บทบาทใหม่ของ Vinicius Jr. ที่ Real Madrid
Vinicius Junior ในตำแหน่งกองหน้าตัวกลาง?
เมื่อไม่นานมานี้ แนวโน้มนี้อาจดูเหลือเชื่อ เมื่อ Real Madrid คว้าแชมป์ Champions League ครั้งล่าสุดในปี 2022 Vinicius Jr. เป็นปีกซ้ายจอมเลื้อยที่ประสานงานและสร้างโอกาสทำประตูร่วมกับ Karim Benzema ได้อย่างดุดัน ก่อนหน้านั้น เขาเป็นวัยรุ่นดาวรุ่งจาก Flamengo ที่มีทักษะมากมายแต่ขาดความเฉียบคม
แต่ตอนนี้หลายสิ่งเปลี่ยนไปมากแล้ว
การย้ายออกไปอย่างเซอร์ไพรส์ของ Benzema ไปสู่ทีม Al Ittihad ในซาอุดิอาระเบียเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่แล้ว ทำให้โค้ช Carlo Ancelotti ต้องเปลี่ยนแท็กติก โดยจับคู่ Vinicius Jr. กับเพื่อนร่วมชาติชาวบราซิลอย่าง Rodrygo ในแผน 4-4-2 แม้ว่าเขาจะยังห่างไกลจากการเป็นกองหน้าโดยธรรมชาติ แต่ Vinicius Jr. ยิงได้ 16 ประตูและทำแอสซิสต์อีก 8 ครั้ง จากการลงสนาม 27 นัดในฤดูกาลนี้ โดยมีเพียง Jude Bellingham (ทำได้ 20 ประตูและ 9 แอสซิสต์จาก 31 นัด) ที่มีสถิติโดดเด่นกว่าเขาในทีม Madrid
แล้วตอนนี้บทบาทที่แน่นอนของนักเตะวัย 23 ปีผู้นี้คืออะไร เปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหนเมื่อเทียบกับฤดูกาล 2022-23 และอะไรทำให้เขามีประสิทธิภาพมากขึ้นในตำแหน่งตรงกลาง?
การเปลี่ยนแผนของ Ancelotti อาจไม่ได้ดูลงตัวสำหรับ Vinicius Jr. เสมอไป
ช่วงต้นฤดูกาลมีสัญญาณที่ดี แต่ Bellingham กลับเป็นผู้เล่นที่รับประโยชน์สูงสุดจากระบบ 4-4-2 รูปเพชรไดมอนด์ที่ใช้งานในช่วงนั้น โดยตัวเขาทำประตูได้ในจำนวนที่น่าประทับใจจากจังหวะเติมเข้าไปในพื้นที่ที่ Benzema เคยครอง
อาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อหลัง (hamstring) สองครั้งไม่ได้ช่วยให้เขาฟอร์มดีขึ้น แต่ Vinicius Jr. ค่อยๆ ทยอยทำประตูเพิ่มขึ้น ขณะที่ Bellingham ตอนนี้เป็นหนึ่งในสองกองกลางตัวกลางที่ถอยลงมาช่วยฟูลแบ็คฝั่งรับ เกิดเป็นรูปมิดฟิลด์แบบกล่องสี่เหลี่ยม Ancelotti ได้ปรับเปลี่ยนหลังจากที่ Madrid พ่ายแพ้ในศึกดาร์บี้แมตช์ต่อ Atletico Madrid 3-1 เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งตอนนั้นทีมโดนบุกเกมรุกด้านข้างเล่นงาน
แหล่งข่าวระบุว่า Madrid ไม่ได้เล่นระบบไดมอนด์หลังจากที่ชนะ Girona ตอนไปเยือน 3-0 เมื่อช่วงปลายเดือนกันยายน โดยระบุว่า Vinicius Jr. ยังคงเล่นตำแหน่งปีก แต่ใช้แรงน้อยลงเมื่อไม่ได้ครองบอล "เมื่อเล่นทั้งแบบไดมอนด์หรือสี่เหลี่ยมในเวลาต่อมา Vinicius Jr. จะครองพื้นที่ด้านในมากกว่าฤดูกาลก่อน" แหล่งข่าวระบุ
ตำแหน่งปีกซ้ายถนัดของเขาเป็นบริเวณที่มีการสัมผัสลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับฤดูกาลก่อน (โดยเฉลี่ยต่อเกมจะสัมผัสบอลน้อยลง 4 ครั้ง) และจำนวนการสัมผัสในเขตโทษฝั่งตรงข้ามก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก
เขาได้โอกาสยิงมากขึ้นในฤดูกาลนี้ (เฉลี่ย 3.4 ครั้งต่อเกม เทียบกับ 2.5 ครั้งในฤดูกาลก่อนหน้า) ขณะที่ระยะยิงเฉลี่ยก็ลดลงด้วย ค่า expected goal (xG) หรือคาดการณ์โอกาสทำประตูจากการยิงมีตัวเลขเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 0.14 เป็น 0.16 ซึ่งบ่งชี้ว่าโอกาสที่เขาได้รับมีความอันตรายมากขึ้น
"สภาพแวดล้อมใหม่นี้ทำให้เขาได้จบสกอร์ด้วยการสัมผัสเพียงครั้งเดียวในเขตโทษบ่อยขึ้น" แหล่งข่าวที่อยู่ในทีมโค้ชระบุ "เราฝึกเรื่องการจบสกอร์กับเขามาตลอด ทั้งการจบในระยะใกล้ มุมแคบ สมัยยังเล่นปีก และตอนนี้ที่เขาขยับมาเล่นด้านในมากขึ้น ก็จะมีรูปแบบการยิงที่หลากหลายขึ้น"
