20 มี.ค. 2024 เวลา 01:30 • ธุรกิจ

อยากขาย "คาร์บอนเครดิต" เริ่มยังไง

🌳 โลกเรารับรู้ภาวะเรือนกระจก หรือภาวะโลกร้อนมานาน และตัวผมเองก็รู้จักกับคำว่า “ภาวะโลกร้อน” ครั้งแรกจากสารคดีเรื่อง “An Inconvenient Truth (2006)"
จนตอนนี้ปี 2024 ภาวะโลกร้อนก็มีแต่ทีท่าจะหนักขึ้นเรื่อย ๆ จากสภาพอากาศที่ร้อนขึ้น ปัญหาภัยแล้ง ปัญหามลพิษทางอากาศ ปัญหาฝุ่น PM2.5 เริ่มส่งผลกระทบแบบเห็นได้ชัดกว่าเคย
และในปี 2021 ประเทศไทยได้เข้าร่วมการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ COP26 และได้ประกาศเป้าหมายสำคัญคือประเทศไทยจะเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2050 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2065
🐤[ Carbon Neutrality VS Net Zero ]
Carbon Neutrality ความเป็นกลางทางคาร์บอน หมายถึง ปริมาณการปล่อย CO2 เข้าสู่ชั้นบรรยากาศ = ปริมาณ CO2 ที่ดูดซับกลับคืนจากชั้นบรรยากาศ
Net Zero การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ หมายถึง ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (ตัวหลัก ได้แก่ CO2 CH4 และ N2O) = ปริมาณการดูดซับก๊าซเรือนกระจกกลับคืนจากชั้นบรรยากาศ
🐤[ ตลาดคาร์บอน ]
เพื่อควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโลก จึงมีการจำกัดเพดานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของแต่ละโรงงาน/องค์กร (คาร์บอนเครดิต)
และสร้างระบบซื้อขายสิทธิในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (ตลาดคาร์บอน) สำหรับอุตสาหกรรมที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง ซื้อสิทธิเพื่อชดเชยผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับโลก และยังเป็นตัวจูงใจให้ผู้คนสร้างคาร์บอนเครดิตมาขายในตลาด
ตลาดคาร์บอนในประเทศไทยมี 2 ประเภท
  • 1.
    ​ตลาดคาร์บอนภาคบังคับ (Mandatory carbon market) ภาครัฐบาลจะออกกฎหมาย เพื่อกำกับดูแลปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งประเทศไทยกำลังร่างกฎหมายเพื่อผลักดันให้ใช้จริง
  • 2.
    ​ตลาดคาร์บอนแบบภาคสมัครใจ (Voluntary carbon market) ผู้ประกอบการ หรือองค์กร เข้าร่วมด้วยความสมัครใจ มีการตั้งเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของตนเอง และไม่มีผลทางกฎหมาย
🌳 ตลาดคาร์บอนเครดิตไทย โครงการ T-VERT (Thailand Voluntary Emission Reduction)
  • ​ในปี 2019 ราคาคาร์บอนเครดิตเฉลี่ย 25 บาท/ตัน มูลค่าตลาด 3.25 ล้านบาท
  • ​ในปี 2020 ราคาคาร์บอนเครดิตเฉลี่ย 26 บาท/ตัน มูลค่าตลาด 4.38 ล้านบาท
  • ​ในปี 2021 ราคาคาร์บอนเครดิตเฉลี่ย 34 บาท/ตัน มูลค่าตลาด 9.40 ล้านบาท
  • ​ในปี 2022 ราคาคาร์บอนเครดิตเฉลี่ย 107 บาท/ตัน มูลค่าตลาด 124.8 ล้านบาท
ณ ปัจจุบันราคาคาร์บอนเครดิตเฉลี่ย 190 บาท/ตัน
🐤[ ราคาซื้อขายแยกตามประเภท ]
  • ​ชีวภาพ ราคาคาร์บอนเครดิตต่ำสุด 130 บาท/ตัน สูงสุด 150 บาท/ตัน
  • ​ชีวมวล ราคาคาร์บอนเครดิตต่ำสุด 19 บาท/ตัน สูงสุด 500 บาท/ตัน
  • ​พลังงานแสงอาทิตย์ ราคาคาร์บอนเครดิตต่ำสุด 21.50 บาท/ตัน สูงสุด 500 บาท/ตัน
  • ​ป่าไม้ ราคาคาร์บอนเครดิตต่ำสุด 55 บาท/ตัน สูงสุด 2,000 บาท/ตัน
ณ ปัจจุบัน ประเภทป่าไม้ราคาคาร์บอนเครดิต 500 บาท/ตัน
💰[ การลงทุน ]
  • ​การร่วมโครงการต้องมีพื้นที่ขั้นต่ำ 10 ไร่ขึ้นไป
  • ​อายุเครดิตของโครงการป่าไม้อยู่ที่ 10 ปี ต่ออายุได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง (ทั่วไป 7 ปี ต่ออายุได้ 1 ครั้ง)
  • ​ต้นไม้ยืนต้น 1 ต้น เฉลี่ยอยู่ที่ 9 - 20 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี
เช่น
  • ​พื้นที่ 1 ไร่ ถ้าปลูกต้นสัก ระยะห่าง 4x4 ม. ต่อต้น จะสามารถปลูกต้นไม้ได้ 100 ต้น /ไร่
  • 10 ไร่ปลูกต้นไม้ 1,000 ต้น
  • ได้คาร์บอนเครดิต 17.6 Kg. x 1,000 = 17,600 kg / ปี = 17.6 ตันคาร์บอน
  • ราคาคาร์บอนเครดิต 500 บาท/ตัน เป็นเงิน 8,800 บาท / 10 ไร่ / ปี
🌳 จากข้อมูลของสำนักประเมินและรับรองโครงการ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.)
