6 เม.ย. เวลา 03:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

เศรษฐีอันดับหนึ่งอังกฤษ รวย 600,000 ล้าน จากการลงทุน

หลายคนอาจจะคิดว่าเศรษฐีอันดับหนึ่งของอังกฤษ จะต้องเป็น Jim Ratcliffe ผู้ถือหุ้นใหญ่สโมสรแมนยู หรือ James Dyson
แต่จริง ๆ แล้ว ไม่ใช่แบบนั้น เพราะปัจจุบัน คุณ Michael Platt เป็นเศรษฐีรวยสุดในอังกฤษ มีความมั่งคั่ง มากถึง 658,000 ล้านบาท
ที่สำคัญก็คือ เขาไม่ใช่ผู้ประกอบการ
ไม่ได้สร้างธุรกิจ สร้างแบรนด์อะไรขึ้นมา
แต่กลับรวยมาจาก การลงทุน..
เส้นทางชีวิตของคุณ Michael Platt เป็นมาอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
คุณ Michael Platt เกิดในปี 1968 ที่เมืองเพรสตัน ประเทศอังกฤษ
ด้วยความที่มีคุณย่าเป็นนักลงทุน ทำให้คุณ Platt นั้น ได้เรียนรู้จากคุณย่า และเริ่มลงทุนตั้งแต่ตอนอายุครบ 14 ปี โดยคุณ Platt ได้ของขวัญวันเกิด เป็นเงินมูลค่า 23,000 บาท จากคุณย่า
คุณ Platt ได้นำเงินก้อนนั้น ไปลงทุนในหุ้นบริษัทเดินเรือ ที่มีชื่อว่า Common Brothers และสามารถทำผลตอบแทนได้ถึง 3 เด้ง ในเวลาต่อมา
หลังจากนั้นคุณ Platt ก็ได้ลงทุนมาเรื่อย ๆ และสามารถทำผลตอบแทนได้อย่างต่อเนื่อง จนเมื่อเรียนจบ ม.ปลาย คุณ Platt ตัดสินใจเลือกเรียนต่อทางด้านวิศวกรรม ตามรอยผู้เป็นพ่อ
แต่เมื่อเรียนไปได้ปีเดียว เขากลับรู้สึกเบื่อ จึงได้เปลี่ยนมาเรียน คณะเศรษฐศาสตร์และคณิตศาสตร์ ที่ London School of Economics (LSE) แทน
2
หลังเรียนจบในปี 1991 คุณ Platt ก็ได้เริ่มชีวิตการทำงานที่ JPMorgan ในนครนิวยอร์ก ก่อนที่จะย้ายกลับมายังลอนดอน ในอีก 6 เดือนต่อมา
ในปี 2000 คุณ Platt และเพื่อนร่วมงานที่ JPMorgan ได้ตัดสินใจออกมาเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง หลังจากสั่งสมประสบการณ์ทำงานมานานเกือบ 10 ปี
โดยเขาได้ก่อตั้งธุรกิจบริหารกองทุนเฮดจ์ฟันด์ หรือกองทุนที่เน้นการระดมทุนเป็นเงินก้อนใหญ่ จากบรรดานักลงทุน และนำไปลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ
ซึ่งเขาตั้งชื่อบริษัทใหม่นี้ว่า BlueCrest Capital Management ด้วยเงินทุนตั้งต้นประมาณ 4,270 ล้านบาท
1
โดยในสิ้นปีแรก BlueCrest สามารถทำผลตอบแทนได้สูงถึง 30% และมีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) อยู่ที่ประมาณ 36,400 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 9 เท่า จากเงินทุนแรกเริ่ม
แต่คุณ​ Platt มองว่า เขาแค่โชคดี เพราะบังเอิญไปลงทุนในช่วงที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือ FED เริ่มลดดอกเบี้ยครั้งใหญ่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ภายหลังจากเกิดวิกฤติฟองสบู่ดอตคอม ในช่วงปี 2000
1
