หนิฮ่าว ฉงชิ่ง .. หม้อไฟฉงชิ่ง และถนนคนเดิน
จีน เป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติ สถานที่ท่องเที่ยวล้วนแล้วแต่สวยงามน่าประทับใจทั้งสิ้น ไม่ว่าจะทางเหนือ ใต้ ออก ตก .. ความกว้างใหญ่ไพศาลของผืนแผ่นดินจีนนั้น หากจะท่องเที่ยวให้ทั่วก็ไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลากี่เดือนกี่ปีถึงจะครบถ้วน
.. หนึ่งในเมืองที่ได้รับคำร่ำลือว่าสวยงามและมีการพัฒนาให้ทันสมัยล้ำยุคอย่างรวดเร็วมาก คือ “ฉงชิ่ง” อันเป็นเมืองที่มีความงามพร้อมทั้งธรรมชาติและสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมา มีที่เที่ยวน่าสนใจมากมายหลายแห่ง และที่สำคัญอาหารก็อร่อยมากเสียด้วย
เราออกเดินทางไปเยือนจีนอีกครั้งช่วงกลางเดือนมีนาคม 2024 โดยตั้งใจจะไปล่องเรือในมหานทีแยงซีเกียง ไปชมเขื่อนสามผาที่ใหญ่โตและมีความสำคัญต่อประเทศจีนอย่างสูง และเราจะไปจบทริปครั้งนี้ด้วยการชม สวนดอกซากุระ ที่ทะเลสาบตะวันออก (East Lake) ที่เมือง อู๋ฮั่น
หม้อไฟของฉงชิ่ง
ก่อนจะเริ่มกิจกรรมตะลอนทัวร์ในมหานครฉงชิ่ง เราแวะทานอาหารมื้อแรกในเมืองนี้กันก่อน .. และเมื่อมาถึงเมืองนี้ ก็ต้องไม่พลาดอาหารที่ขึ้นชื่อของท้องถิ่น คือ “สุกี้หม้อไฟ” ที่มีตำนานมาจาก คนลากเรือ ในสมัยที่พื้นที่นี้ยังทุรกันดารด้วยผืนแผ่นดินที่รายล้อมด้วยภูเขาสูง และมีแม่น้ำแยงซีเกียงที่เกรี้ยวกราด เป็นเส้นทางคมนาคมที่สำคัญ
หม้อไฟฉงชิ่ง (จีนตัวย่อ: 重庆火锅; จีนตัวเต็ม: 重慶火鍋; พินอิน: Chóngqìng huǒguō) หรือที่รู้จักในชื่อหม้อไฟเผ็ด มักรับประทานที่ร้านอาหาร .. หม้อไฟฉงชิ่งมีลักษณะคล้ายกับหม่าล่าเซียงกัวผัดแห้ง (麻辣香锅) ซึ่งรับประทานในร้านอาหารเช่นกัน
วิธีดั้งเดิมในการเตรียมและการรับประทานอาหารสไตล์นี้คือการใส่อาหารลงในหม้อไฟ รอให้อาหารสุก และเมื่ออาหารพร้อมแล้วให้จุ่มชิ้นในน้ำมันงาแล้วรับประทาน ผู้คนเลือกอาหารหลากหลายประเภทเพื่อเตรียมในหม้อไฟฉงชิ่ง เช่น เนื้อวัว หมู ไก่ กุนเชียง เนื้อวัวเส้น เลือดหมู และไส้เป็ด
หม้อไฟฉงชิ่งเป็นหนึ่งในหม้อไฟที่มีรสเผ็ดที่สุด หม้อไฟฉงชิ่งใช้ส่วนผสมที่แตกต่างกันในการทำฐานหม้อไฟ หม้อไฟฉงชิ่งรสเผ็ดมีส่วนประกอบหลักคือน้ำมันพริกแดง ซึ่งทำจากไขมันเนื้อวัวและเครื่องเทศหลากหลายชนิด เช่น ใบกระวาน กานพลู อบเชย และอื่นๆ พริก ไขเนื้อ กระเทียม ถั่วบด และเครื่องปรุงรสอื่นๆ ผัดและต้มเป็นเวลานานจนกลายเป็นเครื่องปรุงรสหม้อไฟฉงชิ่ง ซึ่งใช้ในซุปหม้อไฟฉงชิ่ง
