9 เม.ย. เวลา 23:34 • ความคิดเห็น
ตราด

“วัยมัธยม สนุกสุดแล้ว”

คำพูดสั้นๆที่ผมได้ยินมาตั้งแต่ตอนเด็กๆ ได้ยินบ่อยจนคิดว่ามันจะอะไรขนาดนั้น ยิ่งโตยิ่งต้องสนุกสิ
“ใช่ครับ”แล้วตอนนี้ผมรู้ซึ้งถึงคำนี้แล้ว
ก่อนอื่นขอเเนะนำตัวก่อน
สวัสดีครับ ผมชื่อ อาตี๋ ตอนนี้พึ่งจบปี 1
แต่ยังรู้สึกคิดถึงช่วงวัยมัธยมอยู่เลย เลยอยากระบายความรู้สึก,ข้อคิดที่ได้ ออกมาเป็นตัวหนังสือให้ทุกคนได้อ่าน และคิดตามหรือย้อนวันวานไปด้วยกันนะครับ^_^
”มัธยม
คำแค่ 3 พยางค์นี้ เป็นคำที่มีความหมาย,ความทรงจำ,เหตุการณ์ที่มากมาย ที่เล่ากับเพื่อนกี่รอบก็ยังมีความสุขเสมอ ในวัยที่เรายังใส่ชุดนักเรียน ต่างคนก็ต่างมีภาพจำกับวัยนี้ที่ต่างกันไป
“เพื่อน”
ตั้งแต่ขึ้นมหาลัยมาผมรู้สึกว่า การมีเพื่อนมหาลัย ไม่มีใครรู้ใจเท่าเพื่อนมัธยมเลย อาจจะเป็นเพราะว่ายังรู้จักกันยังไม่มากพอ รู้จักกันแรกๆอาจจะยังมีเกร็งกันบ้าง ในช่วงมัธยมผมเป็นคนมีเพื่อนเยอะ เลยไม่ค่อยได้เข้าหาคนอื่นก่อน มันส่งผลทำให้เวลาผมขึ้นมามหาลัย กลับมีกำแพงมากั้น ไม่ให้เรากล้าที่จะเปิดรับเพื่อนใหม่ ถือว่าเป็นเรื่องที่ปรับตัวกันมากเลยทีเดียว จนทุกวันนี้ก็ยังคบและติดต่อเพื่อนมัธยมเป็นหลักอยู่
หนึ่งบทเพลง ที่แม้ผมจะฟังกี่รอบก็ยังคิดถึงช่วงเวลาความสุขที่แสนหวานกับเพื่อนๆ ฟังเพลงนี้กี่รอบ ภาพความทรงจำต่างๆ ก็ย้อนขึ้นมาในหัวตลอด จนขึ้นแท่นเป็นเพลงที่ผมชอบอันดับหนึ่งในตอนนี้เลย
เพลงรักในวันลา
-Lower Mansion-
ที่เลือกเพลงนี่เพราะว่า เป็นเพลงที่ออกมาในช่วงที่ผมอยู่ ม.6 เป็นปีสุดท้ายที่ได้ใช้ชีวิตมัธยม เพื่อนชอบเปิดเพลงนี้ ในตอนนัันผมก็ยังไม่ได้ชอบอะไร มันจะมีอยู่วันนึง เป็นสัปดาห์สุดท้ายของการเรียนการสอน อาจาร์ยปล่อยว่าง ทุกคนในห้องก็เล่นกันหรือบางคนก็หาที่นอนนอนกันตามปกติ แล้วมีคนเปิดเพลงนี้ขึ้นมา ผมก็ได้มองไปรอบๆ มองดูเพื่อนๆ พร้อมกับฟังเพลงนีั มันทำให้รู้สึกเศร้าๆแบบบอกไม่ถูก เพราะเหตุการณ์ความทรงจำเหล่านี้ หลังจากปัจฉิมนิเทศ เราจะไม่ได้มาทำอะไรเเบบนึัด้วยกันอีกแล้ว.
