21 มี.ค. เวลา 16:23 • กีฬา

▶️ Jordan Henderson – อดีตผู้ชนะที่ตอนนี้กลายร่างเป็นแค่ภาพจำให้แฟนๆเกลียดชัง 🔽

เสียงเฉลิมฉลองดังกึกก้องไปทั่ว Villa Park สุดคึกคักขณะ Aston Villa นำอยู่ 3-0 ในช่วงท้ายเกมและกำลังถล่มใส่ทีมแชมป์ยุโรป 4 สมัยอย่าง Ajax
โอเคฟอร์มเกมเยือนของ Ajax อาจจะดูแย่หน่อยในช่วงนี้ พวกเขายิงไปแค่สองครั้งทั้งเกมและอยู่ห่างจ่าฝูงของลีกดัตช์ถึง 29 แต้ม แต่ชื่อเสียงของทีมก็ยังคงยิ่งใหญ่กว่า 99% ของสโมสรในทวีปยุโรป การชนะครั้งนี้ของ Villa จึงให้ความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่
หลังจาก Jhon Duran กองหน้าจอมลีลาซัดลูกที่สามไปอย่างงดงาม แฟนๆ ก็อยู่ในโหมดปาร์ตี้เต็มตัว
แต่ไม่เลย สิ่งที่สำคัญที่สุดกลับกลายเป็นการหัวเราะเยาะและล้อเลียน Jordan Henderson
“Hendo, Hendo, what’s the score?” (เฮนโด้ๆ สกอร์มันเท่าไหร่กันนะ)
“Der der derrrr, Henderson’s a w**ker.” (เดอ เดอ เด๊ออออ เฮนโด้ไอ้ส*รเ*ว)
“One greedy b**d, there’s only one greedy b**d.” (ไอ้ตะกละตะกราม)
Henderson ไม่ได้ทำอะไรที่เป็นที่ถกเถียงเป็นพิเศษระหว่างเกม ที่จริงแล้วเขาไม่ได้ทำอะไรโดดเด่นเลยด้วยซ้ำ ที่โดดเด่นคือการชี้นิ้วสั่งการมากมาย แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าจะดึงดูดปฏิกิริยาอันเกรี้ยวกราดขนาดนี้ แล้วทำไมถึงโดนเยอะขนาดนั้น?
เป็นเพราะออกจากจุดยืนหลังจากเขาตัดสินใจไปเล่นฟุตบอลในซาอุดิอาระเบียช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา หลังจากเคยสนับสนุนชุมชน LGBTQI+ หรือเปล่า? เป็นเพราะเขาได้รับค่าตอบแทนมากมายมหาศาลในการไปที่นั่นหรือเปล่า? หรือแฟนบอลแค่คิดว่าเขาชี้นิ้วสั่งการได้ห่วยแตก?
ข้อสงสัยก็คือ ถ้าคุณไปหยุดใครสักคนที่ร้องเพลงล้อเลียน 'Hendo' แล้วถามว่าทำไมถึงโห่ใส่เขา คำตอบคงไม่ใช่เพราะเป็นนักกิจกรรมตัวยงเพื่อสิทธิของ LGBTQI+ ไม่ได้มีอารมณ์ร่วมอะไรด้วยซ้ำ และแน่นอนว่า Henderson ก็ไม่ได้ทำอะไรที่เป็นการล่วงเกินพวกเขาเป็นการส่วนตัว
แต่ในวงลูกหนังอังกฤษำูดกันว่า Henderson ได้เปลี่ยนจากภาพลักษณ์ "ดี" กลายเป็น "โคตรห่วย"
การโห่ใส่เขากลายเป็นแฟชั่นไปแล้ว ไม่ว่าเขาจะเล่นดีแค่ไหน หรือทำอะไรในสนาม
Henderson ไม่ใช่แค่นักฟุตบอล เขาคือผู้ชนะ Champions League และ Premier League ผู้ติดทีมชาติอังกฤษถึง 81 ครั้ง แต่ตอนนี้เขาเป็นเพียงแค่ชื่อ, เปลือก, ความคิด
เขาไปที่ซาอุดิอาระเบีย และเมื่อเขาย้าย ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
เราได้เห็นเขาเล่นในประเทศอังกฤษแปปๆ เมื่อปีที่แล้ว และก็โดนแฟนๆ ทีมชาติโห่สนั่นเวมบลีย์... "มันไร้ตรรกะสุดๆ" Gareth Southgate ผู้จัดการทีมกล่าวอย่างเดือดดาล
และแน่นอนเขาถูกโห่ที่ Villa Park ในการกลับมาเล่นระดับสโมสรที่อังกฤษนับตั้งแต่ย้ายออกจาก Liverpool เมื่อกรกฎาคมที่แล้วด้วยเช่นกัน
แล้วสรุปว่า Hendo เล่นเจอกับ Villa เป็นยังไงบ้าง? แล้วทำผลงานแบบไหนในอัมสเตอร์ดัมตั้งแต่ย้ายไป Ajax เมื่อมกราคม?
