4 เม.ย. เวลา 03:53 • ไลฟ์สไตล์

Alphafly 3

Alphafly 3 เป็นรองเท้าวิ่งรุ่นล่าสุดจากตระกูล Alphafly ซึ่งรองเท้าวิ่งตระกูล Alphafly นั้นได้มีการเผยโฉมครั้งแรกกับการวิ่งทำลาย 2 ชม. ของ Eliud Kipchoge ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียกับงาน INEOS 1:59 ที่เป็นงานวิ่งแบบปิดสำหรับเจ้าตัวโดยเฉพาะ และก็ได้ทำเวลาไปได้ 1:59:40 ชั่วโมง เป็นการทำลายกำแพง 2 ชั่วโมงอย่างไม่เป็นทางการ และหลังจากงานนี้ก็ทำให้ World Atletics ได้ออกกฏสำหรับรองเท้าวิ่งออกมาที่ห้ามพื้นสูงเกิน 40 มม. และมีแผ่นคาร์บอนได้เพียง 1 แผ่นเท่านั้น
เนื่องจากข่าวลือตอนแรกของ Alphafly จะมีแผ่นคาร์บอนด้วยกันถึง 3 แผ่น และมีพื้นที่สูงมาก ซึ่งรองเท้าที่เจ้าตัวใส่วิ่งในครั้งนั้นก็ยังเป็นความลับว่ามีสเปกภายในอย่างไรบ้าง และใน Alphafly NEXT% รุ่นแรกที่ออกมาวางจำหน่ายช่วงต้นปี 2020 ก็เป็นอย่างที่หลายๆ ท่านได้สัมผัสกัน จนในช่วงกลางปี 2022 ก็ได้ปล่อย Alpahfly NEXT% 2 ออกมา และตอนนี้ก็พร้อมแล้วสำหรับรุ่นที่ 3 หากใครที่เคยลอง Alphafly 2 ต้องบอกเลยเป็นหนึ่งในรองเท้าวิ่งที่สมใส่เท้าเข้าไปได้ยากมากๆ คู่นึง
แต่การปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงในรุ่นที่ 3 นี้ ถือว่าแก้ปัญหานี้ได้หมดไปเลย ด้วยการออกแบบที่บริเวณข้อเท้าที่กว้างขึ้นรวมถึงยืดหยุ่นกว่าเดิม ทำให้การสวมใส่เท้าเข้าไปในอัปเปอร์ได้ง่าย และลักษณะของอัปเปอร์ก็จะเป็นแบบ Sock-like ที่ลิ้นรองเท้าจะเย็บติดกันกับหน้าผ้าโดยรอบ ให้ความรู้สึกเหมือนกับการสวมถุงเท้า และรุ่นนี้ยังมีการปรับช่วงหลังเท้าให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ทำให้คนที่หลังเท้าสูงไม่รู้สึกอึดอัดมาก และยังมีการปรับรูร้อยเชือกใหม่ ซึ่งก็มอบความกระชับได้ดี
แถมยังให้ความกระชับที่ข้อเท้ามากขึ้น ส่วนส้นเท้าก็มีการบุนวมนุ่ม ซัพพอร์ตกับส้นเท้าและบริเวณเอ็นร้อยหวายได้ดีเช่นกัน ด้วยหน้าผ้า Atomknit นั้นมีรูระบายอากาศที่เยอะและกว้าง รวมถึงหน้าผ้าก็มีความบาง จึงทำให้การระบายอากาศนั้นทำได้ดีมาก เมื่อมีลมพัดก็รู้สึกได้ชัดเจน ส่วนความกระชับต้องบอกว่าทำมาได้ดีเลย สวมใส่แล้วไม่รู้สึกอึดอัดและยังไม่รู้สึกสบายจนหลวมเกินไป ส้นเท้าไม่หลวมหลุด เป็นการปรับปรุงออกมาให้เป็นมิตรกับทุกคนได้เป็นอย่างมาก และไม่เพียงเหมาะกับสายวิ่งทั่วไปแล้ว
ก็ยังเหมาะกับสายทำความเร็วและระยะไกลอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นการกลับมาทวงบัลลังก์รองเท้าวิ่งระดับท็อปได้อย่างเต็วตัว ด้วยการออกแบบพื้นชั้นกลางใหม่ การเพิ่มความกว้างของฐานและความกว้างของแผ่นคาร์บอน รวมถึงการปรับองศา Zoom Air Pods คู่หน้าเท้า ทำให้การวิ่งสมูทไหลลื่นเป็นธรรมชาติมากขึ้น มั่นคง และรู้สึกวิ่งได้สนุกขึ้น สิ่งที่ไม่ชอบก็คือเสียงในจังหวะที่ลงเท้าก็ยังคงมีเสียงดังเช่นเคย ใครที่กำลังมองหารองเท้าวิ่งสำหรับใส่วิ่งระยะไกลที่รองรับแรงกระแทกดีๆ รวมถึงมีแรงส่งคืนที่ช่วยให้เราประหยัดแรง
ใครมีงบถึง รุ่นนี้ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ใครที่พลาดสี Proto ไป เดี๋ยวไนกี้ ก็มีการออกสีใหม่มาเรื่อยๆ สามารถไปติดตามกันได้ที่ร้าน Iam247 และเว็บไซต์ ไนกี้ ประเทศไทย https://invol.co/clkdbhe
โฆษณา