(ภาพประกอบ)
“ความรัก”
เชื่อว่าทุกคนมีรักแรกกับวัยนี้ ความรักตลกๆ หรือแปลกๆที่เรามองย้อนกลับไปก็แอบขำบัาง แต่ในช่วงนั้นกลับอิน และรู้สึกว่าความรักมีอิทธิพลต่อหัวใจมาก เป็นวัยที่คิดว่าน่าจะอินกับความรักมากที่สุดละมั้ง พอขึ้นมามหาลัย รู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยอินกับเรื่องความรักอีกเลย ไปมอไปเรียน เรียนเสร็จก็กลับมานอนห้อง ชีวิตวนลูปอยู่แบบนี้ จนทำให้ไม่โฟกัสเรื่องความรักเลย
บทเพลงที่ผม จะให้เป็นเพลงประจำหัวข้อนี้ ก็คงจะเป็น
มัธยม-POLYCAT เป็นเพลงที่เนื้อเพลงและ MV บอกกล่าวความรักซื่อๆในวัยมัธยมได้ดี ^•^
มัธยม
-POLYCAT-
“อกหัก”
มีความรักแล้ว ก็หนีสิ่งนี้ไปไม่ได้ นั้นก็คือความอกหัก เพราะทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก ใช่ว่าจะสมหวังตลอดไป เป็นสิ่งที่วัยนี้ต้องได้เจอ ไม่มากก็น้อย ไม่ว่าจะอกหัก,แฟนทิ้ง,ไม่มีใครรัก,ไม่มีใครชอบ เป็นเหมือนตัวบอสในวัยเรียน ที่เราต้องผ่านด่านนี้ไปให้ได้ เชื่อว่าทุกคนย่อมมีเหตุการณ์หรือเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้ อาจจะผ่านมันไปได้แล้ว ก็ถือว่ามันเป็นความทรงจำในวัยมัธยมที่ดีอย่างนึง ที่เรามองย้อนกลับไป แล้วไม่รู้สึกอะไรแล้ว ถือว่าเราเก่งมาอีกขั้น!!
บทเพลงสำหรับหัวข้อนี้ ก็คงจะเป็นเพลงนีั กับเนื้อเพลง ที่ร้องว่า
"แผลที่เจ็บ เกินรับไหว แต่ในสักวันจะจางและหายไป
เมื่อเธอใช้เวลาจนเข้าใจ”
ใช้เวลา
-Understand-
”ครอบครัว“
เมื่อพูดถึงครอบครัวแล้ว ในช่วงมัธยม ผมกลับรู้สึกเบื่อหน่ายกับครอบครัว เพราะเบื่อเวลาโดนแม่บ่น เวลาไม่ทำนั่นนี่ ไม่เก็บนุ่นนี่ บลาๆ และอยากขึ้นมหาลัยเร็วๆ อยากไปเรียนไกลๆ อยากออกจากที่บ้านไวๆ อยากเรียนที่ดีๆ ค่าเทอมแพงๆ แต่ผมกลับลืมคิดสิ่งนึงว่า คนที่คอยอยู่ข้างๆตลอด และคอยซ้พพอร์ตต่างๆ นั่นก็คือ“ครอบครัว” แต่ทำไมถึงชอบมองข้ามไป
จนถึงมหาลัย ได้ลองใช้ชีวิตคนเดียว ได้ออกจากบ้านสมใจหวัง แบบที่ตอนนั้นคิดไว้ กลับไม่สนุกอย่างที่คิด แต่กลับคิดถึงกับข้าวที่บ้าน บรรยากาศที่บ้าน คิดถึงแมว คิดถึงพ่อแม่ นานๆทีกว่าจะได้กลับไปบ้านทีนึง แล้วพึ่งมาคิดได้ว่า ทำไมถึงมองข้ามสิ่งดีๆนั้นไป สิ่งที่เขาบ่นตอนนั้น วันนี้เราต้องทำอะไรเองหมดทุกอย่าง ได้รู้ซึ้งถึงคำบ่น ก็เพราะว่าในวันที่เราอยู่คนเดียว เขาก็คงอยากให้เราพึ่งพาตัวเองไดั ไม่ต้องให้เป็นห่วง
