Phil Foden กำลังกลายเป็นจอมทัพคนสำคัญของแมนเชสเตอร์ ซิตี้
เป็นเรื่องยากที่จะบอกว่าอะไรเป็นหลักฐานของการก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นคนสำคัญของ Phil Foden ในทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ได้ชัดที่สุด: วิธีที่ Pep Guardiola พูดถึงเขาตอนนี้ หรือการที่เขามีเพลงเชียร์เป็นของตัวเองจากแฟนๆ Man City แล้ว
หากมีจุดพลิกผันสำหรับ Foden วัย 23 ปี มันเกิดขึ้นในเกมกับ Crystal Palace เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ในช่วงท้ายเกม ที่ City ดูจะลอยลำไปสู่ชัยชนะ 2-1 เขาพยายามเลี้ยงจี้ตรงกลางสนาม เมื่อควรจะจ่ายบอลไปให้เพื่อนแบบเน้นชัวร์ไว้ก่อน สุดท้ายโดนตัดบอล
จังหวะนั้นเปิดโอกาสให้ทีมเยือนโต้กลับ ด้วยความพยายามอย่างสุดขีดที่จะแก้ไขปัญหา เขาต้องวิ่งกลับเข้ามาถึงกรอบเขตโทษทันเวลา และหวดใส่ Jean-Philippe Mateta จนทีมเสียจุดโทษและถูกตีเสมอ
"เขาดันไปทำเกมให้เร็วขึ้นในจังหวะที่ควรจะชะลอเกม" Guardiola กล่าวในอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมา ซึ่งนี่เป็นใจความสำคัญของสิ่งที่ผู้จัดการทีมซิตี้พูดถึง Foden มาหลายปี
Gareth Southgate ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษเคยสร้างความขัดแย้งก่อนหน้านี้ ด้วยการบอกว่าไม่เห็นว่า Foden จะเล่นกองกลางได้ แต่ Guardiola เคยเห็นด้วยกับเรื่องนี้เช่นเดียวกัน
แฟนๆ เรียกร้องมานานว่าอยากให้ Foden เล่นตรงกลาง และ Guardiola ก็เคยยกย่องเขาให้เป็นตัวแทนของ David Silva ปัญหาคือสองคนนี้ไม่ใช่ผู้เล่นสไตล์เดียวกันเป๊ะๆ และการเล่นตรงกลางในระบบ Guardiola (รวมถึงระบบของ Southgate ด้วยมั้ง?) คุณต้องมีอาวุธครบมือกว่าที่ Foden มี ณ ตอนนั้น
"เขาเหมือนนก บินไปได้ทุกที่ที่ต้องการ" Guardiola เคยพูดถึง Foden เมื่อเดือนตุลาคม "แต่บางครั้งในการเป็นนักฟุตบอลที่ดี คุณต้องคิดได้ว่า: 'โอเค ถ้าฉันเล่นในตำแหน่งนี้ ฉันมีหน้าที่บางอย่างที่ต้องทำเพื่อทีม'"
เรื่องนี้เปลี่ยนแปลง Foden ไปอย่างกระทันหัน - และจุดเปลี่ยนคือความผิดพลาดใหญ่ในเกมกับ Palace วันนั้นที่โดนตีเสมอ
"นั่นเป็นเหตุผลที่ผมพอใจกับ Phil จริงๆ" Guardiola กล่าวเมื่อปลายเดือนธันวาคม "ตั้งแต่เกม Crystal Palace เขาเรียนรู้บทเรียน จากนั้น ทั้งเกมกับ Urawa, Fluminense, Everton, Sheffield เขาเล่นได้โดดเด่น ทั้งสี่เกมเขาคือระดับท็อป ท็อป ท็อป : เล่นดี ยิงประตู มีแอสซิสต์ เขามีทุกสิ่งสำคัญที่เราต้องการจากเขา"
ตอนที่ City เอาชนะ Bournemouth เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ Guardiola กล่าวว่า Foden ได้ก้าวขึ้นจาก "เด็กหนุ่ม" ไปเป็น "นักเตะระดับโลก ท็อปคลาส"
City บินตรงไปแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลกที่ซาอุดิอาระเบียทันทีหลังจบเกมเสมอกับ Palace โดยบรรยากาศในทีมไม่ค่อยดีนัก และตอนนั้นเองที่ Foden เริ่มเข้าใจสิ่งต่างๆ อย่างที่ Guardiola บอก เขามีความทุ่มเทมากขึ้นตอนไม่ได้ครองบอล ทั้งวิ่งไล่เพรสซิ่งคู่แข่งมากขึ้น และตั้งใจไล่บอลกลับมาให้ทีม
Guardiola ไม่เคยสงสัยในคุณภาพฝีเท้าของ Foden เลย เขาตื่นเต้นกับ Foden มากตั้งแต่มาคุมทีมในปี 2016 ตอนที่ Foden เพิ่งอายุ 16 ปี แต่ Guardiola ไม่เคยรู้สึกว่า Foden เล่นเกมรับได้ดีพอ หรือเข้าใจจังหวะที่ควรจะจ่ายบอลไปด้านข้างหรือจ่ายกลับหลัง เพื่อทำหน้าที่เป็นกลไกสำคัญในแดนกลาง
สิ่งที่น่าสนใจคือการที่สิ่งนี้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว และตอนนี้ Guardiola พูดถึง Foden อย่างชื่นชมมาก
"คุณรู้ไหมว่าเขาเล่นยังไงบ้าง?" Guardiola ถามแบบเป็นเชิงโวหารหลังจบเกมกับ Bournemouth "แค่เห็นว่าเขาควบคุมจังหวะเกมและเร่งสปีดได้ยังไงบ้าง"
การเร่งสปีดไม่เคยเป็นปัญหา แต่ตอนนี้ Foden คุมเกมได้ด้วย
แม้ในหลายปีที่ผ่านมา Foden จะมีอิทธิพลต่อทีมอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ครั้งแรกที่เขาลงคุมเกมให้ซิตี้แบบเน้นๆ อย่างแท้จริงน่าจะเป็นตอนที่ชนะ Newcastle United ช่วงต้นฤดูกาลนี้ นั่นดูเหมือนเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับเขา
และตอนนี้เขาเล่นในระดับนั้นได้บ่อยขึ้น แถมยังทำแฮตทริกในเกมที่เอาชนะ Brentford ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นอีกสัญญาณที่ดี
หรืออาจจะเป็นเกมที่เมื่อสุดสัปดาห์ก่อนตอนเจอกับลิเวอร์พูลที่ Anfield เมื่อ Guardiola ถอดเอา De Bruyne ออก ซึ่งไม่ค่อยได้สร้างอิมแพคในนัดนั้น และให้ Foden เข้าไปเล่นตรงกลาง "เราไม่เคยหยุดพยายามเล่นเกมของเรา และตอนที่มี Mateo (Kovacic) กับ John (Stones) รวมถึง Phil และ Rodri ตรงกลาง เราจึงมีศักยภาพพอจะครองบอลแบบที่ไม่เคยทำได้มาก่อน" Guardiola กล่าว
cr. Guardian
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
