สนามบินสุวรรณภูมิ เปิดให้บริการรถแกร็บแท็กซี่แล้ว

AOT เปิดให้เรียกรถแกร็บแท็กซี่เพิ่มเติมที่สุวรรณภูมิ ขยายทางเลือกให้แก่ผู้โดยสารให้ได้รับความสะดวก รวดเร็วและปลอดภัย
ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) พร้อมด้วยนางสาวเมธิณี อนวัชกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจการเดินทางและบริหารพาร์ทเนอร์คนขับ แกร๊บประเทศไทย และ นายสุวิทัต วงศ์วิเชียร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายการพาณิชย์)
รวมทั้งผู้บริหาร AOT ร่วมพิธีเปิด "ศูนย์ให้บริการ Grab ณ ทสภ." เพื่อเป็นศูนย์ให้บริการข้อมูล การอำนวยความสะดวก และ จุดบริการรับ – ส่ง (Pick-up Point) สำหรับผู้โดยสารและผู้ใช้บริการรถรับจ้างสาธารณะ ผ่าน Grab Application บริเวณอาคารผู้โดยสาร ชั้น 1 ประตู 4 ทสภ.
ดร.กีรติ กล่าวว่า ตามที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ตั้งเป้าหมายผลักดันท่าอากาศยานของไทยให้ติดอันดับ 1 ใน 20 สนามบินที่ดีที่สุดในโลก นั้น AOT ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงคมนาคมได้เร่งสนองนโยบายของรัฐบาล
โดยในด้านการขนส่งสาธารณะเพื่อการเชื่อมต่อระบบคมนาคมแบบไร้รอยต่อเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ จะสนับสนุนเป้าหมายดังกล่าว AOT ได้ร่วมมือกับ บริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดให้บริการรถรับจ้างสาธารณะผ่าน Grab Application โดยที่ผ่านมาได้เปิดให้บริการแล้วที่ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และ ท่าอากาศยานภูเก็ต
ซึ่งในวันนี้ AOT และ แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) จะเปิด "ศูนย์ให้บริการ Grab ณ ทสภ." ถือเป็นการเพิ่มทางเลือกในการเดินทางที่ หลากหลายมากขึ้นแก่ผู้โดยสาร ที่ใช้บริการ ทสภ. รวมถึงยกระดับมาตรฐานการบริการของ ทสภ.ให้มีความสะดวก และ รวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนั้น ยังได้รับความปลอดภัย เนื่องจาก รถแกร็บแท็กซี่ ที่มาให้บริการได้ผ่านการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก (ขบ.)ถูกต้องตามกฎหมาย
สำหรับการให้บริการรถรับจ้างสาธารณะ ผ่าน Grab Application มี 3 ประเภท ได้แก่ Grab Taxi / Grab Car และ Just Grab ซึ่งผู้โดยสารหรือผู้ใช้บริการสามารถเรียกรถได้ทุกพื้นที่ใน ทสภ.แต่ต้องไปใช้บริการขึ้น – ลงรถฯ ณ จุดบริการรับ - ส่งผู้โดยสาร ( Pick-up Point ) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชั้น 1 ประตู 4 เท่านั้น เพื่อให้การบริการเป็นไปด้วย ความเรียบร้อย สะดวก และ ปลอดภัย โดย Pick-up Point จะเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
ดร.กีรติ กล่าวในตอนท้ายว่า AOT ได้วางแผนขยายการให้บริการรถรับจ้างสาธารณะผ่านแอปพลิเคชันอื่นให้ สามารถเข้ามาบริการ ณ ท่าอากาศยานของ AOT ได้เช่นกัน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานความร่วมมือระหว่างกัน กับ แอปพลิเคชันอื่น เพื่อส่งเสริมให้การเดินทางโดยรถโดยสารขนส่งสาธารณะของผู้โดยสารมีความหลากหลาย ครบครัน ครอบคลุมทุกรูปแบบตามความมุ่งมั่นของ AOT ที่จะเป็นฟันเฟืองสำคัญในการสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศต่อไป
ด้าน นายพัลลภ ฉายินธุ นายกสมาคมประสานงานรถรับจ้างสุวรรณภูมิ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวในฐานะตัวแทนของผู้ให้บริการรถแท็กซี่สาธารณะในสนามบินสุวรรณภูมิ บอกว่า เมื่อถามว่าได้รับผลกระทบกับการเปิดให้บริการของ Grab Taxi / Grab Car หรือไม่นั้น ก็ต้องยอมรับว่าได้รับผลกระทบ แต่คงไม่หน้ากังวล ที่ผ่านมาในมติที่ประชุม ตนเองก็เป็นส่วนหนึ่งในมติที่ประชุมเห็นร่วมที่จะให้ Grab เข้ามาให้บริการในสนามบิน แต่ต้องเป็นรถที่ถูกต้องตามกฎหมายและขึ้นทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกเท่านั้น
ในอดีตที่ผ่านมา จะเห็นว่ามีการนำเอารถผิดกฎหมายเข้ามาวิ่งรับผู้โดยสารในสนามบิน จนเกิดผลกระทบตามมามากมาย ซึ่งพอมีการนำเอา Grab Taxi / Grab Car ที่ถูกต้องตามกฎหมายเข้ามาวิ่ง ในส่วนของรถแท็กซี่เดิมที่ให้บริการภายในสนามบิน ก็ต้องยอมรับกติกา และมาแข่งขันในการให้บริการ เพื่อให้เกิดความประทับใจแก่นักท่องเที่ยว
ซึ่งรถที่ให้บริการของทาง Grab ให้บริษัทฯ ปฏิบัติตามขั้นตอนการจัดสรรระบบคิวตามที่บริษัทฯ เสนอมา และยืนยันจุดรับโดยสาร (Pick up point) ผู้โดยสารจะต้องมาขึ้นรถ ณ เคาน์เตอร์ให้บริการบริเวณหน้าอาคารผู้โดยสารชั้น 1 ประตู 4 ทสภ. เท่านั้น
ไม่สามารถขึ้นรถในพื้นที่บริเวณอื่นๆ โดยรอบ ทสภ. ได้ ทั้งนี้ หาก ทอท. ตรวจพบว่าทางบริษัทฯ มีการละเมิดการให้บริการ ณ ทสภ. รวมถึงการไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.รถยนต์, พ.ร.บ.กรมการขนส่งทางบก, กฎกระทรวง ระเบียบกรมการขนส่งทางบก ประกาศกรมการขนส่งทางบก และประกาศกระทรวงคมนาคม ที่เกี่ยวกับรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทอท. สามารถดำเนินการปรับเป็นจำนวน 5,000.-บาทต่อกรณีต่อครั้ง
โฆษณา