18 เม.ย. 2024 เวลา 21:56 • ท่องเที่ยว

บินลีดฟ้าสู่หางโจว (Hongzhou) ประตูสู่หวงซาน และอาหารจีนมื้อแรก

ร้อนๆๆๆ .. คือสภาพของอากาศในเมืองไทยใหญ่อุดมในช่วงเดือนเมษายน ที่ทำให้ทุกวันรู้สึกเหมือนเป็นวันที่ดาวน์ๆๆๆ
เราจึงคิดวางแผนหนีร้อน ไปพึ่งเย็นในเมืองจีนกันอีกครั้ง
.. โดยครั้งนี้ตั้งใจว่าจะไปเดินขึ้นๆลงๆบนพื้นที่สูง สูดอากาศดีๆไม่มีฝุ่น ท่ามกลางอากาศหนาว ให้ร่างกายและจิตใจสดชื่น ชิลชิล บนภูเขาสูงที่ความสวยงามนั้นโด่งดังติดอันดับอย่าง เขาหวงซาน และ หวัง เซียนกู่ หรือหุบเขาเทวดา
เพียง 4 ชั่วโมงจากสนามบิยสุวรรณภูมิ เราก็มาถึงเมืองหางโจว (Hongzhou) กันแล้ว ..
หากใครที่เคยมีภาพจำของเมืองจีนในอดีต ที่เป็นประเทศที่เดินทางลำบากลำบน ถนนฝุ่นเล็กๆ ห้องน้ำสกปรก ผู้คนไม่เป็นมิตร .. ใน พ.ศ. นี้ ต้องทิ้งความคิดนั้นไปเลย
หางโจว ที่เราเห็นนั้น เป็นเมืองที่ทันสมัยมาก ตึกสูงและอาคารสวยๆมีมากมาย .. ทางด่วนสร้างเป็นโครงข่ายพาผู้คนเดินทางสะดวกสบายเหมือนนกบิน ถนนหนทางสะอาด
ดอกไม้มากมายเต็มเมือง (โดยเฉพาะกุหลาบที่ไกด์เราบอกว่า คือ Chinese Roses) ออกดอกเต็มต้นอยู่ทั่วไป แม้กระทั่งตามข้างทาง ข้างถนน ที่แค่ได้เห็นก็ทำให้เราใจฟูได้ทั้งวัน
ตึกสูง .. รูปลักษณ์สวยงาม มีทั้งโรวแรมหรูหราแบรนด์เนม อาคารสำนักงาน ช้อปปิ้งเซนต์เตอร์ outlets
.. ชอบมากที่สุด คือ เป็นเมืองที่มีต้นไม้เขียวชอุ่มครอบคลุมพื้นที่กว้างขวางมาก และมีแม้กระทั่งไร่ชากลางเมือง รวมถึงมีทะเลสาบที่มีชื่อเสียงอย่าง ซีหู หรือ West Lake ที่โด่งดัง
.. ทำให้การเดินเที่ยวชมบ้านเมืองและสถานที่ต่างๆเป็นไปอย่างรื่นรมย์
หางโจว .. ผ่านร้อน ผ่านหนาวมานานหลายศตวรรษ ก่อนที่จะรุ่งเรืองอย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน
หางโจว เป็นเมืองหลวงและเมืองที่มีประชากรมากที่สุดของมณฑลเจ้อเจียง .. ได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองการค้าที่ดีที่สุดในจีนแผ่นดินใหญ่หลายครั้ง รวมถึงเจริญรุ่งเรืองที่สุดของจีนในช่วงสหัสวรรษที่ผ่านมา
เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและอีคอมเมิร์ซที่สำคัญ และเป็นเมืองใหญ่อันดับสองในสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี รองจากเซี่ยงไฮ้
Geography
หางโจวตั้งอยู่ในมณฑลเจ้อเจียงทางตะวันตกเฉียงเหนือ และทางตอนใต้สุดของแกรนด์คาแนลของจีน ซึ่งไหลไปยังปักกิ่ง ในส่วนตอนกลางตอนใต้ของสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี มีพื้นที่บริหาร ทอดยาวไปทางตะวันตกไปจนถึงพื้นที่ภูเขาของมณฑลอันฮุย และทางตะวันออกไปยังที่ราบชายฝั่งใกล้อ่าวหางโจว
ใจกลางเมืองถูกสร้างขึ้นรอบๆ ด้านตะวันออกและด้านเหนือของทะเลสาบตะวันตก ทางเหนือของแม่น้ำเฉียนถัง .. มีจำนวนประชากรทั้งหมดราว 12 ล้านคน
