22 มี.ค. เวลา 02:57 • ข่าวรอบโลก
ถนน สีลม

แชร์ประสบการณ์Lucid Dreamที่เกี่ยวกับพญานาคของผู้เขียน! #Luciddream #พญานาค #พุทธศาสนา

ในศาสนาพุทธเรามีการอธิบายทฤษฎีการเกิดความฝันไว้ว่ามีสาเหตุด้วยกัน ๔ สาเหตุ ได้แก่ ๑) ความฝันที่เกิดจากธาตุกำเริบ เช่น อาจจะออกแรงมากก่อนนอน(ใช้ธาตุดินหนัก) หรือกินน้ำเยอะก่อนนอน(รับธาตุน้ำมาก) หรือเก็บกดกามารมณ์ไว้มากมายไม่ได้ปลดปล่อย ในผู้ชายก็จะกลายเป็นฝันเปียก(wet dream/น้ำอสุจิล้นขณะหลับ) เป็นต้น เหล่านี้เรียกฝันจากธาตุกำเริบเสิบสาน
๒) ความฝันที่เกิดจากอนุภูตบุพเพ หรือความฝันที่มาจากการจดจำอารมณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนได้ เช่น วันนี้ดูหนังผีมากไปหรือเมื่ออาทิตย์ที่แล้วฟังเดอะโกสต์เยอะไปหน่อย คืนนี้เลยฝันเห็นผี ไม่ก็โดนเจ้านายตำหนิ เลยเก็บไปฝันว่าเจ้านายไล่ออก เป็นต้น
๓) ความฝันที่เกิดจากการมีภูตผีหรือเทพเทวดามาเข้าฝัน หรือบันดาลให้ฝัน เรียกว่าเทวโดปสังหรณู เลยฝันว่าได้พูดคุยกับเทพเทวดา เห็นพราย เห็นนางไม้ พูดคุยกับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่เสียไปแล้ว หรือเดินทางท่องเที่ยวไปในดินแดนลี้ลับเช่น ยูโทเปีย มิดเดิ้ลเอิร์ธ หิมวันตา หรือบาดาล เป็นต้น
๔)และสาเหตุของการเกิดความฝันสุดท้ายคือลางสังหรณ์(บุพพนิมิต) ส่วนใหญ่มักเกิดในคนที่มีชาติที่แล้วเป็นผู้มีฌาน ทำให้ของเก่าของเขายังติดตัว สามารถหยั่งรู้เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ผ่านทางความฝันขณะนอนหลับ
ทั้งหมดทั้งมวลข้างต้นคือสาเหตุของการเกิดความฝันนั่นเอง ซึ่งลักษณะของการฝันจะมีอยู่ด้วยกัน ๒ แบบหลัก คือฝันแบบไม่รู้ตัวว่ากำลังฝัน(เข้าใจว่ากำลังประสบความจริงอยู่) กับอีกแบบคือ ฝันแบบรู้ตัวว่ากำลังฝัน(เข้าใจว่าตัวเองกำลังประสบกับภาพนิมิตปลอมที่อยู่ในมิติแห่งจิตวิญญาณ)
เมื่อคืนนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสประสบเหตุฝันแบบรู้ตัวว่ากำลังฝันด้วยตัวเอง เป็นความรู้สึกที่แปลกมากๆ พอลองค้นคว้าหาข้อมูลดู ผู้เขียนก็ได้พบว่าการจะฝันแบบรู้ตัวว่าฝันนั้นมักจะเกิดขึ้นหลังจากพ้นช่วงหลับลึก(R.E.M. - Rapid Eyes Movement)ไปนิดหน่อย หรือบางรายก็เกิดในขณะหลับลึกไปเลยก็มี
