7 เม.ย. เวลา 17:23 • ความคิดเห็น
มีที่ดินห้ามขายเก็บไว้ทำตามศาสตร์พระราชา กินทุกอย่างที่ปลูก ปลูกทุกอย่างที่กิน ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไม่อดตาย เราไม่มีน้ำมันสำรองเตรียมพลังงานแสงอาทิตย์ไว้ค่ะ
ไม่อยากอ่านก็ต้องอ่าน ไม่อยากรู้ก็ต้องรู้ ก่อนที่จะเกิดอะไรขึ้น คัดลอกมาจากไลน์ค่ะ
๑.เปิดประตูเมืองครั้งใหม่ มุ่งเป้าโจมตีค่าเงินบาท !!!!
- ไทยเตรียมขาย พันธบัตรรัฐบาล สกุลเงินต่างประเทศ 1,000 ล้าน ดอลลาห์ ครั้งแรกในรอบ “20” ปี !!!!!
- นี่ไม่ใช่ความพยายามครั้งแรกที่จะทำ เรียกได้ว่า จะเอาให้ได้ ครั้งแรก ก็มีไอเดียเสนอ ขาย Green Bond ให้ Black Rock เป็นสกุลเงิน ดอลลาห์ !!!
- การขาย พันธบัตรรัฐบาล สกุลเงินต่างประเทศ เรียกง่ายๆคือ การไปกู้เงินต่างชาติ เป็นสกุลเงิน ดอลลาห์ นั่นเอง ครั้งล่าสุดที่ไทยเราทำ ก็คือ ช่วง “ต้มยำกุ้ง” ยังไงหละครับ !!! ความเสี่ยงในการกู้ยืม ต่างกันมาก กับการกู้เงินในประเทศ เพราะ มีเรื่องค่าเงินมาเกี่ยวข้อง ถ้าเราออกเป็นสกุลเงิน ดอลลาห์ ก็เท่ากับเราต้องอ้างอิง ดอกเบี้ย ของ พันธบัตรอเมริกา นั่นก็คือ “ประมาณ 4-5%” กว่าๆ นะตอนนี้ ซึ่ง เครดิตเรทติ้ง ประเทศไทย คือ “BBB+” เท่ากับว่า เราต้องเสนอ ดอกเบี้ยที่เยอะกว่า 4-5% เพื่อดึงดูด ความสนใจ
ให้เค้าซื้อพันธบัตรไทยนั่นเอง !!!!
- การกระทำแบบนี้มีความเสี่ยงสูงมาก สมมุติ ตอนเปิดขายพันธบัตร 36บ. = 1$ ให้ผลตอบแทน 7% พอถึงเวลาต้องจ่ายปันผล เงินบาทวิ่งไป ที่ 40บ. = 1$ อะไรจะเกิดขึ้น ??? ( แค่บอกว่าจะขายพันธบัตร ค่าเงินบาทก็อ่อนแล้ว ) ถ้ากู้มาแล้ว จ่ายไม่ไหว เครดิตเรทติ้ง ประเทศก็จะโดนลดอีก ก็ต้องเสนอดอก ที่สูงกว่า เพื่อ Roll Over ใช่ไหม !!!!
- คำถามคือทำไมเราไม่กู้ เป็นสกุลเงิน “บาท” กลัวอะไรกันครับ หรือ รบ. ชุดนี้ ไปฮั้วแอบตกลงกับเอกชนไทย ตอนยกคณะไป ประชุม World Economic Forum กันเรียบร้อยแล้วหรือเปล่า ว่าบริษัทเอกชนออกหุ้นกู้ในประเทศ แล้วให้ รบ.ออกพันธบัตรต่างประเทศ ให้ประเทศชาติรับความเสี่ยงไป เพราะหลังจากกลับมาปุ๊บ แอคชั่นรับงานกันปั๊บเลยนะ !!!!
-เท่านั้นยังไม่พอ รบ. นี้ได้เตรียมทางหนีทีไล่ไว้ให้ บริษัทใหญ่ๆ ไว้แล้ว ด้วยการ“ตั้งกองทุนดูแลหุ้นกู้” เฉพาะที่มีเครดิต เรทติ้ง เรียกง่ายๆว่า ดูแลเทคแคร์เฉพาะ บริษัทใหญ่ๆ !!! จึงไม่แปลกเลย ที่บาง บริษัทออกขาย “หุ้นกู้” เดือนชนเดือนกันเลย เพราะถึงจะมีปัญหา ก็มี รบไทยอุ้ม Win Win เลยนิครับ ไม่เสียอะไรสักอย่าง คนที่จ่าย คือ ประชาชนทั้งประเทศนั่นเอง เกมส์นี้ “Private Gain Public Loss” ชัดชัด !!!
-นี่คือข่าวใหญ่มาก ที่ไม่มีสื่อไทยช่องไหน ออกข่าวเลย แต่ข่าวนี้กลับไป ออกสื่อใหญ่ๆ ของ อเมริกา เช่น Bloomberg - The Business Times อ๋อออออ เพราะในบ้านเรา ถูกสร้างกระแสกลบข่าวนี้ ด้วย ขบวนการป่วนเมือง ที่ไปป่วน ขบวนเสด็จ หรือเปล่าครับ ???? ข่าวนี้จึงโดนกลบมิดฝังดิน รับงานกันเป็นทีม ทำกันเป็นขบวนการ !!!
