18 มี.ค. เวลา 06:14 • ประวัติศาสตร์

ฉันรู้เหตุผลแล้วว่าทำไมเฒ่านรกจกเปรตนักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ไทยตนนั้น

ถึงใส่เสื้อไม่ติดกระดุมเม็ดแรก ก็เพราะมันติดกระดุมเม็ดแรกผิดมาตั้งแต่ต้นก็เลยผิดหมดตลอดทั้งแถวไงละ
ตั้งแต่ตอนหนุ่มๆ มาจนถึงวันนี้ มันถูกตำราเรียนประวัติศาสตร์ปลอมๆ ของฝรั่งเศสซึ่งเขียนหลอกคนเขมรให้ภาคภูมิใจในบรรพบุรุษของตนแบบผิดๆ ฝรั่งเศสมันไม่บอกให้เขมรรู้ว่าบรรพบุรุษเขมรเป็นแรงงานทาสชั้นต่ำเป็นคนป่าเผ่าขะแมร์ซาไกขมุ ซึ่งฝรั่งเศสปกปิดบิดเบือนความจริงทั้งหมด เป็นเหตุให้คนเขมรเคลมประวัติศาสตร์ไทยว่าเป็นประวัติศาสตร์ของตัวเอง
แต่อีกด้านหนึ่งฝรั่งเศสได้บันทึกหลักฐานความจริงทางประวัติศาสตร์ของราชอาณาจักรสยามทั้งหมดไว้ในพิพิธภัณฑ์ลูฟ
นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ไทยเฒ่านรกตนนี้แอนด์เดอะแก๊งตอนเรียนก็หลงเชื่อตามฝรั่งเศสลอกประวัติศาสตร์ปลอมนั้นมาทั้งกระบิและสอนผิดๆ ต่อเนื่องกันมาจากรุ่นสู่รุ่น
จนทำให้บางคนได้ดิบได้ดีมีความก้าวหน้าในตำแหน่งทางวิชาการไปหลายคนด้วยคำว่า”เขมรโบราณ” บนความไม่รู้ในองค์ความรู้ที่ถูกต้องของตน ทำให้นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ไทยวันนี้ไม่สามารถจะทำความเห็นให้ตรงได้จากหลักฐานที่ขุดค้นพบจากหลักศิลาจารึกใหม่ๆ ได้จากจักรวรรดิทวารวดีศรีเทพ ซึ่งได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ.2566
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ของจักรวรรดิขอมไทยโบราณไปหักล้างประวัติศาสตร์เดิมๆ ที่คนไทยได้เล่าเรียนมาทั้งหมดเกือบร้อยปีลงอย่างสิ้นเชิง
และนี่เป็นเหตุผลที่ทำให้นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ไทยไม่สามารถจะกลับตัวกลับใจเปลี่ยนความรู้เดิมที่ผิดพลาดได้ เพราะมันทำให้เสียหน้าเสียตาเสียภูมิปัญญาทั้งหมดจนไม่เหลือความน่าเชื่อถืออะไรได้อีกต่อไป
นอกจากยอมรับและแก้ไขเสียใหม่เท่านั้น แต่ทว่านักวิชาการหัวกรวยอัปรีย์จัญไรเหล่านั้นก็หาได้สำเหนียก สำนึก สังวรไม่
ยังคงตะแบงเอาสีข้างเข้าถูกำแพงต่อไป เพียงเพื่อจะเอาชนะคะคานบนความมีอัตตามานะทิฏฐิถือตัวถือตนเท่านั้น หาได้มีต่อมสามัญสำนึกรู้ผิดชอบชั่วดีพร้อมที่จะแก้ไขในสิ่งผิดเหมือนเนื้อเพลงใน”ความฝันอันสูงสุด” ที่จะทำเพื่อประเทศชาติบ้านเมืองแต่อย่างใดไม่
นักวิชาการประเภทนี้จึงได้ชื่อว่าเป็นนักวิชาการขายชาติ ถ้าแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งงานที่สำคัญ เช่น เป็นราชบัณฑิตสภา ก็จะใช้อำนาจหน้าที่นี้ไปในทางที่เป็นภัยต่อความมั่นคงทางด้านประวัติศาสตร์ไทยของชาติได้อย่างแยบคาย
จะขอยกตัวอย่างคำว่า จักรวรรดิเขมรและคำว่า
เขมรโบราณ เป็นต้น ซึ่งสองคำนี้องค์การยูเนสโกได้ระบุไว้ชัดเจนว่าไม่มีอยู่จริงในแผนที่โลกโบราณ แต่นักเขียนประวัติศาสตร์ไทยก็ดี นักโบราณคดีไทยก็ดีในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งต้องยอมรับว่ารู้น้อยรู้ไม่จริง เพราะไม่ได้ศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลจากแหล่งอ้างอิงของ
ประเทศอื่นๆในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เมื่อไม่รู้ข้อเท็จจริงก็เลยเขียนว่าเป็นเขมรโบราณไว้ก่อนเป็นการดีเพื่อให้ตัวเองมีผลงานทางวิชาการเป็นพอ
ด้วยเหตุนี้คำว่า”เขมรโบราณ” จึงเป็นที่มาที่ทำให้เขมรทาสแรงงานของจักรวรรดิอยุธยาและจักรวรรดิสยามใช้เคลมประวัติศาสตร์ไทยในเวลานี้
#SunirinthJiratraipop
18-3-2567
โฆษณา