9 เม.ย. เวลา 14:08 • ปรัชญา
เรื่องราว ของการเห็น ในการฝึกหัดปฏิบัติธรรม นั่น ไม่เห็นอะไรเลยดีที่สุด เพราะคนเรานั้น มันมีความยึดถือ จิตของหลงใหลอยู่ มีอารมณ์ที่ปรุงแต่งอยู่ มีสิ่งต่างๆที่ทำให้หลงใหล ส่งภาพแสงสีเสียงเข้าถึงจิต ..เป็นอารมณ์ทั้งนั้น ..มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ทำให้เกิดความหลงใหล เหล่านี้ เมื่อเรามาประพฤติปฏิบัติธรรม เราก็ควรศึกษาในเรื่องจิต อารมณ์ โลภโกรธหลง ..
อารมณ์โลภโกรธหลง อวิชชา ..ในตำราวิทยาศาสตร์เค้าเรียกว่าอะไร จิตวิทยา เค้าเรียก คำว่า กรรม บุญกุศลบารมี เค้าเรียกว่าอะไรกัน เรื่องราวคำเหล่านี้ เมื่อเรามาศึกษาพุทธศาสนา เราก็ควรทำความเข้าใจ ในคำเหล่านี้ คำว่า กรรมฐานมันก็ไม่มีในตำรา วิทยาศาสตร์ จิตแพทย์เสียด้วย นั่นก็คือ เมื่อจะเรียนรู้จัก คำว่า พุทธศาสตร์ ก็ควรลงเมื่อปฏิบัติ ทำไปตามรอยบรมครูที่ท่านชี้แนวทางไว้ให้ เค้าว่าต้องทำเป็นชาตๆๆ อเนกชาติ กว่าจะรู้จัก ..กว่ารู้จักเรื่องของกายเกิดแก่เจ็บตาย กว่าจะรู้จักจิตขิงตนเองได้ ..
..เรื่องราวของคำเหล่านี้ .คนที่เค้าศึกษา เค้าก็พูดกันได่ ในหมู่คนที่ประพฤติปฏิบัติธรรม คล้ายกัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน มีความเห็นออกเห็นใจกัน ในการมาร่วมกัน ปฏิบัติธรรม ก็เหมือนสาวกขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านก็ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ในการประพฤติปฏิบัติ คนเค้าได่ยินได้ฟัง ได้แต่รับรู้จำ เค้าไม่ได้ลงมือปฏิบัติ เค้าก็คงว่า ไปตามทิฐิ เชื่อในอารมณ์ในตัวตนของเค้า ที่เค้าเรียนรู้จดจำมา
..แม้แต่คนที่อ้างวิทยาศาสตร์ มันก็เพียงไปอ่านตำรับตำรามา ตัวเองก็ไม่ได้เข้าไปทดลองทดสอบอะไรกับเค้า ก็เพียงอ่านจดจำมาเหมือนฉลากยา กับหนังสือตัวเล็ก มองไม่ค่อยเห็น อ่านไปก็ไม่รู้เรื่องอะไร .มีศัพท์มากมาย ..ตัวเคมี ที่เราก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน ก็ต้องไปถามผู้ที่เค้ารู้จัก
แต่จิตของเรา ที่อยู่กับกาย กับอารมณ์นึกคิด เรากลับไม่รู้จักเลย
เรื่องราวที่เหนือธรรมชาตินั่นคือ อะไรกัน ..ธรรมชาติมันก็มีมีหลากหลายมิติ ยิ่งเป็นมิตินามธรรม เค้าก็มีสภาพเป็นเรื่องมิติ..เป็นธรรมชาติในมิตินั่นๆ เหมือน ขั่วโลก กับทะเลทราย มันมีอะไรที่มันแตกต่างกัน
เรื่องมิติ..เรื่องของจิต นั่นก็มีอะไรที่เกินความสามารถของอายตนะที่มีในกายมนุษย์ มนุษย์รับรู้ได้ จากจากที่มีตามีหูจมูกลิ้นกายใจ รับรู้สัมผัส ในสิ่งที่กายนี้กักขังจิตไว้ แล้วยิ่งเรื่องราวนิสัยสัดาน อารมณ์กรรมตัวกระทำ เค้าก็ใช้จิตที่อาศัยในกายนี้แหละ ศึกษาขึ้นมา ..ทำอย่างไรจะศึกษาในตัวตนของตนเองได้ ไม่ได้ไปศึกษาที่กายของผู้อื่น กายที่มีทั้งอุปาทาน มีอารมณ์ มีกรรม มีการเจ็บป่วย เค้าจะศึกษาเรื่องของกายอย่างไร จึงจะใช้จิตนี้ศึกษาขึ้นมาได้
สิ่งต่างๆที่เป็นเรื่องราวที่เป็นนามธรรม แม้คำว่าจิต ที่เป็นนามธรรม ที่เป็นตัวตนในกายมนุษย์ มนุษย์ก็ยังไม่สามารถเข้าถึงจิตของตัวเองได้เลย ก็จมอยู่กับสิ่งที่เรียกว่า เกิดแก่เจ็บตาย ค่อกายที่กักขังจิตไว้ จนกว่าจะกว่า กายนี้หมดสภาพไป
ลองไปหาคำว่า อธิบายดู ในตำราต่างๆ คำว่า จิต คำเดียว ..นั้นคือ อะไร ..แล้วมาเปรียบเทียบดู ในคำอธิบายต่างๆ ..ในพุทธศาสนา ไปจนถึงคำว่าจิตหลุดพ้น ..ที่จะรู้จักได้ก็แต่ผู้ที่ท่านประพฤติปฏิบัติธรรม ..แต่นั่นแหละ เราก็ไม่เคยเจอะเจอ ผู้ที่จิตท่านหลุดพ้น .กาลเวลามันผ่านมานาน ..เราเกิดไม่ทันในยุคสมัย ที่จิตของท่านหลุดพ้น ..ยุติการเกิด แต่เรายังเป็นผู้ที่มาเกิด ..แล้วเราจะไปหา ไปศึกษาจากตรงไหนดีล่ะ
อีกเรื่องหนึ่งในคำว่า กรรมฐาน ของเจ้าชายสิทธัตถะ ท่านทำอย่างไร ก่อนที่จะบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต๋สัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านกระทำอย่างไร ใช้กายนี้ทำอะไรบ้าง พระสาวกขอ
ท่าน ท่านใช้ทำตามที่พระพุทธเจ้า ชี้ให้กระทำ ท่านทำอย่างไรกัน..หรือ นักวิทยาศาสตร์ทั่งหลายท่านรู้จัก จิตแพทย์ท่านรู้จัก ช่วยบอกด้วยน่ะ ส่วนตัวเราก็ไม่รู้จัก ก็ได้อาศัยครูบาจารย์ ที่เราเคารพนับถือ ..ท่านช่วยสงเคราะห์ ..บอกให้ลงมือทำขึ้นมา ..
โฆษณา