14 เม.ย. เวลา 10:17 • หนังสือ

หนึ่งคำถามที่คุณควรถามตัวเอง ถ้าคุณเหนื่อยกับการไล่ตามความรักจากคนอื่น

The One Question To Ask Yourself If You’re Tired Of Fighting For Someone’s Love
By Brianna Wiest, March 27th 2016
We talk a lot about how to get love.
เรามักจะพูดถึงวิธีได้รับความรัก
In fact, we talk about it incessantly. How to land a date, turn someone on, find a boyfriend, make yourself respected, admired, seen as successful. We talk about how to convince someone to commit, to get married, to take us out again. All of these things are the ways try to manipulate the love that people give us.
เราไม่เคยหยุดพูดถึงเรื่องนี้ วิธีออกเดท วิธีทำให้คนสนใจคุณ วิธีหาแฟน วิธีรู้สึกได้รับความเคารพ การชื่นชม และถูกมองว่าประสบความสำเร็จ เรายังพูดถึงวิธีโน้มน้าวให้ใครสักคนขอแต่งงาน แต่งงานกับเรา และแก่ไปพร้อมกับเรา ทั้งหมดนี้คือความพยายามที่จะชักจูงผู้อื่นให้มอบความรักให้กับเรา
We talk a lot about how to get love, but we talk very little about how to give it.
เราพูดมากเกี่ยวกับการได้รับความรัก แต่ไม่ค่อยเกี่ยวกับการให้ความรัก
We talk about getting love as though it’s a precursor to giving it. As though giving if we aren’t receiving makes us weak. As though no respectable person would keep being kind and loving to someone who didn’t love them back. As though being loving is being devoted, rather than being strong and honest and true and sometimes walking away.
เราพูดถึงการได้รับความรักเสมือนเป็นเงื่อนไขเบื้องต้นในการให้ความรักเสมือนว่าให้ก่อนได้รับจะทำให้เราถ่อมตัวราวกับว่าผู้สูงศักดิ์ไม่ควรแสดงความเมตตาและเอาใจใส่ต่อผู้ไม่รักเขาเหมือนรักมัน ต้องมีความทุ่มเทไม่รวมถึงความเข้มแข็ง จริงใจ และจริงใจ และการปล่อยวาง
You cannot convince someone to love you if they don’t.
คุณไม่สามารถโน้มน้าวให้ใครมารักคุณได้ ถ้าพวกเขาไม่ได้รักคุณ
This, above most else, is a rule. Love is not something you “get.” It’s not something someone else has and you must earn. It is not something that exists outside of you. When someone doesn’t want to express affection and love and respect to you, you have two choices: you can try to change that fact (and keep yourself stuck) or you can keep giving love (which will let you move on).
นี่เป็นกฎที่สำคัญที่สุด ความรักไม่ใช่สิ่งที่คุณ "ได้รับ" มันไม่ใช่ของของผู้อื่นและคุณต้องต่อสู้เพื่อมัน ไม่ใช่สิ่งที่มีอยู่ภายนอกตัวคุณ หากมีใครไม่ต้องการแสดงความรัก ความรัก และความเคารพต่อคุณ คุณมีสองทางเลือก: คุณสามารถลองเปลี่ยนข้อเท็จจริงนั้น (ซึ่งเป็นการบังคับตัวเอง) หรือคุณสามารถให้ความรักต่อไป (ซึ่งจะทำให้คุณเป็นอิสระ) .
The pain of not having love is the pain of your heart being closed.
ความเจ็บปวดที่ปราศจากความรัก คือความเจ็บปวดของใจที่ปิดสนิท
The pain of losing love is the pain of your heart closing.
ความเจ็บปวดจากการสูญเสียความรัก คือความเจ็บปวดของหัวใจที่ปิดสนิท
The pain of losing love is trying to change or manipulate someone into thinking or seeing you differently. It is not actually a loss of love, it is a step into delusion and denial. It is the adoption of the idea that you aren’t lovable as you are.