ทุกวันนี้การกลับบ้านครั้งนึง เปรียบเหมือนเป็นการได้ชาร์จแบตตัวเอง ได้ฮีลใจตัวเอง ให้มีพลังมาเรียนไปเรียนต่อ แล้วเอาใบปริญญาไปฝากพ่อแม่>•<
เพลงสำหรับครอบครัว ถ้านอกจากเพลง Hello Mama-Taitosmit แล้ว ก็ต้องเพลงนี้แหละ
ลูกสบายดี
“ก้อง ห้วยไร่ x ฐา ขนิษ”
ปล.แม้ลูกที่คลอดจะอดอยาก แต่แมวที่บ้านไม่เคยอด^_^
-ใส่สมอ เท่เสมอ-
"ชุดนักเรียน“
เมื่อพูดถึงวัยเรียน ภาพในหัวทุกคน ก็ต้องเป็นภาพที่ตัวเองใส่ชุดนักเรียนกันแน่ๆใช่ไหมหละ! ที่พูดมาทุกหัวข้อ ล้วนเกิดขึ้น เมื่อตอนที่เรายังสวมชุดนักเรียนสีขาวล้วน กางเกงนักเรียนขาสั้น หรือกระโปรงยาวหนือเข่าในผู้หญิง
ในวัยที่ยังใส่ชุดนักเรียนแขนสั้นนััน ผมเปรียบเหมือนว่า เรายังมีอิสระในการใช้ชีวิต โดยไม่ต้องสนใจเรื่องราวรอบตัวมากนัก แต่พอขึ้นมหาลัย แขนสั้นที่เคยใส่ ผลัดเปลี่ยนไปเป็นแขนยาว เปรียบเหมือนว่าเราต้องมีความรับผิดชอบต่อตัวเองมากขึ้น เพราะมหาลัย ก็เหมือนว่าเราต้องซ้อมใช้ชีวิตแบบผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว
เป็นยูนิฟอร์มชุดที่ผมรู้สึกว่าดีที่สุดในชีวิตที่ได้ใส่ เป็นชุดที่มีความทรงจำ และแสดงถึงความเท่าเที่ยม ที่ใส่ตั้งแต่ศูนย์เด็กเล็ก-มัธยม แม้ว่าเราจะโตแค่ไหน หากคิดถึงภาพตัวเองตอนใส่ชุดนักเรียน เราก็ยังคงเป็นเด็กเสมอ
ผมขอใช้เพลงนี้ เป็นตัวแทนของหัวข้อนี้ เป็นเพลงที่ผมชอบรองลงมาจากหัวข้อแรกเลย กับท่อนที่ร้องว่า
“ ยังมีวันวานให้เราได้คิดถึงตลอด
แม้เรื่องเราจบไป
แค่ได้คิดถึงมันก็พอ“
เหมือนกับว่า เรามีวัยมัธยมให้คิดถึง แม้ว่ามันจะจบไปแล้ว คิดถึงมันได้ แต่อย่าไปจมปักกับมันมากนัก
”สุดท้าย“
ผมรู้สึกว่าตัวเองในตอนนั้น กับตัวเองในตอนนี้ มีความคิดที่ต่างกันจริงๆ ในตอนนั้นรู้สึกว่า อยากขึ้นมหาลัยเร็วๆ อยากโตเร็วๆ อยากรีบจบไวๆ จนลืมไปว่า“มัธยม มีครั้งเดียว” ผมมาเสียดายตอนนี้ มันก็สายไปเสียแล้ว ได้แต่ย้อนดูรูปวันวาน ภาพที่เคยถ่าย สตอรี่ที่เคยลง ก็นึกเสียดายทุกครั้ง ที่ทำไมวันนั้นไม่ยอมเก็บความทรงจำให้มันมากกว่านี้
ในช่วงที่ผมอยู่มหาลัย ผมจึงได้เก็บสิ่งนี้
มาเป็นบทเรียน โดยผมได้ทำช่อง YouTube ถ่ายคลิปวิดีโอเก็บความทรงจำ ไม่ว่ากับเพื่อนเก่าหรือเพื่อนใหม่ จะพยายามเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ๆ เปิดรับสิ่งใหม่ๆ และจะเอ็นจอยกับชีวิตวัยมหาลัย โดยเมื่อผมจบไปแล้วจะได้ไม่ต้องเสียดายอะไรอีก.
โฆษณา