17 เม.ย. เวลา 10:28 • กีฬา

พรีวิวการแข่งขัน NBA รอบเพลย์อิน 2024

#พรีวิวการแข่งขัน
รอบเพลย์อินคู่ระหว่าง Philadelphia 76ers (อันดับ 7) กับ Miami Heat (อันดับ 8) เวลา 06.00 น.
ผู้ชนะจะเข้าไปเจอกับ New York Knicks ในเพลย์ออฟรอบแรก ส่วนผู้แพ้รอเจอทีมชนะในคู่เพลย์อินระหว่าง Chicago Bulls กับ Atlanta Hawks
ตารางแข่งขัน NBA รอบเพลย์ออฟ ประจำฤดูกาล 2023-2024
สถิติการพบกันในฤดูกาล 2023-2024
  • ​05/04/24 Heat 105-109 76ers
  • ​19/03/24 76ers 98-91 Heat
  • ​15/02/24 76ers 104-109 Heat
  • ​26/12/23 Heat 119-113 76ers
เช็คลิสต์นักกีฬาตัวเจ็บทั้งสองทีมจากแมทช์ล่าสุด
76ers: โจเอล เอ็มบีด, ดีแอนโธนี เมลตัน, โรเบิร์ต โควิงตัน และเคนยอน มาติน จูเนียร์
Heat: จอช ริชาร์ดสัน, ดันแคน โรบินสัน และเทอร์รี่ โรเซียร์
Joel Embiid's injury is Questionable
โจเอล เอ็มบีด ซุปเปอร์สตาร์อันดับหนึ่งของ 76ers ยังคงมีปัญหาอาการบาดเจ็บเรื้อรัง ทำให้พลาดแข่งเกมสุดท้ายของฤดูกาล ยังดีว่าสถานะอาการบาดเจ็บอัปเดตเป็น Questionable หรือว่า 50 เปอร์เซ็นต์แล้ว จึงมีโอกาสที่จะสตาร์ทจากม้านั่งสำรอง หรือแข่งแบบจำกัดเวลาลงสนาม เพราะถ้าแพ้เกมนี้แล้วไปชนะเกมหน้า จะต้องชนกับ Boston Celtics ในเพลย์ออฟรอบแรก แทนที่จะเป็นงานสบายกว่าอย่าง Knicks ที่มีแค่จาเลน บรุนสันแบกทีมอยู่คนเดียว
แต่ถ้าเอ็มบีดไม่ได้ลงแข่ง มันม่วงเชื่อเลยว่าไม่ส่งผลกระทบอะไรมากนักต่อทีมของนิ๊ก เนิร์ส เพราะในช่วง Regular Season บิ๊กแมนอดีตสัญชาติฝรั่งเศสลงแข่งไปเพียง 39 เกมเท่านั้น ทำให้แผนการเล่นส่วนใหญ่จะยึดไทรีส แม็กซีย์เป็นแกนหลัก โดยมีโทบายอัส แฮร์ริส, บั๊ดดี้ ฮิลล์ และเคลลี่ อูเบร จูเนียร์ เป็นแบ๊คอัป
Tobias Harris & Tyrease Maxey
และถึงแม้ว่าในเชิงสถิติของ 76ers ประจำฤดูกาล 2023-2024 ที่ไม่มีเอ็มบีดจะน่ากลัว มีผลงานอยู่ที่ 16-27 แต่ถึงกระนั้น ชัยชนะ 6 จาก 16 ครั้ง เกิดจากการลงแข่งเฉพาะเดือนเมษายนทั้งหมด นั่นหมายความว่า นิ๊ก เนิร์สสามารถสร้างแผนการเล่นที่ไร้ซึ่ง MVP ปีล่าสุดสำเร็จแล้ว (การได้ตัวบั๊ดดี้ ฮิลล์ และไคล์ ลอว์รีเข้ามา มีส่วนช่วยตรงนี้มาก)
มาดูฟาก Heat กันบ้าง ทีมลูกบอลไฟดูจะเพรียบพร้อมกว่าเยอะในแง่ขุมกำลัง บรรดาตัวหลักอย่าง แบม อะเดบาโย, จิมมี่ บัตเลอร์, ไทเลอร์ เฮอร์โร, เควิน เลิฟ, เคเล็บ มาร์ติน และไฮเม่ ฮาเควซ จูเนียร์ พร้อมลุยหมด แต่เรื่องการทำคะแนนยังน่าห่วง ปีนี้เฉลี่ย 110.1 แต้มเท่านั้น ซึ่งสูสีกับทาง 76ers ที่มีค่าเฉลี่ย 109.1 แต้ม เมื่อทีมขาดเอ็มบีด
Delon Wright, Caleb Martin, Bam Adebayo, Tyler Herro & Jaime Jaquez Jr.
ส่วนสถานการณ์ตัวเจ็บล่าสุด Heat ยังมีโชคอยู่บ้าง ดันแคน โรบินสัน อัปเดตสถานะเป็น Probable หรือ 75 เปอร์เซ็นต์แล้ว มีโอกาสสูงมากที่ชู๊ตติ้งการ์ดตัวเก่งจะได้ลงคอร์ทมาเติมคะแนนจากระยะไกล เพราะสถิติเมื่อโรบินสันปะทะกับ 76ers สี่เกมล่าสุด ทำคะแนนเฉลี่ย 10.3 แต้ม โดยมีฟิลด์โกล 3 คะแนนสูงถึง 47.6 เปอร์เซ็นต์
Duncan Robinson
แต่น่าเสียดาย ที่เทอร์รี่ โรเซียร์ การันตีชวดลงแข่งขันวันพรุ่งนี้ ไม่แน่ใจว่าการขาดหายไปของอดีตตัวแบกของ Charlotte Hornets จะส่งผลกระทบมากไหม เนื่องจาก 5 เกมล่าสุดที่เจ้าตัวลงสนาม มีค่าเฉลี่ยการทำแต้มเฉลี่ยสูงถึง 20 คะแนนต่อเกม
#มันฟันร่วง
มันม่วงเชื่อว่าสกอร์จะออกมาสูสีกันตลอดทั้งเกม เพราะการขาดหายไปของโจเอล เอ็มบีด ทำให้พื้นที่วงในของ 76ers อ่อนยวบ แบม อะเดบาโยจะเล่นง่าย และเป็นคีย์หลักในการกอบโกยแต้มร่วมกับจิมมี่ บัตเลอร์
แต่ปกติแล้ว Heat มักชอบมีปัญหามือบอดระหว่างเกม แม่น ๆ กันอยู่ดี ๆ ทีมก็เกิดสภาวะ 0 ฟิลด์โกลขึ้นมาซะอย่างงั้น และชอบเป็นบ่อยด้วย บางครั้งเกิน 5 นาที ซึ่งสภาวะนี้มักสร้างหายนะให้กับลูกทีมของเอริค สโปลสตรา เป็นประจำ ฉะนั้นถ้า 76ers มาเวย์เล่นเกมรับหนัก อาจจะทำให้เกิดช่องว่างสำคัญให้ได้สู้คืน
Eric Spoelstra fight with Jimmy Butler
มีโอกาสสูงมากที่ตอนจบของเกมจะไปเชือดเฉือนกันในเพลย์ท้าย ๆ และ 76ers จะชนะหวิว Heat ไปด้วยสกอร์ความห่างประมาณ 1-5 คะแนน
#วิเคราะห์เกมจริงจัง #NBA #PlayIn #76ers #MiamiHeat
โฆษณา