21 มี.ค. เวลา 15:24 • ข่าว

โรคตุ่มน้ำพอง(Pemphigus) สาเหตุและข้อควรระวัง

โพสต์นี้เร่งด่วน และเกิดจากความรู้สึกล้วนๆ เชื่อได้เลยว่าเด็กยุค 90 อย่างผมและอีกหลายๆคน ไม่มีใครลืมภาพในบทบาทพี่มาก ที่แสดงโดยคุณเมฆ วินัย ไกรบุตร ได้อย่างแน่นอน นับเป็นหนึ่งในหนังไทยน้ำดีเรื่องหนึ่ง และเป็นหนังสยองขวัญสัญชาติไทยที่ตราตรึงผมที่สุดเรื่องหนึ่ง รวมไปถึงการแสดงชั้นเซียนของนักแสดงทุกท่าน โดยเฉพาะพี่เมฆ วินัย ไกรบุตร
9
ผลแห่งบุญกุศลอันเกิดแต่การบอกต่อข้อมูลอันเป็นประโยชน์แก่สาธารณะอันเล็กน้อยนี้ ขอให้เป็นพละปัจจัยส่งถึงดวงวิญญาณของตำนานพระเอกร้อยล้าน พี่เมฆ วินัย ไกรบุตร นักแสดงคนโปรดท่านหนึ่งตลอดกาลของผม 🙏
4
ภาพจาก https://www.si.mahidol.ac.th/
โรคตุ่มน้ำพองจากภูมิคุ้มกัน หรือ pemphigus vulgaris เป็นโรคที่ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ เกิดการสร้างสารโปรตีนกลุ่มอิมมูโนโกลบูลินไปทำลายการยึดเกาะกันของเซลล์ผิวหนัง จึงเกิดการแยกตัวของผิวหนัง ในชั้นหนังกำพร้า หรือบริเวณรอยต่อระหว่างหนังกำพร้าและหนังแท้ ทำให้เกิดตุ่มน้ำพองขึ้นที่ผิวหนังหรือเยื่อบุต่าง ๆ
โรคตุ่มน้ำพองจากผิวหนังพบได้ในหลายลักษณะ แต่หลักๆที่พบมากมี 2 แบบคือ pemphigus valguris จะมีถุงน้ำที่แบน และทำให้รู้สึกเจ็บ ในขณะที่ bullous pemphigoid จะเป็นถุงน้ำที่มีลักษณะค่อนข้างแบน และไม่ทำให้รู้สึกเจ็บเท่าแบบ
pemphigus valguris
4
โรคกลุ่มนี้บางชนิดพบในวัยเด็ก บางชนิดพบในผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ พบได้ทั้งเพศหญิงและชาย อาการคือ มีตุ่มน้ำพองขนาดต่าง ๆ เกิดขึ้นที่ผิวหนัง บางรายอาจเกิดที่เยื่อบุต่าง ๆ ร่วมด้วย เมื่อตุ่มน้ำแตกจะเกิดแผล หรือรอยถลอก ทำให้มีอาการเจ็บ ถ้าเกิดตุ่มน้ำพองหรือแผลในปากจะทำให้เจ็บแสบ กลืนอาหารไม่สะดวก บางรายผิวหนังที่ถลอกหรือเป็นแผล อาจเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียเป็นหนอง ถ้าเป็นรุนแรง เชื้อโรคอาจเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้เกิดภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด (Septicemia) และเสียชีวิตได้
3
ภาพจาก https://www.si.mahidol.ac.th/
ศ.ดร.นพ.ประวิตร อัศวานนท์ ประชาสัมพันธ์สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับโรคผิวหนังว่า ภูมิต้านทานของคนเรานั้นมีหน้าที่คอยต่อสู้กับเชื้อโรค สิ่งแปลกปลอม มะเร็ง ฯลฯ คล้ายกับตำรวจ ทหาร ที่คอยปกป้องประเทศ ต้องฆ่าศัตรู โดยต้องไม่ทำร้ายประชาชนของตนเอง แต่บางครั้งภูมิต้านทานเหล่านี้ก็จำผิด เลยกลับมาทำอันตรายอวัยวะของตนเองทำให้เกิดโรคแพ้ภูมิตัวเองขึ้น ลักษณะเหล่านี้เรียกว่า “ภูมิเพี้ยน” คือกลับมาทำร้ายตัวเราเอง
โรคตุ่มน้ำพองชนิด pemphigus และ bullous pemphigoid มียาหลักที่ใช้รักษา คือ ยาในกลุ่ม Oral steroids ซึ่งจะเริ่มยาด้วยขนาดสูงก่อน เมื่อควบคุมโรคได้แล้วจึงค่อยลดยาลง การปรับขนาดยาต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ถ้าผู้ป่วยเกิดอาการข้างเคียงระหว่างรับประทานยา ต้องรีบปรึกษากับแพทย์ผู้ดูแลเพื่อพิจารณาปรับขนาดยา หรือเปลี่ยนไปใช้ยากลุ่มอื่น ๆ ตามความเหมาะสมในผู้ป่วยแต่ละราย
ระยะเวลาที่จะสามารถคุมโรคได้อาจใช้เวลาเป็นเดือน เมื่อควบคุมโรคได้ผู้ป่วยอาจต้องกินยาต่อไปอีกระยะหนึ่ง แพทย์จำเป็นผู้แนะนำว่าเมื่อใดควรลดหรือหยุดยา การหยุดยาด้วยตนเองอย่างกะทันหันอาจทำให้โรคกำเริบได้
1
ภาพจาก https://www.si.mahidol.ac.th/
คำแนะนำในการปฏิบัติตัวเมื่อเป็นโรค ควรทำความสะอาดร่างกายอย่างสม่ำเสมอ บริเวณที่เป็นแผลให้ใช้น้ำเกลือทำความสะอาด ไม่แกะเกาผื่นเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ ผู้ป่วยที่มีแผลในปากควรงดอาหารรสจัด งดรับประทานอาหารแข็ง เช่น ถั่ว ปลาแห้ง ของขบเคี้ยว เนื่องจากอาจกระตุ้นการหลุดลอกของเยื่อบุในช่องปาก หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ๆ ไม่ควรใส่เสื้อผ้ารัดคับ เพื่อลดการถลอกที่ผิวหนัง
2
หลีกเลี่ยงแสงแดด และความเครียด ซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นที่สำคัญ ทั้งนี้ผู้ป่วยต้องมารักษาอย่างต่อเนื่องตามแพทย์นัดอย่างสม่ำเสมอ รับประทานยาต่อเนื่อง ไม่ควรลดหรือเพิ่มยาเอง และดูแลรักษาแผลอย่างถูกวิธีจะช่วยให้โรคสงบได้เร็วขึ้น ทำให้ผู้ป่วยสามารถดำรงชีวิตได้เหมือนคนปกติทั่วไป ไม่มีรอยโรคใหม่เกิดขึ้น
2
อ้างอิง
โฆษณา