจะแสดงความรู้จัก กับเธอคนนั้น
ในตอนเย็นของวันนั้น ชายหนุ่ม แทบไม่กินข้าวเย็น เพราะเขากำลัง ลุ้นว่า จะเกิดอะไรขึ้น ในช่วงเวลาหลังจากนี้ ในวิดีโอที่ชายหนุ่มได้ร้องเพลง ให้กับแฟนเก่า แต่กลับมีหญิงสาวอีกคนที่ชายหนุ่มสนใจ มาแสดงความคิดเห็นทั้งๆที่ ทั้งสองไม่ได้เป็นเพื่อนกันในที่แห่งนี้ แต่เหมือนหญิงสาวก็แอบสนใจชายหนุ่มเหมือนกัน ด้วยโอกาศที่ คลิปวิดีโอนั้นเปิดเป็นสาธารณะ จึงเป็นโอกาสที่ชายหนุ่มจะได้ move on จากเรื่องเก่าอย่างง่ายดาย
ยังไม่ถึงเวลาเข้านอน แต่เนื่องจากความเหนื่อยล้าจากการเรียน ชายหนุ่มเผลอหลับไป แต่เขาไม่รู้เลยว่าข้อความ จากหญิงสาวนั้น ได้ถูกส่งมาในเวลาที่เขากำลังหลับฝัน
ในตอนเช้าของอีกวัน ชายหนุ่มกำลังอาบน้ำแต่งตัว เขาเปิดสมาร์ทโฟนขึ้นมา และแทบจะเคี้ยวแปรงสีฟัน เมื่อเห็นข้อความที่หญิงสาวทักมาแทนที่จะขับมอเตอร์ไซค์ค่ายปีกนกสีแดงที่แม่ใช้จ่ายตลาดเป็นประจำไปโรงเรียน ด้วยความเร็ว60km/hr เขาบิดมันสุดกำลังเท่าที่เครื่องยนต์นั้นจะรับไหว ด้วยความตื่นเต้น หลังจากเลิกกิจกรรมหน้าเสาธง ชายหนุ่ม เดินเข้าไปหาหญิงสาว พร้อมกล่าวถ้อยคำด้วยความเขินอาย และเอ่ยปากชวนเธอเพื่อ กินข้าว เที่ยงของวันนี้ด้วยกัน หญิงสาวตบปากรับคำทั้งสองมองหน้ากันแล้วยิ้มให้กันราวกับคนที่รู้จักกันมาก่อน
ท่ามกลางเสียงแซวของเพื่อนๆ ที่โห่ร้องและยุยงทั้งสองฝั่งอย่างเสียงดัง กลางลานหน้าห้องสมุด สองคนต่างก็ตัวบิดเหมือนผ้าก่อนตาก ทั้งสองแยกย้ายกันเข้าเรียน และในวันนี้ คงเป็นวันที่ทั้งสองได้สบตากันเป็นครั้งแรก และทักทายกัน สำหรับในวันนี้ แม้แต่วิชาที่ยากที่สุดของที่ทั้งสองเรียน ก็แทบจะไม่ทำให้ทั้งสองคนรู้สึกอะไรเลย เพราะในหัวของพวกเขาทั้งสองไม่ได้บวกเลขหรือคำนวณหาค่าแรงเสียดทานของนิวตัน แต่มันคงจะเป็นภาพของคนอีกคนที่นึกถึงกันตลอดเวลา
ถึงเวลาที่ทั้งสองนั้นนัดกัน ในโรงอาหารที่กว้างใหญ่ และมีผู้คนอีกมากมาย แต่นั่นก็ไม่สามารถหยุดยั้งการพบกันของทั้งสองได้ ในมื้อกลางวัน สำหรับมื้ออาหารในวันนี้มีเพียงแค่ แซนวิสและไอศครีมที่ทั้งสองนั้นเลือกเหมือนกัน แต่สำหรับพวกเขาแล้วมันคงจะเป็นเหมือนมื้อค่ำใต้แสงเทียน ณ ร้านอาหารสุดโรแมนติก ณ กรุงโรม ที่มีเพียงเราสองคนร่วมโต๊ะและพูดคุยกัน ทั้งสองได้รู้จักกันและพูดคุยกันมากขึ้น หลังจากนี้ ความสัมพันธ์จากคนแปลกหน้า จึงกลายเป็นคนที่รู้จักกัน พวกเขาคงไม่เดินผ่านกันเหมือนที่ผ่านมาอีกแล้ว
ต่อจากนี้ไป มุมมองของชายหนุ่ม จะมีเพียงหญิงสาวและในนัยต์ตาของหญิงสาวก็คงจะเป็นแบบนั้นเช่นกันไม่ผิดเพี้ยน ที่เขากล่าวว่าโลกทั้งใบมองไปทางไหนก็เป็นสีชมพู นั่นคงไม่ใช่เรื่องโกหกสำหรับทั้งสองอีกต่อไป
สำหรับมัธยามปลายนั้น มันช่างเป็นอะไรที่พลุกพล่าน และอลหม่าน แต่นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของหลายๆสิ่ง ไม่ใช่เพียงแค่การเรียนรู้วิชาการหรืออะไรทำนองนั้น แต่ประสบการณ์และทัศนคติ จากเรื่องนอกเหนือเหล่านี้จะถูกพัฒนาและเติบโตเป็นส่วนหนึ่งของพวกเขาทั้งสอง เพื่อเตรียมพร้อมสู่โลกความจริง ในอนาคตที่จะมาถึง
(ผู้เขียน)
ตอนที่ 2 กลายเป็นคนที่ไม่แปลกหน้า
โฆษณา