4 เม.ย. 2024 เวลา 06:03 • ธุรกิจ

สรุปโมเดลธุรกิจ 6 แบบ ที่ธุรกิจสมัยนี้ชอบใช้

1. Affiliate = โมเดลแบบใช้ตัวแทนขายบนโลกออนไลน์
-ให้ครีเอเตอร์ อินฟลูเอนเซอร์ มาทำคอนเทนต์รีวิว ขายของให้แบบเนียน ๆ เจ้าของสินค้าไม่ต้องเปลืองแรงโฆษณาเอง ท่าที่ใช้กันประจำ คือ รีวิวสินค้า แล้วแปะลิงก์ให้กดเข้าไปซื้อ
-บริษัทเจ้าของสินค้า จะแบ่งเงินให้ครีเอเตอร์ตามเงื่อนไขที่กำหนด เช่น จ่ายเงินเป็น % ตามยอดขายที่เกิดจากคนกดลิงก์เข้ามาซื้อ
-ตัวอย่างธุรกิจที่ใช้โมเดลแบบนี้ เช่น ร้านค้าใน TikTok Shop, Shopee, Lazada
2. Freemium = โมเดลแบบให้ลูกค้าทุกคนเริ่มใช้บริการได้ฟรี -แต่ถ้าอยากใช้บริการแบบเต็มรูปแบบ หรือได้สิทธิประโยชน์เพิ่ม ต้องจ่ายเงินซื้อเพิ่ม
ตัวอย่างธุรกิจที่ใช้โมเดลแบบนี้ เช่น
-แอปพลิเคชันฟังเพลง Spotify, Joox
-เกมออนไลน์ที่เล่นฟรี แต่มีให้เติมเงินแลกซื้อไอเท็ม
3. Subscription = โมเดลที่ให้ลูกค้าสมัครเป็นสมาชิกก่อน ถึงจะใช้บริการ/ฟีเชอร์ ของบริษัทได้
-ข้อสังเกตคือ ผู้เป็นสมาชิกจะจ่ายเงินให้บริการนั้นไปเรื่อย ๆ เช่น ทุก ๆ เดือน ทุก ๆ ปี ทำให้บริษัทเจ้าของบริการจะมีรายได้ที่เรียกว่า “Recurring Revenue” คือรายได้ได้ที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ จากลูกค้าสมาชิกคนเดิม
-ตัวอย่างธุรกิจที่ใช้โมเดลแบบนี้ เช่น Netflix, Disney + Hotstar
4. Razor and Blades = โมเดลขายสินค้าหลักไม่แพง ให้คนซื้อไปใช้ แล้วไปเอารายได้กำไร จากการขายสินค้าเสริมเรื่อย ๆ
-ตัวอย่างธุรกิจที่ใช้โมเดลแบบนี้
เช่น มีดโกนหนวด Gillette ที่ขายด้ามมีดโกนไม่แพง แต่ไปเอารายได้กำไรต่อ จากใบมีดโกน ที่ขายแพง ๆ และต้องซื้อเปลี่ยนเรื่อย ๆ
-เครื่องพรินเตอร์ ซื้อเครื่องตอนแรกไม่แพงมาก แต่ไปหมดกับค่าหมึกเยอะ
5. Advertising - Based = โมเดลเน้นรายได้จากค่าโฆษณา
-ส่วนใหญ่อยู่ในธุรกิจแพลตฟอร์มและสื่อ เทคนิคคือสร้างฐานผู้ใช้งาน/ฐานผู้ติดตามให้ได้เยอะ ๆ แล้วจะมีโฆษณาเข้ามา
-ตัวอย่างธุรกิจที่ใช้โมเดลแบบนี้ชัด ๆ เช่น บริษัท Meta เจ้าของ Facebook, Instagram ที่มีรายได้จากค่าโฆษณาปีละมากกว่า 98%
-เพจเฟซบุ๊ก / อินฟลูเอนเซอร์ ที่ผู้ติดตามเยอะ ๆ ก็จะมีสปอนเซอร์เป็นแบรนด์ต่าง ๆ เข้ามาจ้างโฆษณา
6.โมเดล องค์การไม่แสวงหาผลกำไร = องค์การ มูลนิธิ สมาคม สหภาพ และพรรคการเมือง ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนินงานที่มีลักษณะ 4 อย่างตามนี้
-หน้าที่หรือกิจกรรมเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม มิใช่เฉพาะกลุ่ม
-เป็นองค์กรที่ปกครองตนเอง โดยมีคณะกรรมเป็นผู้กำหนดนโยบายและตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ
-ไม่แสวงหาผลกำไรและไม่แบ่งปันผลประโยชน์แก่สมาชิก
-ไม่ใช่องค์การฯ ของรัฐ แม้องค์การนั้นจะจัดตั้งขึ้นโดยรัฐ หรือได้รับการสนับสนุนจากรัฐ
ซึ่งหนึ่งในประเภทขององค์การไม่แสวงหาผลกำไร
คือ องค์การศาสนา อย่างเช่น โบสถ์คริสต์, สุเหร่า, ลัทธิและนิกายต่าง ๆ
รวมถึง “วัด” ก็เป็นองค์การไม่แสวงหาผลกำไรเหมือนกัน
1
โฆษณา