5 เม.ย. เวลา 07:37 • นิยาย เรื่องสั้น

ความจริงที่ไม่แน่นอน

เช้าวันใหม่วันนี้อากาศสดใสสดชื่นมากกลุ่มควันเมฆหมอกดูหายไปมากเพราะไม่มืดมัวเห็นหมอกขาวๆตามธรรมชาติหมอกควันได้จางลงความมืดดำจางหายไปตัวเราเองออกมารับอารมณ์แต่เช้ามืดมองไปก็ลางๆอยู่ดีเพราะยังไม่สว่างชัดเจนซักครู่เพื่อนบ้านที่สนิทสนมกันก็ทยอยกันมาตั้งแต่เช้าฟ้ายังมืดอีก 2 คนเสียงพูดดัง
ขึ้นบอกเราว่าพี่เรายังไม่มาเหรอคะเขาจะมาหรือไม่น้องๆสงสัย มาสิคะเราตอบไปตกลงกันแล้วไม่มีปัญหาทำใจให้สบายเอาดอกไม้มาเผื่อพี่ด้วยใช่หรือไม่เราเห็นดอกบัวเต็มกำมือน้องพยักหน้าต่อและมีขนมปังแซนวิชด้วยเรารีบปฏิเสธว่าไม่หรอกเดี๋ยวจะอิ่มแล้วปวดท้องไปให้ถึงที่ก่อน
มีอาหารพระราชทานแจกนะเราบอก เราดีใจที่จะได้ไปรับประทานอาหารจากการพระราชทานที่สำคัญที่ว่าขอให้ได้ไหว้ให้ได้กราบใกล้ชิดพระพุทธองค์สักครั้งในชีวิตก่อนตายขออภัยอินเดียลูกๆไม่ให้ไปกลัวจะป่วยและเป็นลมวูบๆอยู่บ่อยๆสมัยยังแข็งแรงก็จะไปเตรียมตัวแล้วเงินทองพร้อมแต่พี่มาป่วย
พ่อสามีป่วยอะไรๆก็หยุดชะงักหมดก็เลยต้องอธิษฐานอยู่ในใจว่าชาตินี้ขอให้ได้ฝ้าพระพุทธเจ้าเถิดเพียงในฝันก็ยังดีขอชาตินี้แหละภาวนาถึงพระคุณของพระตถาคตทุกวันอยากไปอยู่ที่ที่ควรไปอยากไปที่สูงไม่อยากเกิดอีกเพราะชาตินี้ก็ลำบากลำเค็ญจะให้มาลำบากอีกก็ท้อแท้ท้อถอยคิดฟุ้งซ่างไปต่างๆ
นานาน้องข้างๆบ้านบอกว่ารถมาแล้วพอดีน้องมาช้านิดนึงก็ทันรถเตรียมตัวเตรียมใจเป็นปิติที่จะไปไหว้พระสารีริกธาตุและพระอรหันต์พระธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอรหันต์ทั้งสองพระองค์สารีบุตรและโมคคัลลานะเรารู้เลยว่าคำสอนที่ท่านสอนเป็นพระธรรมที่ล้ำเลิศจริงๆท่านเป็นผู้ให้
เป็นผู้เสียสละ ผิดกับผู้ที่โลภผู้ที่ต้องการจะรับ มันคนละมิติกัน ท่านจะทำเพื่อโลกเพื่อสัตว์โลก แต่ผู้ที่ตรงข้ามจะคิดเอาแต่รับแต่ประโยชน์ ท่านเสียสละชั่วชีวิตเพื่อศึกษาความจริงมาบอกกล่าวชาวโลกในจักรวาลให้รู้อริยสัจ 4 ที่ทุกคนควรรู้ขณะนั่งไประหว่างทางการเดินทางยังไม่สว่างดี
เพราะเวลา 05:00 น ก็ยังมืดๆอยู่ก็เลยทบทวนคำตอบของพระพุทธองค์กับน้องๆระหว่างเดินทางเราถามน้องว่าเคยได้ยินได้ฟังหรือไม่คำถามคำตอบที่พระพุทธองค์ตอบคำถามของพราหมณ์ที่มาถามท่านเพื่อให้ท่านจนปัญญา เพื่อนร่วมเดินทางกล่าวตอบว่า ยังไม่ได้ยินหรือจำไม่ได้ก็ขอให้เราอธิบายให้ฟังด้วยถ้าท่านเคยได้ยินได้ฟังแล้ว
ก็ขออนุโมทนาด้วยนะคะ คำถามข้อ 1 อะไรคมที่สุด พราหมร์บอกว่า มีดที่ลับดีแล้วคมที่สุดพระพุทธองค์ตรัสว่าวาจาใส่ร้ายผู้อื่นทำร้ายหัวใจผู้อื่นคมที่สุด 2 อะไรไกลที่สุด พราหมณ์ตอบว่า ดวงอาทิตย์อยู่สุดขอบฟ้าไกลที่สุด พระพุทธองค์ตรัสว่าอดีตที่ผ่านมาหลายกัลป์หลายกัลย์ยาวที่สุด 3 อะไรใหญ่ที่สุด พราหมณ์ตอบว่า ภูเขาโลกมหาสมุทรใหญ่ที่สุด พระพุทธองค์ตรัสว่า
ตัณหาความทะยานอยากไม่มีที่สิ้นสุดทำให้ก่อภพก่อชาติใหญ่ที่สุด 4 อะไรหนักที่สุด พราหมณ์ตอบว่า หินเหล็กแร่ดินน้ำหนักที่สุด พระพุทธองค์ตรัสว่าคำสัญญาใดๆที่พูดง่ายแต่ทำยากคำสัญญานั้นแหละเป็นสิ่งที่หนักที่สุด 5 อะไรเบาที่สุด พราหมณ์ ตอบว่านุ่นสำลีใบไม้แห้งเบาที่สุด พระพุทธองค์ตรัสว่า