ขอตอบคำถามหลังก่อน และคำตอบคือ...กลางๆ
Henderson ได้ลงตัวจริงจนจบเกม 8 นัดให้กับ Ajax จนถึงขณะนี้ เป็น Eredivisie 5 นัด และ Europa Conference League 3 นัด
หลังจากการประเดิมสนามที่น่าประทับใจด้วยผลเสมอ PSV Eindhoven จ่าฝูงของลีก1-1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ ทั้ง Henderson และทีมก็ทำผลงานได้ไม่ดีนัก ชนะแค่เกมเดียวจากแปดนัดที่เขาได้เล่น เป็นเกมชนะ Utrecht 2-0 ที่บ้านเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นพวกเขาเก็บได้ 29 แต้มจาก 11 เกมในลีกก่อนเขาย้ายมา
นี่คือทีม Ajax ที่ชวนสลดใจ พวกเขาอยู่ในโซนตกชั้นในช่วงต้นฤดูกาลและถึงจะมีการฟื้นฟูช่วงฤดูหนาวก็ยังห่างอันดับ 3 และโควต้า Europa League ถึง 13 แต้ม เหลือเชื่อสำหรับสโมสรระดับนี้ในลีกดัตช์ Henderson ได้รับเสียงปรบมือในความเป็นผู้นำ และเสถียรภาพที่เขาช่วยนำมาสู่แดนกลาง
เขาได้รับคำชมในช่วงแรก ผู้จัดการทีม John van ‘t Schip ให้สัมภาษณ์หลังจากการเปิดตัวของเขาว่า: “เขาแสดงให้เห็นแล้วว่ามีความฟิตและสำคัญต่อทีมมาก เขาช่วยแนะนำเพื่อนร่วมทีมทั้งก่อนเกม ระหว่างพักครึ่ง และในสนาม อีกทั้งยังมีความสงบนิ่งด้วย”
อย่างไรก็ตาม เมื่อหลายสัปดาห์ผ่านไป ก็เริ่มมีความไม่พอใจในสิ่งที่ Henderson ทำไม่ได้เช่น การจ่ายทะลุช่องอันเฉียบคมจากแดนกลาง หรือความสามารถทางเทคนิคอันเจิดจ้า และหลายคนเตือนความจำว่าเขากำลังเล่นอยู่ในเนเธอร์แลนด์
Rafael van der Vaart อดีตกองกลาง Tottenham Hotspur และทีมชาติเนเธอร์แลนด์ได้แสดงความเห็นอันโหดร้ายเกี่ยวกับ Henderson เมื่อเดือนที่แล้ว: “พวกเขาเซ็นสัญญานักเตะที่ไม่มีคุณภาพเลย ได้ Jordan Henderson เข้ามา ที่เอาแต่ส่งบอลไปด้านข้างและข้างหลังตลอดเวลา แบบนี้ใครจะชอบล่ะ”
อย่าลืมว่านี่คือดินแดนของ Johan Cruyff, Dennis Bergkamp และแน่นอน Van der Vaart ทำให้ชาวดัตช์มองฟุตบอลผ่านมุมมองที่ต่างออกไป
แต่ถึงอย่างนั้น การมาถึงของ Henderson ก็ทำยอดขายเสื้อของ Ajax พุ่งสูง การเซ็นสัญญากับผู้เล่นที่เป็นกัปตัน Liverpool เมื่อฤดูกาลที่แล้วถือเป็นเรื่องใหญ่
ไม่ใช่เรื่องปกติที่ Eredivisie จะมีการเซ็นสัญญานักเตะต่างชาติชื่อดัง จริงอยู่ลีกนี้เป็นที่ที่เคยมี Romario, Luis Suarez, Zlatan Ibrahimovic และ Ronaldo เล่นอยู่ แต่นั่นเพราะสโมสรต่างๆ เลือกที่จะเสี่ยงกับดาวรุ่งและช่วยพัฒนาให้เป็นดาวดัง จากนั้นถึงย้ายไปทีมใหญ่ในประเทศอื่น