ความเจ็บปวดจากการสูญเสียความรักเกิดจากการพยายามเปลี่ยนแปลงหรือชักจูงผู้อื่นให้เปลี่ยนมุมมองและความคิดเกี่ยวกับคุณ จริงๆ แล้วนี่ไม่เกี่ยวกับการสูญเสียความรัก แต่เกี่ยวกับคุณตกอยู่ในอาการหลงผิดและเริ่มปฏิเสธตัวเอง เท่ากับคุณยอมรับมุมมองที่ว่าคุณไม่คู่ควรกับความรักตั้งแต่แรก
Love is not something anybody can take away from you though. (It’s not something anybody can truly give you, either.) It’s not something you ‘get,’ it’s something you experience – and that exchange requires an equal and honest and willing contribution on each side. It’s not something that anybody is responsible to do for you, or owes you in a life.
ความรักไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นสามารถพรากไปจากคุณได้ (และไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นสามารถให้คุณได้อย่างแท้จริง) ไม่ใช่สิ่งที่คุณ “ได้รับ” แต่เป็นสิ่งที่คุณประสบ—การแลกเปลี่ยนที่ต้องอาศัยความทุ่มเทที่เท่าเทียมกัน ซื่อสัตย์ และสมัครใจจากทั้งสองฝ่าย ความรักไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นจำเป็นต้องทำเพื่อคุณ และไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นเป็นหนี้คุณ
If you go on living as though other people are required to give you love, you will never actually experience it.
หากคุณรู้สึกว่าคนอื่นต้องมอบความรักให้กับคุณ คุณจะไม่มีวันได้รับความรักอย่างแท้จริง
If you go on living as though love is something that is always required of you, you will find it in everything. In every stranger on the subway, three-date-long relationship, six year love affair that almost was “it,” and everything else. All of these different loves become equally important. The pain of losing transmutes into the beauty of having discovered something more important than someone who can promise you forever.
หากคุณถือว่าความรักเป็นสิ่งจำเป็น คุณจะพบว่าความรักมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็นคนแปลกหน้าที่คุณพบบนรถไฟใต้ดิน เพื่อนที่คุณเดทด้วยเพียงสามครั้ง หรือคนรักที่คุณคบด้วยมาหกปี (ซึ่งคนทั่วไปเรียกว่า "ความรัก") คุณจะพบความรักได้ใน พวกเขา. ความรักที่แตกต่างกันเหล่านี้ล้วนมีความสำคัญไม่แพ้กัน ความเจ็บปวดจากการสูญเสียจะกลายเป็นความงดงามของการค้นพบในที่สุด คุณจะรู้ว่ามีบางสิ่งที่สำคัญกว่าคนที่สัญญากับคุณว่า "ตลอดไป"
Your life turns into a series of little love stories, all of which teach you how to love better, how to give more, how to be more of yourself, what you like and what you don’t. How to walk away with grace, and respect yourself genuinely, and listen to your intuition.
ชีวิตของคุณกลายเป็นซีรีส์เรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับความรัก ซึ่งทั้งหมดนี้สอนให้คุณรู้จักวิธีรักให้ดีขึ้น วิธีให้มากขึ้น วิธีเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น รู้ว่าคุณชอบอะไร ไม่ชอบอะไร และทำอย่างไร ออกไปอย่างสง่างาม เคารพตัวเองจากก้นบึ้งของหัวใจ และฟังสัญชาตญาณของคุณ
When you want to pity yourself over how little love you’re getting, I ask you to stop and consider: how much are you giving?
เมื่อคุณรู้สึกเสียใจกับตัวเองที่ได้รับความรักน้อยเกินไป โปรดหยุดคิดดูว่าคุณให้ความรักไปมากแค่ไหนแล้ว?
จาก 101 บทความเปลี่ยนชีวิตที่จะเปลี่ยนวิธีคิดคุณ (101 Essays That Will Change The Way You Think)
 
ตัดแปะโดย เฉลิมชัย เอื้อวิริยะวิทย์
โฆษณา