การปล่อยวางความรู้เท่าทันว่าเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปแบบนี้แหละเบาที่สุด 6 อะไรใกล้เราที่สุด พราหมณ์ตอบว่า พ่อแม่พี่น้องญาติของเราใกล้เราที่สุด พระพุทธองค์ตรัสว่าความตายวิ่งตามเราอยู่เหมือนเงาตามตัวตามอยู่กับเราต่างหากที่อยู่ใกล้กับเราที่สุด 7 อะไรง่ายที่สุดพราหมณ์ตอบว่า กินนอนพูดหายใจ
ง่ายที่สุด พระพุทธองค์ตรัสว่าธรรมะแบ่งปันให้แสงสว่างแก่ผู้อื่นง่ายที่สุดเป็นประโยชน์ต่อสังคมด้วยง่ายที่สุด พราหมณ์ได้ฟังคำตอบจากพระพุทธเจ้าแล้วแต่ตามพิจารณาโดยเหตุผลแล้วจึงยอมรีบมอบกายถวายตัวยอมสมาทานศีลเป็นพุทธมามกะและได้ดวงตาเห็นธรรมโดยทั่วกันพร้อมกล่าวสรรเสริญ
พระพุทธเจ้าเป็นสัตถาเทวมนุษยสานังพระพุทธองค์เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายโดยแท้จริงพระพุทธองค์ตรัสว่าไม่มีทรัพย์สินสิ่งใดให้ทานกับผู้อื่นได้ด้วยสิ่งของ 5 ประการหนึ่งใบหน้าเป็นทาน 2 วาจาเป็นทาน3 จิตใจเป็นทาน 4 ดวงตาเป็นทาน 5 กายเป็นทานอย่าได้ตระหนี่
ต่อผู้อื่นในการทำประโยชน์จะเพิ่มผลมหาศาลร่ำรวยมั่นคงทุกประการ พอพูดคุยเรื่องต่างๆจบก็ถึงเวลาเลี้ยวรถเข้าเขตท้องสนามหลวง พอไปถึงใช้เวลาเกือบชั่วโมงนึกว่าเราไปแต่เช้าแล้วแต่ที่ไหนได้ประชาชนต่างขวนขวายอยากมาสักการะพระพุทธองค์อย่างใกล้ชิดเต็มท้องสนามหลวงทั้งหญิงชาย
ภิกษุวัดต่างๆข้าราชการและเจ้าหน้าที่บอกไม่ถูกว่าเราเองก็ตื่นเต้นดีใจได้จอดรถพอดีและได้ไปพักที่ที่ทางการจัดให้พุทธานุภาพมากมายเพิ่มปิติมีบุญไม่ต้องได้ถึงไปประเทศอินเดียก็ได้กับท่านเพราะแรงศรัทธาคิดแล้วตื้นตันใจอย่างบอกต่อไปนี้ตัวเราคิดในใจเราจะยึดมั่นในพระธรรม
คำสอนของพระพุทธองค์ให้มากๆขึ้นไปกว่าเดิม แต่ในทางตรงกันข้ามเราก็ต้องปล่อยวางเพราะพระธรรมไม่มีตัวตนทุกอย่างไม่มีตัวตนไม่ใช่ของเราไม่ใช่ตัวเรามาแล้วก็ต้องจากจุดเริ่มต้นของการมาก็มีจุดเริ่มต้นของการจากไม่มีอะไรยึดมั่นถือมั่นทุกอย่างย่อมมีเหตุพอหมดเหตุก็ต้องจากไปธรรมะของ
พระพุทธองค์ที่ค้นพบช่างละเอียดอ่อนจริงแม้แต่การจะคิดสักอย่างก็ล้วนเป็นพระธรรมทั้งนั้นเรานั่งดูลมหายใจอยู่อย่างนั้นแล้วก็ให้รู้สึกว่าโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอนมีแต่ความว่างเปล่าความจริงเรื่องจริงที่เห็นๆอยู่มีก็คือความไม่จริงเพราะมันสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามหลักการนี้เป็นอนัตตา
แต่ความสุขก็คือความทุกข์ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ทุกอย่างล้วนเป็นของสมมุติคิดได้อย่างนี้ก็รู้สึกโล่งใจประทับใจที่ได้คนพบพระธรรมของพระพุทธองค์ใบไม้ในมือก็แค่รู้จำแต่ใบไม้ในป่าช่างมากมายมหาศาลเรียนรู้เท่าไหร่ก็ไม่จบไม่สิ้นไม่จบไม่สิ้นแต่เวลาผ่านไปรวดเร็วเมื่อไหร่หนอเราจะหลุดพ้น
จากวัฏจักรนี้ไปได้คิดเท่าไหร่ก็ไม่จบนอกจากจะหยุดคิดถึงจะรู้จบได้ก็เท่านั้นเองง่ายๆแต่ทำยากมากสาธุขอบคุณรัฐบาลที่จัดงานครั้งนี้ให้สาธุชนด้วยกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่หาที่เปรียบมิได้ขอให้ได้รับบุญกุศลมากๆค่ะ
โฆษณา