ประโยคสำคัญที่ทำให้ยุคสมัยแห่งการล่าอาณานิคมเริ่มต้นขึ้น
ภายหลัง 2 เดือนที่อยู่บนท้องทะเล คริสโตเฟอร์ โคลัมบัสล่องเรือขึ้นฝั่งที่เกาะบาฮามาส ด้วยความเข้าใจว่าเขามาถึงอีกฝั่งของเอเชียแล้ว โคลัมบัสตั้งชื่อดินแดนที่เขาค้นพบใหม่ว่า ซาน ซัลวาดอร์ พร้อมเริ่มทำการศึกษาผู้คนที่อยู่ตรงนั้น เขามองเห็นช่องทางในการทำการค้าขาย เพื่อสร้างความมั่งคั่งให้กับตนเองและราชวงศ์สเปนที่จ้างตนมา
ในการสำรวจแคริบเบียน โคลัมบัสใช้เวลาอีก 5 เดือน ในการล่องเรือไปมา เขาให้ลูกเรือ 39 คนสร้างชุมชนที่เฮติไว้ และพาชาวพื้นเมืองประมาณ 25 คน กลับมาที่สเปนด้วย (ตามรายงานกล่าวอ้างว่ามีชนพื้นเมืองเหลือรอดจากการล่องเรือเพียง 8 คน)
เมื่อกลับมาที่สเปน โคลัมบัสเขียนจดหมายถึงกษัตริย์เฟอร์ดินานด์ และราชินีอิสเบลล่า เพื่อรายงานการเดินทาง ซึ่งโคลัมบัสเองนึกถึงดินแดนที่เพิ่งเดินทางกลับมาว่า สภาพพื้นที่ดูไม่มีกำลังทหาร และการป้องกันที่แข็งแกร่งมากนัก ประกอบกับผู้คนที่พามาด้วยก็ดูไม่ใช่กลุ่มชนเผ่าที่จะทำอันตรายอะไรได้ เขาจึงเขียนเน้นย้ำถึงประโยชน์ที่สเปนจะได้รับแบบอ้อมๆ ว่า
"ฉันค้นพบหมู่เกาะมากมาย ซึ่งไม่มีผู้คนอาศัยอยู้ ฉันเข้าไปจับจองพื้นที่ตรงนั้นเพื่อกษัตริย์ที่สุดแสนจะโชคดีของเรา ซึ่งฉันได้ทำการอ้างสิทธิ์โดยสาธารณะ ผ่านการโบกโชว์ตราสัญลักษณ์ของเราขึ้นเหนือหัว และไม่มีใครทำการต่อต้าน"
ไม่มีใครทำการต่อต้าน ก็แน่ล่ะ บางเกาะไม่มีผู้คน บางเกาะมีชนเผ่าที่ไม่รู้ว่าตรานั้นคืออะไร
ทำให้ต่อมา สเปน เริ่มส่งนักเดินเรือเข้าไปยังพื้นที่ดังกล่าวมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อหายึดดินแดนใหม่ที่ยังไม่ถูกใครเคลม และเพื่อนบ้านอย่างโปรตุเกสก็ไม่ปล่อยโอกาสไปเช่นกัน จนนำไปสู่การแข่งขันที่ต้องลงเอยด้วยการเซ็นสัญญาทอร์เดซิลยาส เพื่อแบ่งเขตอิทธิพลของทั้งสองชาติ ในปี ค.ศ. 1494 เป็นจุดเริ่มต้นของการออกไปล่าดินแดนของชาติยุโรปในเวลาต่อมา
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