  • ​ปลูกต้นสัก 100 ไร่
  • ต้นทุนจะอยู่ที่ 4,300 บาท / ไร่ / ปี
  • ได้คาร์บอนเครดิต 1,720 ตันคาร์บอน (250 บาท / ตันคาร์บอน)
  • กำไร 250 บาท / ตันคาร์บอน
🌳
  • ​ปลูกต้นสัก 500 ไร่
  • ต้นทุนจะอยู่ที่ 1,636 บาท / ไร่ / ปี
  • ได้คาร์บอนเครดิต 8,600 ตันคาร์บอน (95 บาท / ตันคาร์บอน)
  • กำไร 405 บาท / ตันคาร์บอน
🌳
  • ​ปลูกต้นสัก 1,000 ไร่
  • ต้นทุนจะอยู่ที่ 1,186 บาท / ไร่ / ปี
  • ได้คาร์บอนเครดิต 1,7200 ตันคาร์บอน (69 บาท / ตันคาร์บอน)
  • กำไร 431 บาท / ตันคาร์บอน
🐤[ ต้นไม้สร้างคาร์บอนเครดิต ]
เช่น ตะเคียนทอง, สะเดา, ต้นไม้สกุลยาง (ไม่นับยางพารา), นนทรี, ตีนเปด, ปีป, เสลา, เต็งรัง, กัลปพฤกษ์, ราชพฤกษ์, มะขามป้อม, จามจุรี, ทุนเรียน, มะม่วง, มะขาม
🐤[ ขั้นตอนการซื้อขายคาร์บอน ]
การขึ้นทะเบียนโครงการ
  • 1.
    ​กำหนดขอบเขตและสำรวจพื้นที่ (ระยะเริ่มปลูกป่า)
  • 2.
    ​ทำเอกสารเสนอโครงการ และส่งตรวจสอบ
  • 3.
    ​ขึ้นทะเบียนโครงการ T-VER จากนั้นระยะเวลา 3 – 5 ปี
  • 4.
    ​สำรวจพื้นที่หาการกักเก็บคาร์บอน (ต้นไม้โต)
  • 5.
    ​ทำเอกสารรายงาน
  • 6.
    ​รับรองปริมาณคาร์บอนเครดิต
การซื้อ-ขายคาร์บอนเครดิต ( บัญชี T-VER Credit )
  • 1.
    ​เปิดบัญชี T-VER Credits
  • 2.
    ​เจ้าของบัญชีแจ้งความประสงค์ในการขายคาร์บอนเครดิต
  • 3.
    ​อบก. ตรวจสอบความถูกต้อง
  • 4.
    ​อบก. จะดำเนินการโอน (Transfer) หรือหักล้าง (Cancel) คาร์บอนเครดิต
  • 5.
    ​อบก. จะส่งเอกสาร Transfer Notification/Cancellation Notification ไปยังอีเมลของเจ้าของบัญชี T-VER Credits เพื่อยืนยันธุรกรรม
🐤[ ตัวอย่างราคา คาร์บอนเครดิตตลาดต่างประเทศ ]
  • ​EU Allowance 2980.03 บาท / ตันคาร์บอน
  • ​UK Allowance 4034.46 บาท / ตันคาร์บอน
  • ​California Carbon Allowance 1056.37 บาท / ตันคาร์บอน
  • ​Korea Allowance Unit 746.48 บาท / ตันคาร์บอน
🐤[ โดยสรุป ]
ราคาคาร์บอนเครดิตมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นตามความต้องการในอนาคตที่เพิ่มขึ้น ในตอนนี้ภาครัฐของไทยเองยังอยู่ในช่วงภาคสมัครใจ แต่อนาคตจะมีการออกกฎหมายบังคับการควบคุมคาร์บอน ก็จะทำให้ตลาดคาร์บอนเครดิตเติบโต และมีมูลค่าการซื้อขายมากกว่านี้แน่นอน เช่นเดียวกับตลาดต่างประเทศ
จากตัวเลขที่ทาง อบก. ได้ยกตัวอย่างการลงทุนปลูกป่าไม้สัก จะเห็นได้ว่ายิ่งปลูกป่าเป็นพื้นที่จำนวนมากเท่าไหร่ ยิ่งมีความคุ้มค่ามากกว่า เพราะค่าการดูแล และการสอบทวนต่าง ๆ ยังมีราคาสูง พื้นที่จำนวนน้อย (ต่ำกว่า 100 ไร่) การลงทุนเพื่อขายคาร์บอนเครดิตยังไม่คุ้มค่าสำหรับการลงทุน
แต่ผมอยากให้มองว่า เราปลูกไม้เศรษฐกิจเป็นหลัก เพราะตัวมูลค่าของไม้เองนั้นยิ่งนานก็ยิ่งมีมูลค่าสูง แล้วเราค่อยขึ้นทะเบียนคาร์บอนเครดิตเพื่อเป็นการต่อยอดรายได้จากป่าผืนนั้นจะดีกว่า
ขอให้ทุกคนโชคดีครับ
ติดตามเริ่มใหม่ยังไงก่อนได้ที่
[ ที่มา ]
โฆษณา