ถ้าพูดถึงการเซ็นแข้งที่เป็นที่รู้จักกันอยู่แล้ว สุดๆ ก็แค่ระดับ Dusan Tadic ที่ย้ายมาจาก Southampton และ Sebastien Haller จาก West Ham หรืออาจจะเป็นนักเตะที่กลับมาเล่นในบ้านเกิดหลังจากโลดแล่นในลีกท็อปของยุโรปอย่าง Jaap Stam, Klaas-Jan Huntelaar, Dirk Kuyt หรือ Daley Blind เรียกได้ว่า Henderson เป็นข้อยกเว้น และการเซ็นสัญญาเขาก็สร้างกระแสได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
สำหรับนักเตะที่มีพรสวรรค์สูงกว่า Ajax มักเป็นเพียงแท่นสปริงเด้งไปสู่สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าอย่าง Premier League หรือ Serie A แต่สำหรับ Henderson แล้ว Ajax กลับเป็นบันไดสู่การไถ่บาป นักเตะอังกฤษส่วนใหญ่เดินทางไปอัมสเตอร์ดัมเพื่อสำราญ แต่สำหรับเขานั้นคือสถานที่แห่งการเอาตัวรอด และเป็นทางเชื่อมสู่การแข่งขัน EURO ช่วงฤดูร้อนนี้
อย่างไรก็ตาม แม้แต่ยอดขายเสื้อที่สูงขึ้นก็ยังถูกเยาะหยันจากบางคน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า Ajax ตกต่ำไปแค่ไหนแล้ว นักข่าว Sjoerd Mossou เขียนไว้ในหนังสือพิมพ์ว่า “Ajax แสดงความยอมจำนน และดีลนี้ประโยชน์ต่อใคร”
“Henderson แทบจะตรงข้ามกับภาพลักษณ์นักเตะของ Ajax ทุกอย่าง” เขากล่าว “เขาเป็นกองกลางเน้นความแน่นอนที่เหมือนเอา Mark van Bommel กับ Timmy Simons มารวมกัน แต่มีสำเนียงเหน่อๆ แบบอังกฤษด้วย”
ถึงตัวเขาจะไม่ค่อยเหมือนสไตล์ Ajax แต่ Henderson ก็ได้รับตำแหน่งกัปตัน ซึ่งเป็นบทบาทที่เขามีความสุขมาก และนี่คือที่มาของการชี้นิ้วสั่งการมากมาย
เมื่อเกมเลกสองในรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่ Villa Park ดำเนินไป เขาชี้นิ้วว่าลูกบอลควรไปไหน ชี้นิ้วบอกเพื่อนร่วมทีมว่าควรวิ่งไปทางใด และตอนจบเกมก็ชี้นิ้วไปอัฒจันทร์ของทีมเยือนให้เพื่อนทั้งทีมเดินไปปรบมือให้แฟนๆ นอกจากนี้เขายังคุยกับกรรมการเยอะมากด้วย
หน้าที่อื่นๆ ของเขาประกอบด้วยการจัดระเบียบเพื่อนร่วมทีม, หมุนบอลอย่างกระฉับกระเฉง, และที่โดดเด่นคือการปิดพื้นที่เล่นของ Douglas Luiz กองกลาง Villa ซึ่งเป็นการลดพื้นที่ในการปั้นเกมของ Pau Torres แนวรับตัวสร้างสรรค์
Henderson ทำสิ่งเหล่านี้ได้ค่อนข้างสำเร็จ เขายังคงวิ่งได้อย่างฟิตปั๋งแม้จะอายุใกล้ 34 ปีแล้ว (แต่เร็วไม่มาก เห็นได้ชัดว่าเขาเชื่องช้าไปพอสมควรหลังออกจาก Premier League) เขามีระเบียบสูง การจ่ายบอลของเขาไม่เสี่ยงแถมยัง...ธรรมดาสามัญ เขาไม่ได้เปล่งประกายแต่ก็ไม่ได้ห่วยแตกเช่นกัน
เช่นเคยกับ Henderson คุณมองออกว่าทำไมเพื่อนร่วมทีมถึงชื่นชมความเป็นผู้นำของเขา, การที่เขาพร้อมรับผิดชอบ, ช่วยเหลือผู้อื่น, ไม่เคยหายไปจากเกมหรือหยุดวิ่ง แต่คุณในฐานะผู้ชมก็อดคิดไม่ได้ว่าตัวเขาเก่งเรื่องอะไรล่ะ นอกจากชี้นิ้ว โวยวายแล้วก็วิ่ง ใครๆ ก็ทำแบบนี้ได้ไม่ใช่เหรอ?