การฝันแบบนี้เรียกว่า Lucid Dream หรือฝันแบบตื่นรู้อย่างสว่างไสวว่าฉันยังหลับอยู่นะแต่แค่กำลังฝัน และที่สำคัญสามารถจะทำอะไรในฝันก็ได้ เช่นด่าคนที่เห็นในฝันก็ได้ เหาะเหินเดินอากาศก็ได้ บางคนถึงขั้นเนรมิตสวรรค์วิมานและคู่สวาทขึ้นมาร่วมอภิรมย์กันในฝันยังได้เลย
การฝันแบบลูซิดดรีมไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ จากการสืบค้นของผู้เขียนจึงได้รู้มาว่าลูซิดดรีมจะต้องอาศัยจังหวะที่เคมีเหมาะสม กล่าวคือต้องมีอาการของธาตุกำเริบ,อนุภูตบุพเพ และเทวโดปสังหรณู มาประชุมรวมกันผนึกพลังให้แก่จิตวิญญาณของผู้ฝันอย่างละนิดอย่างละหน่อย จึงจะเกิดลูซิดดรีมที่ดีขึ้นมาได้
แถมลูซิดดรีมสามารถฝึกฝนกันได้ด้วยการทำสมาธิหรือแม้แต่สวดมนต์ด้วยน้ำเสียงเท่ากันยาวๆด้วยจิตตั้งมั่น ในบางรายที่ไม่ได้มีอาการImsomniaอยู่ก่อนแล้วนั้นท่านสามารถสร้างลูซิดดรีมได้ง่ายๆด้วยการตั้งนาฬิกาปลุกในช่วงเวลาตีสามห้าสิบนาที(ราวๆ) แล้วรีบนอนต่อทันทีโดยจินตนาการว่ากำลังฝันต่อ พร้อมคำนึงอยู่เสมอว่าฉันจะรู้ตัวว่าฝัน ฉันจะควบคุมความฝันให้ได้
จากผลวิจัยทางด้านปรจิตวิทยาและจิตเวชศาสตร์ได้ข้อสรุปว่าวิธีการข้างต้นทำให้เกิดลูซิดดรีมได้จริงๆเมื่อทำติดต่อกันเป็นเวลา21วันขึ้นไป แต่ในบางคนก็เป็นที่น่าแปลกน่าสนใจว่าทำไมจู่ๆถึงเกิดลูซิดดรีมขึ้นมาได้ดื้อๆ ดังเช่นตัวผู้เขียนเองเมื่อคืนนี้
ผู้เขียนเข้านอนตอนห้าทุ่มยี่สิบ แล้วหลับไปด้วยความเพลียจากการทำงานหนักทั้งวัน แถมก่อนนอนก็ค้นคว้าเกี่ยวกับหลักธรรมบวกกับเขียนนวนิยายเล็กๆน้อยๆ โดยผู้เขียนได้ตื่นขึ้นมาในเวลาตีสามกว่าๆ(จำความฝันก่อนหน้าไม่ได้)เพื่อไปเข้าห้องน้ำ แล้วกลับขึ้นเตียงมานอนต่อ เพียงพักเดียวก็เข้าภวังค์ความฝัน(โดยไม่ได้ตั้งใจจงใจอะไรที่เกี่ยวกับการฝันเลยทั้งสิ้น)
ปรากฏว่าผู้เขียนได้เกิดนิมิตฝันขึ้นมาว่าตัวเองอยู่ในสภาพเปลือยกาย ยืนอ้าซ่าอยู่ริมทะเลสาบอันรอบไปด้วยโขดหินกลมๆที่เคลือบหญ้ามอสอยู่ริมตลิ่ง น้ำทะเลสาบเป็นสีฟ้าใสอมเขียวกระจ่าง สีสันทุกอย่างชัดเจนสมจริงมาก ทว่าผู้เขียนรู้ตัวทันทีว่านี่ไม่ใช่ความจริง หากแต่เป็นความฝันของผู้เขียนเอง
ในใจพลันคำนึงอยู่เสมอว่าสถานที่แห่งนี้เป็นโลกจริงของชีวิตอื่นที่ผู้เขียนก็ไม่รู้แน่ชัดว่าคืออะไร มองไปที่ขอบทะเลสาบที่อยู่ตรงหน้าก็เห็นกำแพงศิลาสีน้ำตาลส้ม แกะสลักลายฉลุเถาไม้ดอกชดช้อยมีงูพันขดไปมารอบเถาไม้ ผู้เขียนสูดกลิ่นน้ำชื่นฉ่ำในฝันนั้นก่อนจะลองโดดตูมลงไปในน้ำใสกระจ่าง(ไม่รู้คิดอะไรอยู่ตอนนั้น)