-ถ้าเมื่อไหร่ การเสนอขายพันธบัตรรัฐบาล ซีรี่ย์ นี้ผ่าน เตรียมรอดูค่าเงินบาทอ่อน จากพวกหมาล่าเนื้อที่จะเข้ามาโจมตีได้เลย นะครับ มารอดูว่าเค้า จะสร้าง Event อะไรขึ้นในไทย ให้เงินทุนไหลออก ??? จราจล ??? กีฬาสี Civil War ??? หรือ รัฐประหาร ??? เพราะตอนนี้ ข่าวต่างๆ รู้สึกจะอวยไทย เกินจริง ให้เงินไหลเข้าเยอะมากๆ ให้ตอนปล่อยกู้ บาทแข็งๆ กู้เสร็จแล้ว คงได้เวลาทุบเละ !!!!
#เพจนิวเวิลด์ออเดอร์
-ทำไมแอดถึงคิดแบบนี้ เพราะแอดไปสืบมาจนรู้แล้วว่าใครเป็นคน ”ชงเรื่องนี้ขึ้นมา” ใบ้ให้ว่า เป็นคนที่ไป ประชุม World Economic Forum นี่หละ ทำงานในหน่วยงานรัฐตำแหน่งใหญ่ๆ นั่ง กรรมการ บริษัทใหญ่ควบ พวกนี้หละ ที่เปิดประตูเมือง !!!! ขอบอกชื่อแค่ในกลุ่มลับนะครับ เดี๋ยวจะโดนฟ้อง !!!
-สุดท้ายนี้เตรียมรับมือการเปิดประตูเมืองจากภายในนะครับ ทำกันเป็นขบวนการ หาทางออกกันเรียบร้อย ถ้าเรื่องนี้ผ่าน คนที่จ่ายค่าความเสียหายครั้งนี้ คือ “คนไทยทั้งประเทศ” แอดอยากจะขอรบกวนทุกคนเป็นกำลังในการแชร์ เพื่อให้เป็นกระแสขึ้นมา ไม่ให้เรื่องเงียบไป เพราะถ้าเรื่องนี้เสนอผ่านแล้ว เราจะไม่สามารถทำอะไรได้ และประเทศไทยก็จะเกิด วิกฤตเศรษฐกิจขึ้น !!!!
เครดิต นิวเวิลด์ออเดอร์
๒.ฝากเงินออมสินได้อัตราดอกเบี้ยเผื่อเรียก .50 บาท ฝากประจำได้อัตราสูงสุด 1.50 บาท
 
แต่ถ้าถอนเงินจากธนาคารมาซื้อพันธบัตรรัฐบาลในเดือน มีนาคม 67 พันธบัตรให้ดอกเบี้ย 3.4% ได้ดอกเบี้ยสูงกว่าธนาคาร 6 เท่า และยังจ่ายดอกเบี้ยให้ผู้ซื้อทุกๆ 3 เดือนอีก
รัฐบาลทำแบบนี้ประชาชนที่มีเงินฝากกินดอกกับธนาคารก็จะเบิกเงินฝากจากธนาคารทั้งหมดไปซื้อพันธบัตรรัฐบาล ทำให้ธนาคารทุกธนาคารขาดสภาพคล่อง
เป็นการปล้นเงินแบบถูกต้องตามกฎหมายด้วยแรงจูงใจดอกเบี้ย 3.4% แล้วเอาไปเข้าระบบดิจิทัลวอลเล็ต 500,000 ล้านบาท ที่นายกทั้งสองซื้อโทเคนเงินบิทคอยของสหรัฐเอาไว้แลกเงินบาทที่มาจากการซื้อพันธบัตรรัฐบาลเอามาแจกเป็นเงินดิจิทัลใช้คูปองแทนเงินสด เงินบาทเข้าระบบดิจิทัลบล็อกเชน พอเงินเข้าระบบได้รับค่านายหน้า 3 % และเวลาเอาคูปองแลกกับเป็นเงินบาทได้อีก 3% ตามกฎหมายตลาดหลักทรัพย์ปี 2535 รวมเงินเข้าออกจากระบบดิจิทัล 6%จากยอดเงิน 500,000 ล้านบาทตามกฎหมายตลาดหลักทรัพย์
500,000×6%=30,000 ล้านบาท
เรียกว่าปล้นถูกต้องตามกฎหมายตลาดหลักทรัพย์ แล้วยังมีค่าแลกเปลี่ยนจากคูปองเป็นเงินบาทอีก 30% เป็นเงินอีก 500,000×30%=150,000 ล้านบาท รวมแล้วร่วมสองแสนล้านบาท
หลอกให้ประชาชนซื้อพันธบัตรดอกเบี้ย 3.4% แล้วเอาเข้าระบบบล็อกเชนได้ค่าหลอกลวง 200,000ล้าน
แล้วประชาชนก็ใช้หนี้ไปทั้งชาติ แล้วเงินในคลังจะเหลือได้อย่างไรคงมีแต่หนี้สินล้นพ้นตัวเตรียมล้มละลายกันทุกธนาคารนับแต่เดือนมีนาคม 2567 เป็นต้นไป