ประวัติความเป็นมาของหม้อไฟฉงชิ่งเริ่มต้นในปี ค.ศ. 1920 ในเขตเจียงเป่ยในฉงชิ่ง ในตอนแรก คนเร่ขายที่ทำงานในท่าเรือในเวลานั้นจะซื้อผ้าขี้ริ้วเนื้อ ทำความสะอาดและต้ม จากนั้นจึงหั่นตับและท้องวัวเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วใส่ทั้งหมดลงในเตาดินเผา
.. เตาใช้กะละมังเหล็กแบ่งเตาออกเป็นส่วนต่างๆ เพื่อแยกส่วนผสมที่มีรสชาติต่างกัน เมื่อน้ำซุปรสเผ็ดและเค็มเดือด คนงานก็จะเริ่มกิน โดยแต่ละคนเลือกอาหารของตนเองและแบ่งพื้นที่ในเตา ดังนั้นพวกเขาจึงกินและจ่ายเฉพาะส่วนที่ใส่ในกองนั้นซึ่งมีราคาถูกกว่า
.. จนกระทั่งถึงปีที่ 23 ของสาธารณรัฐจีน ร้านอาหารเล็กๆ ในฉงชิ่งได้เปลี่ยนหม้อไฟให้เป็นอาหารคุณภาพสูง ก่อนหน้านั้นไม่มีร้านอาหารที่ให้บริการหม้อไฟฉงชิ่ง
หม้อไฟฉงชิ่ง .. ไม่ได้เป็นเพียงอาหารอันโอชะในท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงถึงวัฒนธรรมอาหารของท้องถิ่นอีกด้วย
เมื่อรับประทานหม้อไฟ ครอบครัวและเพื่อนฝูงจะรวมตัวกัน นั่งล้อมรอบหม้อไฟและพูดคุยกัน เป็นทางเลือกในการรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับวัฒนธรรมการรวมตัวกันของคนจีนแบบดั้งเดิม
ร้านหม้อไฟที่เราแวะไปทานอยู่ในใจกลางเมือง .. เป็นหม้อไฟแบบบุฟเฟ่ เราเลือกเมนูของวีตถุดิบเอง
Selection ของเนื้อสัตว์ พนักงานจะนำมาให้เป็นจานๆ … แต่เราขอเพิ่มได้
ส่วนประเภทของเนื้อสัตว์ก็มีครบถ้วนที่งเนื้อวัว เนื้อหมู ไก่ และเนื้อปลา
.. ผัก และเส้น มีหลายแบบ เลือกตักใส่ภาชนะตามอัธยาศัย ทั้งประเภทและปริมาณ
.. น้ำจิ้ม เป็นแบบบุฟเฟ่ เลือกตักเอง
ปกติเราจะคุ้นเคยกับสุกี่แบบที่เป็นหม้อใหญ่ ทานด้วยกันทั้งคณะ โดยการคีบและตักจากหม้อต้มรวม มาใส่ในชามของตนเอง
.. แต่สำหรับหม้อไฟของที่นี่ แต่ละคนจะมีหม้อต้มของตัวเอง และน้ำซุปสุกี้ เราเลือกได้ว่าจะเป็นแบบจืดรสชาติกลมกล่อม หรือจะเป็นแบบเผ็ดๆ หรือจะขอเป็นแบบ 2 อย่างก็ได้ เขาจะมีหม้อที่แบ่งครึ่งสำหรับน้ำซุปแต่ละอย่างให้เป็นตัวเลิอกด้วย
.. เมื่อหยิบผัก เส้น และวัตถุดิบตามที่ต้องการมาที่โต๊ะ ก็เริ่มต้มและรับประทานได้เลย
การขอเติมเนื้อสัตว์ประเภทต่างๆทำได้ตลอดเวลา การเสริฟก็รวดเร็วมาก ทานได้ไม่ขาดตอน .. และสำหรับของหวานและเครื่องดื่มก็มีหลากหลาย เครื่องดื่มบางชนิดขอแนะนำว่าต้องลอง เช่น น้ำอินทผลัมผสมกับเม็ดบัว หอมและอร่อยมาก
ถนนคนเดินเจี่ยฟ่างเป่ย (Jiefangbei)
ถนนคนเดินเจี่ยฟ่างเป่ย (Jiefangbei) .. ตั้งอยู่ในเขต Yuzhong ซึ่งอยู่ใกล้มากกับร้านหม้อไฟที่เราไปทานกัน เราต้องเดินผ่านเพื่อไปนั่งกระเช้าชมวิว ข้ามแม่น้ำแยงซีเกียง