แหล่งข่าวใกล้ชิด Vinicius Jr. ให้ความเห็นว่า แม้ว่าเขาจะไม่รังเกียจการเล่นด้านในมากขึ้นในช่วงต้นฤดูกาล แต่มันก็ทำให้เกิดความยากลำบากสำหรับตน เขารู้สึก "โดดเดี่ยวมากขึ้น" ตอนอยู่แดนหน้าและมีพื้นที่น้อยกว่าตอนเล่นตำแหน่งปีก แต่สิ่งที่ดีจากการที่เขาเล่นตำแหน่งยืนสูงและชิดในมากขึ้นคือเขาได้ใกล้ประตูมากกว่าเดิม"
Vinicius Jr. บางทีก็ยังคงเล่นเป็นปีก แต่โค้ชของ Madrid พยายามให้เขาเคลื่อนไหวในตำแหน่งที่คาดเดาได้ยาก
ตัวอย่างจากเกม Champions League รอบแบ่งกลุ่มกับ Braga จากโปรตุเกสในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เขาขยับมาเล่นตำแหน่งกองหน้าตัวกลาง ระหว่าง Vitor Carvalho กองกลาง และ Jose Fonte ปราการหลังทีมเยือน ในขณะที่บอลถูกส่งไปที่ Lucas Vazquez ที่อยู่ด้านขวานั้น Vinicius Jr. สร้างพื้นที่ด้วยการวิ่งฉีกออกไปรับบอลจาก Vazquez แตะบอลสองครั้งเพื่อหลบ Jose Fonte แล้วซัดตูมด้วยเท้าขวาผ่านมือผู้รักษาประตู
อีกหนึ่งจังหวะเมื่อเจอ Valencia ช่วงต้นเดือนนี้ มีเค้าลางความเป็น Benzema
ขณะที่ Madrid กำลังตามหาประตูตีเสมอช่วงท้ายครึ่งหลัง Vinicius Jr. วิ่งขึ้นไปอยู่ในระดับแนวเดียวกับกองหน้าหมายเลข 9 Joselu เมื่อบอลเล่นออกมาถึง Federico Valverde แต่เขาก็หลุดจากผู้เล่นที่มาร์คเขาสองคนเมื่อจังหวะเล่นขยายออกไปทางกว้าง ก่อนโถมตัวเข้าชาร์จจ่อๆ จากลูกเปิดของ Brahim Diaz นับเป็นหนึ่งในสี่ประตูที่เขาทำได้จากในระยะ 6 หลาในฤดูกาลนี้ หรือมากกว่าฤดูกาลก่อนถึงสองเท่า
เขาได้พูดถึงจังหวะการเคลื่อนไหวที่ชาญฉลาดของตัวเองหลังจากทำประตูที่สี่จากการลงสนามสามเกม เมื่อยิงใส่ Celta Vigo สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
"ผมพยายามช่วยเต็มที่ด้วยการปรับเปลี่ยนสไตล์การเล่นของตัวเอง" Vinicius Jr. ให้สัมภาษณ์กับทาง Real Madrid TV "ผมหยุดไม่อยู่กับที่หรอก เพราะเวลาเล่นปีกไม่ดี ผมก็จะขยับเข้ามาด้านในแล้วคู่แข่งก็จะไม่รู้ว่าต้องป้องกันอย่างไร"
นัดชนะ Leipzig ในถ้วยยุโรปมีหลักฐานยืนยันเรื่องนี้เช่นเดียวกัน
ขณะที่ Castello Lukeba จาก Leipzig กำลังจดจ่อกับ Bellingham ที่วิ่งเติมมา Vinicius Jr. ก็พุ่งเข้าไปอยู่ในพื้นที่ว่างระหว่าง Lukeba กับ Willi Orban ปราการหลังตัวกลางอีกคน ก่อนที่จะยิงผ่าน Peter Gulacsi อย่างงดงาม
และแม้ว่าจะมีจังหวะปะทะตัวต่อตัวกับฟูลแบ็คน้อยลง เขาก็ยังใช้ความเร็วที่เขามีในประโยชน์ได้เต็มที่ ดูได้จากประตูแรกของการทำแฮตทริกใส่ Barcelona ในถ้วย Super Cup ซึ่งเขาแหวกแนวรับ Ronald Araujo และกับดักล้ำหน้าที่ผิดพลาด ก่อนจะแตะบอลผ่าน Marc-Andre ter Stegen ผู้รักษาประตู คล้ายกับที่ Christiano Ronaldo เคยทำไว้ในศึก Clasico เมื่อเดือนเมษายน 2012
อย่างไรก็ตาม ยังต้องรอดูกันต่อไปว่านี่จะกลายเป็นตำแหน่งถาวรสำหรับ Vinicius Jr. หรือไม่
คาดการณ์ว่าการย้ายมาร่วมทีมของ Kylian Mbappe ในช่วงซัมเมอร์นี้อาจเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง นักเตะชาวฝรั่งเศสเองก็ถนัดเล่นทางฝั่งซ้ายเช่นกัน แม้ว่าเขาจะเริ่มต้นฤดูกาลนี้ด้วยตำแหน่งกองหน้าตัวกลางในทีม Paris Saint Germain
ถึงกระนั้น ตอนนี้รูปแบบการเล่นทำให้ Vinicius Jr. คาดเดาได้ยากยิ่งขึ้น
"เราชอบเขาเวลาที่มีอิสระมากขึ้น ไม่ใช่แค่ด้านนอก แต่ด้านใน แต่แม้กระทั่งเวลาเล่นปีกขวา อย่างเวลาเจอ Celta" แหล่งข่าวจากทีมโค้ชระบุ
"ด้วยอิสระเสรี ประกอบกับความสามารถอันหลากหลาย ทำให้เกมรับหยุดเขายากมาก"
cr. Athletic
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
