เกิดเหตุโจมตีทางอากาศทำลายอาคารกงสุลอิหร่านในกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (Islamic Revolutionary Guard Corps : IRGC) ระบุในแถลงการณ์ว่า ที่ปรึกษาทางทหารชาวอิหร่าน 7 คนเสียชีวิตในการโจมตีครั้งนี้ รวมถึงนายพล IRGC 2 ราย คือโมฮัมหมัด เรซา ซาเฮดี และโมฮัมหมัด ฮาดี ฮัจริยาฮิมิ ผู้บัญชาการอาวุโสในกองกำลังคุดส์ ซึ่งเป็นหน่วยจารกรรม และข่าวกรอง ที่รับผิดชอบหลักในการปฏิบัติการในต่างประเทศ โดยกองกำลังคุดส์เป็นกองทหารกึ่งทหารลับของกองกำลังรักษาพระองค์ ในเลบานอนและซีเรีย
นายพลทั้งสองเป็นบุคคลสำคัญที่มีความสัมพันธ์ระหว่างเตหะรานกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์และประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรีย
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์อ้างว่ามีเจ้าหน้าที่อิสราเอลที่ไม่เปิดเผยชื่อ 4 คน ได้ยอมรับว่าอิสราเอลเป็นผู้ก่อเหตุโจมตี
รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่าน ฮอสเซน อามีร์-อับดุลลาห์เชียน กล่าวถึงการโจมตีครั้งนี้ว่า “เป็นการละเมิดพันธกรณีและอนุสัญญาระหว่างประเทศทั้งหมด” และกล่าวโทษอิสราเอล โดยเขาได้โพสต์บน X. ว่า “รัฐบาลอเมริกันในฐานะผู้สนับสนุนระบอบไซออนิสต์ (อิสราเอล) อเมริกาต้องให้คำตอบในเหตุการณ์ครั้งนี้” ทั้งนี้ สหรัฐอเมริกา ได้จัดประเภทกองกำลังคุดส์ ว่าเป็น “กองกำลังก่อการร้าย”
ประเทศมุสลิม เช่น อิรัก จอร์แดน โอมาน ปากีสถาน กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ต่างประณามการโจมตีดังกล่าว เช่นเดียวกับรัสเซีย
ในแถลงการณ์ของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ให้คำมั่นว่าจะตอบโต้ แก้แค้น การกระทำของอิสราเอลที่ทำลายสถานกงสุลอิหร่านในกรุงดามัสกัส
เอกอัครราชทูตอิหร่านประจำซีเรีย ฮุสเซน อัคบารี ซึ่งสื่อของรัฐอิหร่านเชื่อว่าเป็นหนึ่งในเป้าหมายของการโจมตีไม่ได้รับอันตราย เขาได้บอกกับสถานีโทรทัศน์ของรัฐอิหร่านว่า ความสูญเสียครั้งนี้การตอบโต้ต่อการโจมตีจะ “มีขนาดและความรุนแรงเท่ากัน”
ในแถลงการณ์อีกฉบับหนึ่ง นัสเซอร์ คานานี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่านกล่าวว่า อิหร่าน “ขอสงวนสิทธิ์ในการตอบโต้ และจะตัดสินใจเกี่ยวกับประเภทของการตอบโต้และการลงโทษของผู้รุกราน”
อิสลาเอลยังไม่ได้ออกมายอมรับ โดยโฆษกกองทัพอิสราเอลกล่าวกับนักข่าวว่า “เราไม่แสดงความคิดเห็นต่อรายงานในสื่อต่างประเทศ”
นัยสำคัญของเหตุการณ์นี้อาจอยู่ที่อิหร่าน เกี่ยวกับการโจมตีทางอากาศซึ่งถือว่าเป็นการโจมตีดินแดนอิหร่าน และจะนำไปสู่ความรุนแรงที่ขยายวงกว้างเพิ่มขึ้น
ที่มา :