และนี่อาจจะเป็นข้อติใหญ่ๆ ที่มีน้ำหนักที่สุดเกี่ยวกับ Henderson:
ทำไมเขาติดทีมชาติอังกฤษทุกชุดและดูเหมือนมีตำแหน่งใน EURO 2024 การันตีนะ?
เพราะฝีเท้าล้วนๆ เหรอ? เพราะความสามารถทางฟุตบอลอย่างเดียว? หรือว่าเขาเป็นลูกรักของ Southgate ที่เลือกเขาเพราะสิ่งที่เราไม่เห็นเบื้องหลังกัน?
“มันก็ดีนะที่ได้เห็นเขากลับมาเล่นในลีกที่เราสามารถประเมินได้ง่ายกว่า” Southgate กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาตอนประกาศรายชื่อทีมชาติพร้อมกับใส่ชื่อ Henderson ลงไปในทีมอุ่นเครื่องที่จะเจอกับ Brazil และ Belgium “และแน่นอนว่าเขาก็ได้เล่นในรายการบอลยุโรปเช่นกัน ที่ซึ่งเขาได้เจอกับ Villa เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้เรามองเห็นระดับฝีเท้าของเขาง่ายกว่าเดิม
“เขาสร้างอิทธิพลให้กับ Ajax ได้มากตั้งแต่ย้ายไป และผมรู้ว่าทางสโมสรเองก็แฮปปี้กับเขามาก
“เรารู้ว่าเขาให้อะไรกับทีมได้ เรารู้จักความเป็นผู้นำที่เขามี และคุณก็เห็นมันจากเกมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ความเข้าใจเกมที่เขามี และเราต้องมีความสมดุลเมื่อเรามีแนวรุกฝีเท้าดีมากมาย Hendo เป็นคนที่สร้างสิ่งดีๆ มากมายให้กับทีม”
ไม่ว่า Southgate จะพูดอะไร เขาจะไม่มีวันทำให้แฟนๆ ทีมชาติอังกฤษบางส่วนเชื่อได้ว่า Henderson เป็นหนึ่งในห้าหรือหกมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดของอังกฤษ เพราะมันไม่ใช่ความจริงอีกต่อไปแล้ว
และมันก็สื่อสารย้อนแย้งด้วยที่ Southgate เคยแนะนำ Kalvin Phillips เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ควรจะเล่นอยู่ใน Premier League มากกว่า Serie A กับ Juventus ถ้าเขาอยากมีโอกาสสูงที่จะติดทีมชาติต่อไป Phillips เลือกการยืมตัวจาก Manchester City ไปเล่นให้ West Ham และฟอร์ม (ก็ต้องยอมรับว่า) ห่วยแตก จนถูก David Moyes ผู้จัดการทีมดร็อป แต่ Henderson ไปเล่นในลีกมาตรฐานต่ำกว่าแต่ก็ยังติดทีมชาติ
การเป็นกัปตันให้แก่ Ajax ทีมที่ย่ำแย่ที่สุดในความทรงจำแบบนี้ก็อาจจะไม่ได้นำความหลุดพ้นมาให้เขาอย่างที่หวังไว้ แต่ใครจะไปรู้ บางทีฟอร์ม EURO 2024 อาจช่วยเขาหลุดพ้นได้ เรื่องที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ เรื่องราวของ Jordan Henderson ยังไม่จบ และบทปัจจุบันมีชื่อว่า “เสียงโห่”
cr. Athletic
โฆษณา