28 มี.ค. เวลา 14:01 • สิ่งแวดล้อม

สังหารหมีหนัก 750 ปอนด์ด้วยมีดพับ ตอนที่ 2

“พระเจ้าอยู่ข้างข้าแล้ว”จีนได้ยินเสียงตัวเองตะโกนออกไป แต่หมีร้ายไม่หยุดมันพุ่งเข้ามาด้วยลักษณะประหลาดคือที่หัวของมันเอียงไปด้านหนึ่งขณะที่เลือดพุ่งเป็นน้ำพุตามมาด้วย มันตบกรงเล็บเข้าที่ไหล่ขวาตามด้วยงับขาขวาของจีน ก่อนจะถอยไปตั้งหลักแล้วก็ตัดสินใจพุ่งใส่จีนเต็มเหนี่ยว
ทำให้พรานเลือดโชกต้องแข็งใจง้างหมัดซ้ายหมายใส่จุดตายที่จมูกของมันตามที่เคยได้รับคำแนะนำจากเพื่อนพรานที่ให้ใช้ไม้ฟาดเข้าที่จมูกหรือหน้าแงของสัตว์จู่โจมจะทำให้พวกมันตายสนิท แต่คราวนั้นหมัดของจีนพลาดจากจมูกไปโดนเบ้าตามันอย่างหนัก เขาชกสุดแรงจนมือชานิ้วล็อกไม่มีความรู้สึกไปชั่วขณะ และเป็นวินาทีนั้นที่หมีร้ายนอนพังพาบกับพื้นมือกางตีนกาง และถือเป็นการหยุดลมหายใจของมันไปโดยปริยาย
จีนคิดว่าสิ่งที่ทำให้มันแทบหมดลมมากที่สุดก็คือการแทงมีดพับครั้งสุดท้ายเข้าที่ใต้คอของมันและมีดถูกดันลึกเข้าไปทำลายกระดูกคอต่อจนทำให้มันเจียนตายในวินาทีนั้น และที่มันยังมีแรงชาร์จเข้าใส่ได้อีกคงเป็นเรื่องของธาตุทรหดล้วนๆ ตอนนั้นแม้หมีจะนิ่งไปแล้วแต่จีนก็ทรหดมากพอที่จะประคองร่างไปที่ปืน
แต่ก็จนใจที่ไม่อาจแกะนิ้วออกจากการกำมีดได้จำต้องใช้ฟันกัดนิ้วตัวเองให้คลายล็อกจากด้ามมีด ต่อมาจึงพยายามกัดฟันเหนี่ยวไกปืนไปที่ร่างหมีอีกสองนัดแล้วลากสังขารไปอีกสองไมล์จนพบเพื่อนๆที่จุดพักก่อนจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในภายหลัง
เรื่องราวการเอาตัวรอดจากการต่อสู้กับหมีโคดิแอคสุดโหดนั้นเป็นเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นที่เกาะราสเบอรี่ ในดินแดนอลาสก้า เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ค.ศ.1999 (พ.ศ.2542) ราวบ่ายสองโมง ขณะนั้น จีน โม อายุ 69 ปีแล้ว
ความที่เป็นอดีตนายทหารอากาศเก่ารวมทั้งเป็นนักธุรกิจด้านก่อสร้างที่มีเพื่อนเป็นนายพรานจำนวนมากทำให้เขามีทักษะในการต่อสู้และการล่าสัตว์อยู่บ้าง เรื่องราวอันแสนทึ่งของเขากลายเป็นประเด็นคุยกันไม่รู้จบกระทั่งทุกวันนี้ และแม้จีนจะจากโลกนี้ไปแล้วแต่ตำนานการต่อสู้กับหมีด้วยมีดบัค 110 นั้นยังคงตราตรึงในหมู่นักท่องไพรเสมอ
โฆษณา