9 เม.ย. เวลา 11:42 • ไลฟ์สไตล์

คุณค่าในตน

ไม่มีใครที่เก่งไปซะทุกอย่างเพราะมนุษย์มิได้สมบูรณ์แบบแค่อย่างใดและไม่เคยใกล้เคียง ไม่ว่าใครต่างก็มีเรื่องที่ตนถนัดและไม่สนัดเก่งและไม่เก่งทั้งสิ้น
แต่ในโลกใบนี้มนุษย์นั้นล้วนต้องอยู่ในสังคม สังคมที่มีทั้งคนที่เก่งและไม่เก่งในเรื่องนั้นๆปะปนกันไป เราต่างได้ผ่านพบกับคนหลายๆแบบและสังคมหลายๆแห่ง
และในสังคมที่มีทั้งการแข่งขันและแย่งชิงกันด้วยเกณฑ์หรือมาตรฐานเดียวกัน มันเลยทำให้จำเป็นต้องมีการจัดอันดับขึ้น และนั้นแหละคือปัญหาในวันนี้
เพราะว่าตัวเลขนั้นมันตายตัวยิ่งเลขน้อยลงก็ยิ่งเท่ากับว่าตัวของคุณนั้นเป็นที่ต้องการจากคนอื่นมากขึ้น และในทางเดียวกันมันก็เป็นเครื่องการันตีถึงความเก่งกาจและความสามารถที่คนๆนั้นมีต่อมาตรฐานนั้นๆด้วยเช่นกัน
และเมื่อมีหัวก็ต้องมีท้าย ถ้ามีสูงสุดก็จะมีต่ำที่สุดในเมื่อในสังคมการจะวัดว่าใครดีที่สุดนั้นจำเป็นต้องจัดคนเป็นอันดับตัวเลข แล้วผลที่ออกมาคือคนที่ได้อันดับที่ต่ำในมาตรฐานของสังคมนั้นๆ คือคนที่ถูกตีค่าไว้ต่ำที่สุด
แน่นอนว่าไม่มีใครที่อยากที่จะถูกมองว่าไร้ค่าและสิ่งมนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่จำเป็นจะต้องพึ่งพาคนรอบข้าง มนุษย์ถึงไม่อาจที่จะทนต่อการดูหมิ่นในคุณค่าในตัวว่าไร้ค่าได้ เพราะไม่ว่าใครต่างก็ต้องการการยอมรับทั้งสิ้น
ผู้คนต่างถามหาคุณค่าในตัวเองเพื่อบอกกับคนอื่นว่าคุณมีค่าและคุณนั้นปรารถนาซึ่งการยอมรับจากใจจริง แต่เรื่องที่น่าแปลกที่สุดก็คงจะเป็น คุณถามหาคุณค่าของตัวเองจากผู้อื่นนะสิ
เอาตรงคือการตัดสินคนเป็นตัวเลขอะไรประมาณนี้มันเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นด้วยซ้ำ และถึงตัวเลขของคุณในสาระบบการวัดค่าคนจะต่ำ แต่นั้นไม่ใช่เครื่องที่จะการันตีตีว่าคุณมันไร้ค่า
อย่างที่บอกว่าทุกคนมีความถนัดที่ต่างกันไปการที่ในมาตรฐานนี้คุณมีอันดับที่ต่ำมันไม่ได้แปลว่าคุณมัรไร้ค่า แต่มันก็หมายความแค่ว่าในมาตรฐานนี้ที่คุณกำลังอยู่คุณอ่อนที่สุดเท่านั้น
อ่อนที่สุด≠ไร้ค่า
เพราะมนุษย์นั้นต่างมีคุณค่าในตัวเอง เพราะทุกคนก็ต่างมีสิ่งที่ถนัดต้างกันไปและทุกคนก็ควรที่จะได้รับสิ่งที่ควรที่จะได้รับ และคนที่จะเป็นคนกำหนดว่าคุณควรจะได้หรือไม่ควรมันก็คือตัวคุณเอง
สิ่งที่ผมจะสื่อคือคุณค่าในตัวเองก็ต้องเป็นคนกำหนดมันด้วยตัวเอง และไม่ควรมีใครที่ต้องถูกด้อยค่าถึงคุณค่าในตัว เพราะคนที่ดูหมิ่นคุณค่าในตัวเองมากที่สุดคือคนที่มองไม่เห็นคุณค่าในตัวเองมากที่สุด
โฆษณา