การขายพันธบัตรให้กับประชาชนโดยให้ดอกสูงเพื่อเอาเงินมาแจกประชาชนฟรีๆโดยที่ประเทศมีแต่ขาดทุนทุกๆด้านและจะต้องแจกเป็นเงินดิจิทัลเงินอากาศ แบงค์กาโม่ เพราะมันตรวจสอบไม่ได้ เป็นการทำลายระบบธนาคาร รัฐวิสาหกิจของประเทศ ให้เจ๊ง ล้มละลาย เพราะประชาชนแห่เอาเงินมาซื้อพันธบัตร ต่อไปประชาชนต้องนอนกอดพันธบัตรร้องไห้ เหมือนใบประทวนรับจำนำข้าวไม่มีผิด
๓.รวมบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูง 1.50%-3.35 % จากสถาบันทั่วประเทศ (19:51)(6/4/67)
๔.ดร.มาร์ค เฟเบอร์ แต่งงานกับคนไทย อาศัยอยู่ที่เชียงใหม่นี่เอง
มีประเด็นน่าสนใจ สรุปย่อดังนี้
การเพิ่มขึ้นของราคาทองคำในช่วงนี้บ่งบอกว่า ทองคำคือเงินจริง ที่สามารถรักษากำลังซื้อของเราได้ ต่างจากเงินที่พิมพ์ออกมาๆๆ และยังต้องจ่ายดอกเบี้ยมหาศาล ซึ่งดูเป็นเรื่องตลกของชาวโลก
ไม่ว่าทรัมป์หรือไบเดนมาก็แก้ไม่ได้ เพราะทั้งสองคนยังพิมพ์เงินออกมาแน่นอน
การพิมพ์เงินจะหยุดไม่ได้ เพราะระบบต่างๆ ถูกวางให้เคยชินไปกับมันแล้ว คนส่วนใหญ่เคยชินกับการได้รับการแจกเงิน แจกของ ไม่สนใจที่มาของมัน
เงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยยังจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งสองอย่าง และทองคำใช้ป้องกันเงินเฟ้อได้ดีที่สุด
ในปัจจุบันทองคำมีราคาต่ำมาก เมื่อเทียบกับหุ้น
การลงทุนในทองคำค่อนข้างปลอดภัย คนส่วนใหญ่ยังมีทองคำอยู่ในพอร์ตน้อยเพียง 20 ถึง 30% เมื่อเทียบกับหุ้น ทรัพย์สินอื่นๆ และนั่นคือผิดความพลาดของนักลงทุนส่วนใหญ่
การที่ราคาทองคำวิ่งขึ้นในช่วงนี้แสดงว่า คนส่วนใหญ่เริ่มมองเห็นความสำคัญของทองคำแล้ว และ มันจะถูกพูดขยายวงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ตลาดดาวโจนส์ Nasdaq และเอสแอลพีหุ้นทุกตัวแพงมาก
ตัวอย่างหุ้น 7 นางฟ้าแพงมากแล้ว เมื่อเทียบกับหุ้นในตลาดอื่นๆ เช่นจีนที่น่าสนใจกว่าเช่น อสังหาริมทรัพย์จีนราคาลดลงไป 70 ถึง 80% และข่าวต่างๆก็ปกปิดเรื่องนี้ด้วย อีกทั้งสื่อยังวาดภาพจีนว่าเลวร้ายและเป็นผู้ร้าย ทั้งที่เรื่องจริงมันตรงกันข้าม
นักลงทุนต้องคิดให้รอบคอบ ไม่ควรหลงเชื่อ ฟังแต่สื่อด้านเดียว
๕.ทองคำราคาพุ่งทุกวัน แม้จะถูกกองทุนเอสพีดีอาร์ขายเพื่อกดราคาลงมา แต่กลับมีผู้ซื้อทั่วโลก โดยเฉพาะซีกโลกตะวันออกและกลุ่มบริกซ์ ซื้อสวนราคาขึ้นไปทุกวัน และเทดอลล่าร์ทิ้งออกมา
ดอลล่าร์กำลังจะหมดอิทธิพลที่เคยกดดันราคาทองคำไว้
รายละเอียดฟังในคลิปตั้งแต่นาทีที่ 12.30 ครับ
ไม่ค่อยมีความรู้ช่วยกันดูหน่อยค่ะ
หลักฐาน คืนเกาะกูดให้ไทย
ช่วยกันแชร์เยอะๆครับ..คนไทยมัวแต่ทะเลาะกันไม่เฉลียวใจ..มีคนแอบตีท้ายครัว..ถ้าสำเร็จคราวนี้ถึงกับสิ้นชาติสิ้นแผ่นดินเลยนะครับคราวนี้
โฆษณา