22 มี.ค. เวลา 03:52 • ธุรกิจ

#แม่ค้า101 ทำให้เกินกว่าที่ลูกค้าคาดหวัง by หนูคิส

ทุกอาทิตย์คิสกับคุณพงศกรจะมาล้างรถที่ขาออกปั๊มย่านพระราม 2 เติมน้ำมันเสร็จ ฝากรถ เราจะมาสั่งกาแฟ คุณพงศกรจะอ่านหนังสือรอ ส่วนชั้นก็เล่นมือถือไป
ชั้นจำได้ว่า นับตั้งแต่อาทิตย์ที่ 3 ที่เรามาปั๊มนี้ น้องพนักงานพูดต้อนรับเราว่า "รับเหมือนเดิมมั๊ยคะ"
...
เราเจอกันแค่อาทิตย์ละครั้ง และอยู่แค่ราวๆ 5-30 นาที
พนง.ชาวพม่าจำเมนูที่เราสั่งได้ เอสเย็นไม่หวานเลย 2 แก้ว พร้อมน้ำ 1 ขวด
นับจากอาทิตย์นั้นผ่านมาราวๆ 4 เดือนถัดมา เราแวะทุกครั้งก่อนจะไปทำงานที่หัวหินโดยที่ไม่ต้องสั่งอะไรเลย
พนง.จะเดินมาพูดคุยกับเราที่โต๊ะสั้นๆ ทักทายแบบสั้นๆ แต่คุณคะ นี่คือกาแฟในปั๊ม!! คิสคงไม่สามารถไปหัวหินโดยไม่ผ่านมาเจอน้องๆได้อีกแล้ว ไม่ว่าวันนั้นรถจะสกปรกหรือสะอาด เราโดนสาบให้ต้องมาเท่านั้น
...
คิสไม่รู้ว่าหลักการนี้มันเรียกว่าอะไร มันคงมีคำเรียกอยู่ในสายงานด้านบริการ เรื่อง service mind ที่มันแบบท่วมท้นและลูกค้าไม่ได้ expect ว่าจะได้รับ**
**คิสคาดหวังจากบัทเลอร์ในรร.นะว่าต้องมา turn down ต้องมีผลไม้ที่คิสกินหมดในวันถัดมา แต่กับปั๊มอะ มันเหนือระดับ มันอยู่ที่ context ว่าแบบไหนเรียกว่าเกินความคาดหมาย น้องๆโบกมือบ๊ายบายคิสทุกครั้งที่ออกจากร้านด้วย สตาร์บั๊คส์ยังทำไม่ถึงเลย
...
คุณเชื่อมั๊ยคะ มีลูกค้าคิสเมื่ออาทิตย์ก่อนพูดกับคิสว่า "พี่ควรมาทำงานกับพวกผมมาก"**
**บอกชื่อองค์กรไม่ได้ แต่คือที่ๆทุกคนน่าจะอยากทำงานด้วยถ้ามีโอกาส
...
ลูกค้าหลายๆคนฟังชั้นพูด รับส่งจังหวะจนปิดการขายและยกนิ้วขึ้นมาว่า "Nice Pitch" "Can I hire you" etc.
มันเหมือนชั้นตะบี้ตะบันชมตัวเองในโพส #แม่ค้า101 แต่นี่คือฟีทแบคที่ชั้นได้รับมาของจริง ลูกค้าซื้อทันที หลายคนกลับมาซื้อซ้ำๆ ทั้งหน้าร้านและออนไลน์
ถ้าจะให้ขมวดว่าวิธี pitching ที่ดีคืออะไร คิสมองว่าคุณต้องทำให้เหนือกว่าที่ลูกค้าคิดไว้ ลูกค้านึกไม่ถึง นึกไม่ถึงแบบ...โห้ คิดได้ไงวะ
...
ย้ำ คิสขายยาดมยาหม่อง ไม่ใช่ร้าน club21 หรือ tiffany&Co
คิสยกตัวอย่างลูกค้ารายล่าสุดที่เดินผ่านมาหน้าร้าน คิสเหลือบไปเห็นถุงเล็กถุงน้อยที่พะรุงพะรัง คิสหยิบถุงใบใหญ่ และเดินอ้อมไปหน้าร้าน เพื่อขออนุญาตให้ลูกค้ารวบของในถุงเดียว
บักคิส "จะได้ถือสะดวกๆ จะฝากของไว้ที่ร้านแล้วเดินให้สนุกค่อยกลับมารับได้นะคะ ไม่ต้องซื้อของคิสค่ะ"
...