นอกจากนี้ BlueCrest ยังมีกองทุนที่ใหญ่ที่สุดชื่อ BlueTrend ซึ่งใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยในการเทรดหุ้น โดยระบบคอมพิวเตอร์ จะประมวลผลข้อมูลในอดีต และทำนายทิศทางของราคาสินทรัพย์ในอนาคต
2
ซึ่ง BlueTrend สามารถทำผลตอบแทนได้ดีอย่างสม่ำเสมอ โดยมีผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง 19% ต่อปี มาตั้งแต่ก่อตั้งกองทุนในปี 2004 และกลายเป็นหนึ่งในเฮดจ์ฟันด์ที่สร้างผลตอบแทนได้มากที่สุด ในประเทศอังกฤษ
1
อย่างไรก็ตาม ในช่วงปี 2015 ก็เกิดจุดเปลี่ยนสำคัญของ BlueCrest
1
เพราะในตอนนั้นการแข่งขันในอุตสาหกรรมการเงินดุเดือดมาก จนหลายเฮดจ์ฟันด์ต่างพากันลดค่าธรรมเนียม เพื่อดึงดูดนักลงทุน ซึ่งนั่นหมายถึงรายได้ที่ลดลง
2
ในทางกลับกัน ต้นทุนหลักของเฮดจ์ฟันด์อย่างค่าจ้างเทรดเดอร์ และผู้จัดการกองทุนเก่ง ๆ กลับเพิ่มสูงขึ้น
1
รวมทั้งความคาดหวังและแรงกดดัน จากนักลงทุนในตลาดก็เพิ่มสูงขึ้นมากเช่นกัน
1
ในที่สุด คุณ Platt เลยตัดสินใจเปลี่ยนโมเดลธุรกิจของ BlueCrest จากธุรกิจบริหารเฮดจ์ฟันด์ มาเป็นธุรกิจการลงทุนส่วนตัวแทน
1
โดยยังให้ผู้จัดการกองทุน และเทรดเดอร์ในบริษัท เป็นผู้ดูแลการลงทุนเหมือนเดิม
แต่จะต่างกันตรงที่ เงินทุนที่นำไปลงทุน จะมาจากหุ้นส่วนของบริษัทเอง ไม่ใช่ของนักลงทุนเหมือนเมื่อตอนเป็นเฮดจ์ฟันด์แล้ว และแน่นอนว่า เงินลงทุนส่วนใหญ่ก็คือเงินของคุณ Platt นั่นเอง
2
และเหมือนจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะทั้งผลตอบแทนของ BlueCrest และความมั่งคั่งของคุณ Platt ต่างก็เติบโตได้ดีทั้งคู่
ด้วยความที่มีอิสระในการลงทุนมากขึ้น รวมถึงไม่มีแรงกดดันจากบรรดานักลงทุนแล้ว เพราะมีลูกค้ารายใหญ่คนเดียวคือคุณ Platt
2
ทำให้ BlueCrest สามารถใช้กลยุทธ์การลงทุนได้ ตามแบบที่ตัวเองต้องการ ซึ่งมาจากความถนัดของผู้จัดการกองทุน และเทรดเดอร์แต่ละคนของบริษัท
โดยตั้งแต่เปลี่ยนโมเดลธุรกิจ BlueCrest สามารถทำ ผลตอบแทนได้อย่างน้อย 20% แทบทุกปี
1
ปี 2016 +50%
ปี 2017 +54%
ปี 2018 +25%
ปี 2019 +50%
ปี 2020 +95%
ปี 2021 +30%
ปี 2022 +153%
ปี 2023 +20%
2
จะเห็นว่า BlueCrest มีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ย ในช่วงปี 2016-2023 สูงถึง 55% ต่อปี และในขณะเดียวกัน ความมั่งคั่งของคุณ Platt ก็เติบโตด้วยเช่นกัน
1
ปี 2015 มีทรัพย์สิน 128,000 ล้านบาท
ปี 2024 มีทรัพย์สิน 658,000 ล้านบาท
1
ซึ่งทำให้ปัจจุบัน เขากลายเป็นคนที่รวยที่สุดในประเทศอังกฤษ รวมถึงสหราชอาณาจักรด้วย
1
และถ้าหากเราจัดอันดับเศรษฐีด้านกองทุนเฮดจ์ฟันด์ จะพบว่าคุณ Platt นั้น มีความร่ำรวยมาเป็นอันดับที่ 5 ของโลก
หรือรวยกว่าคุณ Ray Dalio นักลงทุนชื่อดัง เจ้าของ Bridgewater Associates หนึ่งในเฮดจ์ฟันด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เสียอีก..
1
โฆษณา