ปรากฏว่าผู้เขียนรับรู้ถึงความเย็นสบายของน้ำ ไม่หนาวจนเกินไปแต่เป็นความเย็นสบายกาย หากแต่ก็ได้รับรู้ด้วยว่าน้ำในทะเลสาบสีเขียวอมฟ้านั้นลึกมากๆ ลึกจนดำลงไปเท่าไรก็ไม่ถึงก้น แถมสีของน้ำก็เริ่มเข้มขึ้น เข้มขึ้น จนผู้เขียนเริ่มรู้สึกกริ่งเกรงขึ้นมาว่าจะมีงูใหญ่(พญานาค)ปรากฏตนใต้น้ำแล้วลากร่างของผู้เขียนลงไปให้ไม่สามารถกลับขึ้นไปบนบกได้อีกตลอดไป
เมื่อคิดได้ดังนั้นผู้เขียนก็รู้ขึ้นมาได้เองว่าสถานที่นี้ไม่ใช่ของในฝัน แต่เป็นสถานที่จริง ผู้เขียนจึงสั่งให้ตัวเองตื่น ตื่นเดี๋ยวนี้ แล้วผู้เขียนก็ตื่นจากฝันที่น่ากังวลนั้นได้จริงๆ
ตอนที่ตื่นขึ้นมาผู้เขียนอยู่ในอาการเฉยๆ ไม่ได้ตระหนกผวาอะไรทั้งสิ้น เพียงแต่แปลกใจว่าเหตุใดถึงฝันแบบลูซิดดรีมขึ้นมาได้ แถมในฝันนั้นทุกสิ่งทุกอย่างสมจริงมาก พิสูจน์ได้จากการเรียงกันของกิ่งไม้ใบหญ้า กำแพง ลายกำแพงและโขดหิน เพราะต่อให้ผู้เขียนหันไปมองจุดอื่น แล้วหันกลับมามองจุดเดิม ลักษณะภาพก็ไม่เพี้ยน
กล่าวคือเหมือนสถานที่จริงๆทุกประการ มุมภาพ สี แสง เงา องศา รูปทรง มันไม่เพี้ยนไปเรื่อยๆแบบการGenerationภาพAIอันเป็นลักษณะเด่นของปฏิกิริยาความฝันขณะหลับโดยทั่วๆไป แต่มันกลับสมจริงทุกประการ นั้นเองจึงเป็นเหตุที่ทำให้ผู้เขียนรู้ตัวว่าผู้เขียนได้ฝันแบบที่วิญญาณผู้เขียนนั้นหลุดเข้าไปในอีกสถานที่หนึ่งจริงๆ
เป็นอีกหนึ่งเครื่องยืนยันว่ามิติต่างๆนั้นมีอยู่จริงแน่นอน แต่มาถึงบรรทัดนี้ผู้เขียนก็จนปัญญาที่จะสืบทราบได้ว่าสถานที่ในความฝันของผู้เขียนเมื่อคืนนี้คือที่ไหน แล้ว เทวโดสังหรณูจากเทวาหรือวิญญาณ,กายทิพย์ตนไหนมาสังหรณ์ใส่ให้ผู้เขียนเข้าไปในสถานที่แห่งนั้น แล้วเข้าไปเพื่ออะไร ทำไมผู้เขียนต้องอยู่ในสภาพไร้ผ้าผ่อนเช่นนั้น
คงจะเป็นปริศนาในใจของผู้เขียนไปอีกนาน โดยเฉพาะความรู้สึกกลัวว่าจะมีพญานาคมาดึงลงไปใต้ก้นบึ้งลึกแห่งทะเลสาบอันเวิ้งว้างมืดมิดแห่งนั้น
แล้วท่านผู้อ่านล่ะ เคยประสบเหตุการณ์ลูซิดดรีมหรือฝันที่ท่านรู้ตัวว่าฝันกันบ้างไหม อย่างไรบ้าง มาเล่าสู่กันฟังได้นะครับ
((สามารถคัดลอกบทความนี้ไปเป็นวิทยาทานได้ฟรี แต่เพื่อไม่ให้ละเมิดลิขสิทธิ์ ขอความกรุณาให้เครดิตแอดมินนาโคแห่งเฟซบุ๊คเพจ "ธรรมะแฟนตาซี" และไปกดไลค์เพจให้ด้วยนะครับ))
โฆษณา