28 มี.ค. เวลา 04:40 • หุ้น & เศรษฐกิจ

หุ้น JKN โดน SP ห้ามซื้อขาย หลังผู้สอบบัญชี ไม่แสดงความเห็น

มิชชัน “ภารกิจของจักรวาล” ยังคงเจอปัญหาไม่ขาดสาย เพราะล่าสุด ผู้สอบบัญชีได้ตรวจสอบงบการเงินปี 2566 ของบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN แล้วได้มีการ “ไม่แสดงความเห็น”
ทำให้ในวันนี้ หุ้น JKN ถูกตลาดหลักทรัพย์ขึ้นเครื่องหมาย SP หรือ Suspension ทำให้ซื้อขายไม่ได้
และตั้งแต่วันพรุ่งนี้ จะขึ้นเครื่องหมาย CS หรือ Caution - Financial Statements ทำให้นักลงทุนต้องซื้อหุ้นนี้ด้วยการวางเงินสดไว้ล่วงหน้าเต็มจำนวนเท่านั้น
โดยจากเอกสารชี้แจงผลรายงานผู้สอบบัญชี กรณีไม่แสดงความเห็น ต่องบการเงินสําหรับปี 2566 สิ้นสุด วันที่ 31 ธันวาคม 2566 ของ JKN
ได้แสดงให้เห็นว่า จากการผิดนัดชำระหุ้นกู้ ทำให้ตอนนี้บริษัทมีหนี้สินหมุนเวียน มากกว่าสินทรัพย์หมุนเวียน จำนวนกว่า 4,900 ล้านบาท
นั่นจึงทำให้ทาง JKN ต้องยื่นฟื้นฟูกิจการกับศาลล้มละลายกลาง ตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน และถูกพักชำระหนี้ไป
ถึงอย่างนั้น ทาง JKN ก็ยังไม่ทราบว่าจะได้ฟื้นฟูกิจการต่อไปหรือไม่ เนื่องจากทางศาลล้มละลายกลาง ได้นัดฟังคำสั่งในวันที่ 27 เมษายน 2567 นี้
ซึ่งถ้าหากทางศาลล้มละลายกลาง ไม่อนุญาตให้ JKN ฟื้นฟูกิจการ ก็จะเกิดการชำระหนี้อย่างฉับพลัน จนทำให้สินทรัพย์ และหนี้สินของกิจการเกิดการเปลี่ยนแปลงอีก
ทางผู้สอบบัญชีจึงไม่แสดงความเห็น เนื่องจากเห็นความไม่แน่นอนนี้ ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อการดำเนินกิจการ รวมถึงสินทรัพย์ และหนี้สินของทาง JKN อย่างมีนัยสำคัญ
เมื่อมาดูที่ ผลประกอบการปี 2566 ของบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จะพบว่า
- รายได้รวม 2,495 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน -6%
- ค่าใช้จ่ายรวม 4,444 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 163%
เมื่อนำมาหักลบกับทั้งต้นทุนทางการเงิน และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ แล้ว ส่งผลให้ผลประกอบการขาดทุนถึง 2,128 ล้านบาท
คิดเป็นลดลงจากปีก่อน -449%..
สาเหตุที่ JKN มีผลขาดทุนมากขนาดนี้ ก็เป็นเพราะว่าบริษัทรับรู้ค่าใช้จ่ายการด้อยค่าของสินทรัพย์ของบริษัทหลายรายการ ดังนี้..
- ผลขาดทุนจากการด้อยค่าในลิขสิทธิ์คอนเทนต์รวม 841.97 ล้านบาท
- ผลขาดทุนจากการด้อยค่าเครื่องหมายการค้า และค่าความนิยมรวม 271.52 ล้านบาท
- ตั้งสำรองการด้อยค่าในสินทรัพย์อื่นรวม 31.48 ล้านบาท
เมื่อรวมค่าใช้จ่ายเหล่านี้ ก็แปว่าในปี 2566 บริษัทต้องแบกค่าใช้จ่ายการด้อยค่าสินทรัพย์มากถึง 1,144.97 ล้านบาท
หากเราไปดูที่อัตราส่วนที่ไว้ใช้วัดสภาพคล่อง จะพบว่า
- อัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียน หรือ Current Ratio ซึ่งใช้วัดความสามารถในการชำระหนี้ระยะสั้น ของ JKN อยู่ที่ 0.24 เท่า
- อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้น หรือ Interest Bearing Debt to Equity Raio อยู่ที่เกือบ 2 เท่า
โดยอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้น ใช้วัดว่าบริษัทมีภาระหนี้สินที่จะต้องจ่ายดอกเบี้ย มากขนาดไหน เมื่อเทียบกับเงินในฝั่งของเจ้าของอย่างผู้ถือหุ้น ถ้าอัตราส่วนนี้สูง ก็แปลว่าบริษัทมีความเสี่ยงทางการเงินมาก
และอีกประเด็นที่น่าสนใจก็คือ แม้จะขาดทุน แต่เนื่องจากค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ไม่ใช่รายการเงินสด ทำให้ในปี 2566 บริษัทมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน ถึง 1,760 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บริษัทก็เลือกที่จะนำเงินไปลงทุนซื้อลิขสิทธิ์สูงถึง 2,350 ล้านบาท และเป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเงินล่วงหน้าอีกด้วย
ทำให้บริษัทแทบไม่เหลือเงินสดมาชำระหนี้เลย โดยตอนนี้บริษัทมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด เหลือแค่ 125 ล้านบาทเท่านั้น
หากเทียบกับจำนวนหนี้สินที่มีอยู่ทั้งหมดถึง 6,815 ล้าน ก็ต้องถือว่าห่างกันหลายเท่าตัวเลย..
จากตัวอย่างข้างต้นนี้ แสดงให้เห็นว่าทาง JKN นั้น ยังไม่สามารถแก้ปัญหาสภาพคล่องได้
แม้ทาง JKN ได้แจ้งในเอกสารว่า ทางบริษัทได้มีการวางแผนการดำเนินงาน และแผนกระแสเงินสดใหม่ ด้วยการเน้นขายสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้น โดยใช้สื่อของเครื่องหมาย Miss Universe
รวมไปถึงการนำลิขสิทธิ์ของ Miss Universe ไปหารายได้จากสถานีโทรทัศน์ในประเทศไทยเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งลดต้นทุนด้วยการจ้าง Outsource เพื่อสร้างสภาพคล่องให้ธุรกิจ
ซึ่งหลังจากนี้ สถานการณ์ของ JKN จะเป็นอย่างไรต่อไป ก็ขึ้นอยู่กับว่า ทางศาลล้มละลายกลาง จะมีคำสั่งอย่างไรต่อ การขอฟื้นฟูกิจการของ JKN ในวันที่ 27 เมษายนนี้..
References
- งบการเงินบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ปี 2566
- ชี้แจงผลรายงานผู้สอบบัญชีกรณีไม่แสดงความเห็น ต่องบการเงินสําหรับปี 2566 สิ้นสุด วันที่ 31 ธันวาคม 2566 บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
- คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ ประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 2566 บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
โฆษณา