1 เม.ย. เวลา 01:43 • ประวัติศาสตร์
April Fool's Day เป็นธรรมเนียมวันเล่นสนุกของพวกฝรั่งเขาค่ะ ขออนุญาตพูดจากประสบการณ์ตรงที่คลุกคลีกับพวกคนตะวันตกนะคะ การโกหกสำหรับพวกฝรั่งถือเป็นเรื่องใหญ่มาก เป็นเรื่องน่าละอาย แย่สุดของเค้าก็คือเงียบไม่พูด แต่ก็ยังรู้สึกผิดเอามากๆที่ต้องปิดบัง ถ้าโดนจับได้ ก็ยอมรับผิด ขอโทษกันทันที ไม่แถหรืออ้างตรรกะป่วยๆแบบคนบางชาติ อันนี้พูดถึงคนทั่วๆไปนะคะ
หากเทียบกับศีล 5 ของชาวพุทธ ข้อมุสาฯเป็นเรื่องซีเรียสมากสำหรับวัฒนธรรมตะวันตก ซีเรียสกว่าข้ออื่น ซึ่งต่างจากพวกเราที่เป็นชาวพุทธแท้ ข้อมุสาฯนี่ซีเรียสน้อยสุดล่ะมัง!! การพูดโกหก บิดเบือน พูดเพ้อเจ้อ บูลลี่ด้วยวาจา เกรียนคีย์บอร์ด ฯลฯ เหล่านี้แทบจะกระทำกันจนเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวันกันเลย
เมื่อการโกหกเป็นเรื่องใหญ่ในวัฒนธรรมตะวันตก April Fool's Day จึงเป็นเหมือนวันพิเศษวันนึง ที่สร้างสรรค์ความบันเทิง มองหาความบันเทิงท่ามกลางความซีเรียสจริงจังในชีวิตจริง
April Fool's Day ไม่ได้หมายความว่าเขามองการโกหกว่าเป็นเรื่องดีค่ะ แต่เป็นแค่ความบันเทิงชั่วคราว ไม่ได้จะโกหกให้เกิดความเสียหายใหญ่โต แค่อำเล่นขำๆกัน วันเดียวจบ!!
ไม่รู้ที่มาจึงไม่เข้าใจ-ไม่เก็ทในวัฒนธรรมของชาติอื่น เรียกว่าเป็น cultural shock เหมือนที่พวกฝรั่งเขาก็งงกับคนไทยเรื่องสวดมนต์ข้ามปี
เพื่อนฝรั่งเคยถามเราว่า คนทำชั่วทำเลวกันทั้งปี อีเว้นท์สวดมนต์ข้ามปี set zero บาปได้เลยหรอ? หรือกินเจกินผัก 10 วันได้บุญแล้วงี้พวกช้างม้าวัวควาย กินผักกินหญ้าตลอดชีวิต น้องๆมิบุญหนักสุดๆกันเลยป่าว?
1
ที่มา April Fool's Day ที่บันทึกในประวัติศาสตร์ เป็นคนละเรื่องกันเลย กับปัจจุบันที่วันนี้กลายเป็นวันเล่นสนุก แปะลิงก์มาให้อ่านค่ะ
โฆษณา