ลูกค้าหันมามองหน้ากัน พวกเค้าซื้อกันไปแบบสนุกสนาน และบอกคิสว่า "ที่พวกผมซื้อนี่พวกผมไม่ได้คิดเลยว่าจะใช้"
บักคิส "โห้ ร้านนี้ไม่อยากขายให้เลยค่ะ อะไรที่ไม้ได้ใช้อย่าซื้อนะคะ ไม่อยากให้เป็นขยะรกบ้านค่ะ"
ลูกค้า "ผมจะเอาไปฝากเพื่อนที่ทำงานครับ และคงเก็บไว้ใช้เองอันเดียวพอ"
บักคิส "อืมม งั้นคิสหาของอะไรไปให้นะคะ"
ลูกค้า "ที่ผมซื้อๆกันเนี้ย เพราะพี่ทำเกินความคาดหวังไปมากๆ ไม่เคยมีใครทำอะไรแบบนี้เลย"
บักคิส "หมายถึงอะไรคะ"
ลูกค้า "พี่เดินเอาถุงมาให้เนี้ย โห้ ผมแบบประทับใจมาก"
...
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทำ ทำมาตลอด แต่เป็นครั้งแรกที่ลูกค้าทักและแชร์ความรู้สึกออกมา
คิสไม่ได้บอกว่าทุกร้านควรเตรียมถุงใบใหญ่และควรรับฝากของ แต่คิสกำลังบอกว่าถ้าคุณสนใจลูกค้าให้มากๆ มากระดับที่ใกล้ๆกับตัวเอง ลูกค้าจะรักคุณค่ะ
สิ่งนี้สอนได้ ฝึกได้ แต่ควรมาจากก้นบึ้งของจิตใจ คุณไม่รักลูกค้า ไม่รักคนที่ใช้ของๆคุณ ไม่รักคนที่สนใจของๆคุณ คุณจะขายของลำบากมาก
ลูกค้าที่มาทดลอง ตำหนิ บอกข้อเสีย คือลูกค้า MVP คนกลุ่มนี้คือคุณครูและหนึ่งในทีม R&D คุณจะเดินต่อแข็งแรงแค่ไหน อยู่ที่คนกลุ่มนี้ พวกเค้าจะสอนคุณ
คุณต้องโอบรับ โอบกอดความคาดหวังลูกค้าด้วยความยินดี เข้าใจถ่องแท้ว่าอะไรคือสิ่งที่พวกเค้าต้องการและมองหา
คนที่ซื้อไปเป็นของขวัญ สิ่งไม่อยากได้ไม่ใช่แค่สินค้าที่ดี เค้าต้องการให้ผู้รับได้ความประทับใจ บางคนซื้อฝากผู้ใหญ่ บางคนซื้อฝากเจ้านาย ฯลฯ
ถ้าคุณรู้ใจลูกค้า บรรจงอีกหน่อยนึง มันอาจจะเพิ่มต้นทุนหรือเวลาหรือใดๆ แต่มันคุ้มแสนคุ้มกับสิ่งที่ลูกค้าจะได้
คิสเพิ่งเป็นแม่ค้านะคะ เป็นแม่ค้าแบบ solo ด้วย คิสขอยืนยันว่า การรักษาลูกค้าเดิมให้ดีง่ายดายกว่าการหาลูกค้าใหม่ (มาก)
ถึงเราควรให้ใจลูกค้าทุกๆคนเท่าๆกัน แต่อย่าละเลยลูกค้าเก่า อย่า take it for granted คิสทำยาดม คิสก็มีเวลาเท่านี้ ถ้าคิสขายโครงการ คิสจะไป visit บ้านลูกค้าทุกคนถ้าคิสทำได้
ทุกๆงานที่คุณทำ คุณมีเส้นทางของตัวเองค่ะ ลูกค้าคุณเอง คุณควรรู้ว่าอะไรทำให้เค้าหัวใจฟู อะไรทำให้วันที่พบหน้าคุณเป็นคนที่เค้าจดจำไดัไปตลอดชีวิต
ไม่ยาก ไม่ง่าย แต่คิสเชื่อว่านี่คือสิ่งที่ตีคู่มาด้วยกัน อย่าขายถ้าคุณไม่รักไม่เชื่อไม่อิน ไปเส้นทางอื่นง่ายกว่าค่ะ ❤️❤️❤️
คิส
#วิถีแห่งแม่ค้า
โฆษณา