Jiefangbei CBD .. เป็นย่านศูนย์กลางธุรกิจ เป็นหัวใจสำคัญของฉงชิ่งในหลาย ๆ ด้าน ครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 36,000 ตารางเมตร เป็นหนึ่งในย่านที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในจีนตะวันตก
ถนนคนเดินเจี่ยฟ่างเป่ยเป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และโรงแรมมากมาย .. เป็นสวรรค์ของนักช้อป นอกจากห้างสรรพสินค้าหลายแห่งที่ตั้งอยู่ที่นี่แล้ว ยังมีร้านเรือธงอีกมากมายจากแบรนด์ต่างประเทศขนาดใหญ่ เช่น LV, Prada, Gucci, Armani, Zegna และอื่นๆ อีกมากมาย
.. แต่แบรนด์ท้องถิ่นอื่นๆ ก็ถูกจัดตั้งขึ้นที่นี่เช่นกัน และคุณจะพบร้านค้าขนาดใหญ่สำหรับแบรนด์ต่างๆ เช่น Xiaomi และ Huawei รวมถึง Adidas และ Nike
ที่นี่ยังเป็นศูนย์กลางสถานบันเทิงยามค่ำคืนที่มีชีวิตชีวาในฉงชิ่ง เป็นหนึ่งในสถานที่ยอดนิยมหลายแห่งในเมืองที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากในตอนเย็นเช่นกัน ส่วนหนึ่งสำหรับการชมวิว แต่ยังเป็นสถานที่หลายแห่งให้ไปเพลิดเพลินกับดนตรีสดและอาหารดีๆ
ความเป็นมาและประวัติศาสตร์
ในปี 1997 หลังจากที่กลายเป็นเขตเทศบาลที่เป็นอิสระ (แยกออกจากมณฑลเสฉวน) รัฐบาลท้องถิ่นของฉงชิ่งก็เริ่มสร้างสิ่งที่จะกลายเป็นถนนคนเดินธุรกิจแห่งแรกในภาคตะวันตกของจีน
ในตอนแรก พื้นที่ช็อปปิ้งมีขนาดประมาณ 24,000 ตารางเมตร โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่อนุสาวรีย์แห่งอิสรภาพ แต่จัตุรัสช้อปปิ้งมีการขยายตัวในปี 2543 และ 2544 จนเป็นขนาดปัจจุบัน ปัจจุบัน Jiefangbei CBD เป็นหนึ่งในศูนย์กลางเศรษฐกิจหลักของฉงชิ่ง
อนุสาวรีย์ปลดปล่อยฉงชิ่ง
หอนาฬิกาเจียฟ่างเป่ยเป็นหนึ่งในสถานที่ที่โดดเด่นที่สุดของฉงชิ่ง หอคอยแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงชัยชนะของจีนในสงครามจีน-ญี่ปุ่น อันเป็นข้อเท็จจริงที่น่าสนใจ เมื่อไม่กี่ทศวรรษที่แล้ว
อนุสาวรีย์แห่งการปลดปล่อยนี้สูงประมาณ 28 เมตร ตั้งอยู่ตรงกลางของถนนคนเดินสมัยใหม่และมีถนนสายหลักทั้ง 4 สายมาบรรจบกันที่อนุสาวรีย์
ใกล้กับถนนคนเดินเจี่ยฟ่างเป่ย คุณจะพบกับถนน 81st Street .. ซึ่งคุณจะพบกับอาหารข้างทางที่มีชื่อเสียงมากมายในฉงชิ่ง
แถวนี้คุณจะพบทุกสิ่งตั้งแต่ของขบเคี้ยวผลไม้ชิ้นเล็กๆ ไปจนถึงบาร์บีคิว บะหมี่ หม้อไฟ และของหวานทุกชนิดระหว่างนั้น
ถนนสายนี้ยังเป็นที่ตั้งของศูนย์อาหารสองแห่งที่ให้บริการอาหารเลิศรสในราคาที่สมเหตุสมผล
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
