11 เม.ย. เวลา 11:55 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ใครเป็นเจ้าของงาน Motor Show ?
คำตอบก็คือ GPI
แต่คำถามต่อมาคือ แล้วเป็นเจ้าของ Motor show มันน่าสนใจยัง?
GPI เป็นผู้ผูกขาดในธุรกิจ การจัดงาน Motor show โดย 1 ปี จะมีการจัดงานเพียง 1 ครั้ง เป็นเวลา 12 วัน
ซึ่งจะรับรู้รายได้ใน 2 ไตรมาส
-ไตรมาส 1 รับรู้รายได้ 7 วัน
-ไตรมาส 2 รับรู้รายได้ 5 วัน
เพราะฉะนั้นเราจะเห็น GPI จะมีรายได้เยอะ ๆ ในช่วงไตรมาส 1 และ 2 ส่วนไตรมาส 3 และ 4 มักจะขาดทุนเป็นธรรมชาติของธุรกิจ
แต่สิ่งที่น่าสนใจของบริษัทนี้คือ กำไรของ GPI เมื่อปีที่ผ่านมา ทำ EPS ได้ถึง 0.13 บาท ทำให้เมื่อเทียบกับราคาตรงนี้แล้ว P/E ของบริษัทอยู่ที่ 13 เท่า แถมจ่ายปันผลในอัตรา 6-7%
ซึ่งหลายคนก็อาจมองว่าไม่ได้ถูก เพราะถ้าบริษัทไม่ได้มีการเติบโต ก็สมเหตุสมผลแล้ว แต่อาจไม่ใช่อย่างงั้น
เพราะ งาน Motor Show ที่ปีนี้คึกคักมาก ปีนี้บูธรถยนต์เยอะกว่าปกติ เพราะมีค่ายรถ EV ที่แข่งกันดุเดือดมากขึ้น ทำให้ได้รับบริหารพื้นที่ส่วนกลางภายในฮอลล์เพิ่มอีก จำนวน 1 ฮอลล์
นั่นก็แสดงว่า ปีนี้ธุรกิจจัดงาน Motor show รายได้ไม่น้อยกว่าปีก่อนแน่ ถ้าปกติจัด 3 ฮอลล์ ปีนี้เพิ่มมา 4 อย่างน้อยๆ ธุรกิจตรงนี้รายได้และกำไร ก็ควรเพิ่ม 20% ได้
ส่วนอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าสนใจคือ โรงไฟฟ้า ในปีนี้สามารถ COD ได้แล้ว โดยเริ่มมีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรได้เต็มไตรมาสเมื่อ ไตรมาส 4 ที่ผ่านมา จำนวน 4 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ตัวโรงไฟฟ้ามีปัญหา มีช่วงที่ปิดทำการโรงไฟฟ้าไป แต่ตอนนี้สามารถกลับมารันได้ปกติแล้ว
ซึ่งในส่วนของโรงไฟฟ้าจะทำให้บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้นไตรมาสละ 4 ล้าน ตกปีละ 16 ล้านบาท
หากคิดเป็นการเติบโตของบริษัทที่เราเห็นได้ชัดจาก งาน Motor Show ที่ใหญ่ขึ้น และ โรงไฟฟ้า น่าจะทำให้กำไรของบริษัทเติบโตได้
-งาน Motor Show เติบโตได้ 20% แสดงว่ากำไรของงาน Moto Show อยู่ประมาณ 98 ล้าน โดยคิดจากฐานกำไรปีก่อน
-โรงไฟฟ้า กำไรเพิ่ม 16 ล้านต่อปี
รวมแล้ว 2 ธุรกิจนี้ น่าจะทำให้กำไรของ GPI อยู่ที่ 114 ล้านบาทในปี 67 คิดเป็น EPS = 0.19 บาท
ทำให้ P/E ลดลงเหลือเพียงแค่ 9 เท่าเอง
โดยกำไรของ GPI คิดจาก กำไรปกติของ GPI ที่ไม่รวมผลขาดทุนจากโรงไฟฟ้าเมื่อปีที่แล้ว จำนวน 4 ล้าน ทำให้ได้กำไรปกติ 82 ล้านบาท และธุรกิจหลักอย่างงาน Moto Show เพิ่มขึ้น 20% ก็จะทำให้กำไรของธุรกิจ Moto Show เพิ่มขึ้นเป็น 98 ล้านบาท
และรวมกำไรจากการเปิดดำเนินการโรงไฟฟ้าเต็ม 100% แล้ว คือปีละ 16 ล้านบาท ก็จะทำให้กำไรรวมของบริษัทเป็น 114 ล้านบาท (98+16 ล้านบาท) อย่างที่บอกไว้ก่อนหน้านี้
แต่ต้องบอกก่อนว่าสมมุติฐานนี้เกิดจาก การเห็นงาน Moto Show ที่ผ่านมา ดูบูธรถยนต์เยอะกว่าปกติ และการดูส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าเมื่อไตรมาส 4 ที่ผ่านมา จึงกลายเป็นสมมุติฐานการคาดการณ์กำไร
ซึ่งข้อมูลบางส่วน เช่น งาน Motor Show จะทำให้กำไรเขาเพิ่มขึ้น 20% ก็มาจากงาน AGM ของบริษัท
สรุป มองว่า GPI อาจเป็นหุ้นที่คนส่วนใหญ่ลืมไปแล้ว แต่หากเข้าไปดูจริงๆ ก็พอมีมุมที่น่าสนใจ เพราะหากทำกำไรได้อย่างที่คาดการณ์ไว้จริง ก็จะทำให้ P/E ลงมาได้ในระดับ 9 เท่า แถมจ่ายปันผลสูงขนาดนี้ ก็น่าวัดเหมือนกัน
งบการเงินบริษัท GPI
โฆษณา