20 มี.ค. เวลา 14:33 • ความคิดเห็น
การที่เราจะให้อภัยหรือไม่ให้อภัย มันมีเรื่องหนึ่งที่ เค้าบันทึกเราตลอดเวลา เรื่องของวิญญาณทั้งหก ที่ตาเราเห็น หูเราได้ยิน ตาเห็นภาพหูเราได้ เห็นกิริยาคนนั้นคนนี้ ที่แสดง เห็นมือไม้ขาตัวเอวไปทำอะไีร ความรู้ทุกข์สุข โมโหโกรธเกลียด มันก็มีการบันทึกจดจำลงไปที่ธาตุทั้งสี่ เราไปด่าว่าใคร เกลียดใคร รักใครชอบใตร มันบันทึกลงไปที่ธาตุทั้งสี่ สิ่งทีเราไม่ขอบติเตียน ต่อว่า ธาตุทั้งสี่ในเรือนกายบันทึกไว้หมด
พอจิตใกล้จะออกจากร่าง ธาตุทั้งสี่ ก็มีเรื่องของกรรม เช่นติเตียนเข้า ว่าเค้าต่อว่า ไปทำให้ใครเค้าเดือดร้อน .ร้อนรนเป็นไฟเกิดขึ้น ธาตุทั้งสี่ก็จะสำแสดงออกมา เป็นสภาพที่ทุกข์ร้อน เจ็บปวดทุกข์ทรมานไปด้วย แล้วก็ยังต่อเนื่องติดตามไปกับจิต ให้ทุกข์ทรมานไปอีก เรื่องการอภัยหรือไม่อภัย ..มันก็มีการบันทึกกรรมลงไปในธาตุทั้งสี่ เมื่อธาตุทั้งสี่ของเราสะสมกรรม ..จิตมันหาความสุขไม่ได้ ที่เค้าว่า เรื่องของกรรมนั้นเราเป็นผู้ที่ทำเอง เอาเค้ามาสู้กายและจิตของตัวเอง บันทึกลงไปในธาตุทั้งสี่มีแต่กรรม
การที่เราให้อภัยไม่ได้ นั่นก็ด้วยสิ่งที่เรียกว่า น้ำหนักของกรรมมันรนแรง มันหนัก ..ไม่สามารถเอาออกไปจากกายจากจิตได้ มันก็เลยอภัยไม่ได้ ด้วยกรรมที่อยู่กับธาตุทั้งสี่ มันเป็นเหมือนดินแห้งดินกันดาร ในธาตุทั้งสี่ จะเอามาสร้าง ปลูกต้นไม่อะไรก็ไม่ได้ เพราะดินมันแล้งน้ำ น้ำที่จะไปช่วยส่งเสริมให้ต้นไม่มันโต น้ำบุญุกุศล ที่หล่อเลี้ยงมันไม่มี น้ำธรรม น้าบุญกุศลมันไม่มี มันก็ไม่สามารถทำให้ต้นไมีโต จิตโตขึ้นมาได้เลย
นั่นก็เป็นเรื่องราวหนึ่ง ที่เค้าให้ใช้กายนี้มาสร้างบุญกุศล ให้ตาเราหูเราได้ยินได้บันทึก เรื่องราวของบุญ จิตเราบันทึกกรรมไว้ที่ธาตุทั้งสี่ เราก็เอากายนี้มาสร้างบุญกุศล บันทึกลงไปที่ธาตุทั้งสี่ที่ประกอบเรือนกาย เรานำกายมาสร้างบุญกุศล บันทึกการกระทำของเราลงไป ที่ธาตุทั้งสี่ ก็เหมือนเราเอาน้ำดีไปไล้น้ำเสีย
เราทำเป็นกิจวัตรประจำวัน น้ำดีที่เกิดขึ้น ก็จะไปขับไล่น้ำเสียออกไป มันก็เกิดเป็นอโหสิกรรม เมื่อเราไม่ทำ มันก็สะสมกรรมอยู่ที่ธาตุทั้งสี่ สะสมไปเรื่อย กรรมเก่ากรรมใหม่ ก็เก็บจะสมไปเรื่อยบันทึกกรรมลงไปมีแต่กรรม ที่จะเอาออกให้จิคเบาบางมันทำไม่ได้ เราก็ต้องแบกทุกข์แบบกรรมไปทั้งชีวิต แล้วยังสะสมต่อเนื่องกันไป ที่ว่าธาตุทั้งสี่เป็นสักขีพยาน เมื่อชำระสะสางไม่ได้ มันก็มีหนาขึ้นๆ แก่เฒา ก็แบกมาแต่กรรม เดินหลังคดเหลังงอที่สะสม กรรมมา บันทึกเจ้ากรรมนายเวรว่าเคยทำอะไรกันมา
..เค้าว่า ความลับไม่มีในโลก ที่ว่าดินฟ้าอากาศเป็นสักขีพยาน จะอโหสิกรรม หรือ ไม่อโหสิกรรม คิดนึกได้ แต่กรรมที่ตัวเองบันทึกอยู่กับธาตุทั้งสี่ใครจะแก้ไขให้ได้ เค้าจึงบอกให้สร้างบุญกุศล ให้แม่ทั้งสี่บันทึก บันทึกเรื่องราวบุญกุศล ที่จะเกิดขึ้นให้เป็นการอโหสิกรรม ที่ธาตุทั้งสี่เกิดขึ้น เหมือนเราเจ็บป่วย เราก็หายป่วย ด้วยการสร้างบุญกุศลบารมี ..ที่ต้องทำด้วยความบริสุทธิ์ใจเกิดขึ้น
โฆษณา