หางโจว .. ได้รับการจัดให้เป็น 1 ใน 7 เมืองหลวงโบราณของจีน เป็นเมืองหลวงแห่งแรกของอาณาจักร Wuyue ตั้งแต่ปี 907 ถึง 978 ในช่วงสมัย 5 ราชวงศ์และ 10 อาณาจักร ในเวลานั้นมีชื่อว่า ซีฟู่ (西府) เป็น 1 ใน 3 ป้อมปราการทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ทางตอนใต้ของจีนในช่วงศตวรรษที่ 10 พร้อมด้วยหนานจิงและเฉิงตู
.. ผู้นำของ Wuyue เป็นผู้อุปถัมภ์ศิลปะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถาปัตยกรรมและงานศิลปะของวัดในพุทธศาสนา
เขื่อนกั้นน้ำที่สร้างขึ้นเพื่อปกป้องเมืองโดย กษัตริย์เฉียนหลิว ทำให้เฉียนถังมีชื่อที่ทันสมัย .. หางโจวยังกลายเป็นศูนย์กลางของความเป็นสากล โดยดึงดูดนักวิชาการจากทั่วประเทศจีน และดำเนินการทางการฑูตกับรัฐจีนที่อยู่ใกล้เคียง รวมถึงกับญี่ปุ่น โครยอ และราชวงศ์ Khitan Liao
หางโจวได้รับเลือกให้เป็นเมืองหลวงแห่งใหม่ของราชวงศ์ซ่งใต้ในปี 1132 เมื่อพื้นที่ทางตอนเหนือของจีนส่วนใหญ่ถูกพวกเจอร์เชนยึดครองในสงครามจิน-ซ่ง
ในช่วงราชวงศ์ซ่งใต้ การขยายตัวทางการค้า การหลั่งไหลของผู้ลี้ภัยจากทางเหนือที่ถูกยึดครอง และการเติบโตของสถานประกอบการทางการและการทหาร ส่งผลให้จำนวนประชากรเพิ่มขึ้นตามไปด้วย และเมืองก็พัฒนาได้ดีนอกกำแพงเมืองในศตวรรษที่ 9
.. ตามสารานุกรมบริแทนนิกา หางโจวมีประชากรมากกว่า 2 ล้านคนในขณะนั้น ในขณะที่นักประวัติศาสตร์ Jacques Gernet คาดการณ์ว่าประชากรในหางโจวมีจำนวนมากกว่าหนึ่งล้านคนภายในปี 1276 .. เชื่อกันว่าหางโจวเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลกระหว่างปี ค.ศ. 1180 ถึง 1315 และตั้งแต่ปี 1348 ถึง 1358
พ่อค้าชาวเวนิส “มาร์โค โปโล” ซึ่งคาดว่าได้มาเยือนหางโจวในช่วงปลายศตวรรษที่ 13 .. ในหนังสือของเขา เขาบันทึกว่าเมืองนี้ "ยิ่งใหญ่กว่าเมืองใดๆ ในโลก" และ "จำนวนและความมั่งคั่งของพ่อค้า และปริมาณสินค้าที่ผ่านมือของพวกเขา มีมากมายมหาศาลจนไม่มีใครสามารถทำได้”
Modern history
หางโจว ยังคงเป็นเมืองท่าที่สำคัญจนถึงกลางยุคราชวงศ์หมิง ซึ่งเป็นช่วงที่ท่าเรือค่อยๆ ตื้นเขิน ภายใต้ราชวงศ์ชิง เป็นที่ตั้งของกองทหารรักษาการณ์ของจักรวรรดิ
ในปี พ.ศ. 2399 และ พ.ศ. 2403 อาณาจักรสวรรค์ไทปิงได้เข้ายึดครองหางโจว เมืองนี้ได้รับความเสียหายอย่างหนักระหว่างการพิชิต การยึดครอง และการยึดคืนในที่สุดโดยกองทัพชิง
หางโจวถูกปกครองโดยรัฐบาลสาธารณรัฐจีนภายใต้พรรคก๊กมินตั๋งตั้งแต่ปี พ.ศ. 2470 ถึง พ.ศ. 2480 จากปี พ.ศ. 2480 ถึง พ.ศ. 2488 เมืองนี้ถูกครอบครองโดยญี่ปุ่น
ก๊กมินตั๋งกลับมาในปี พ.ศ. 2488 และปกครองจนถึงปี พ.ศ. 2492
ในวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2492 กองทัพปลดปล่อยประชาชนเข้าสู่หางโจว และเมืองนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CCP) หลังจากที่นโยบายปฏิรูปของเติ้ง เสี่ยวผิงเริ่มขึ้นในปลายปี 1978 หางโจวก็ใช้ประโยชน์จากการตั้งอยู่ในสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซีเพื่อสนับสนุนการพัฒนา ปัจจุบันเป็นหนึ่งในเมืองใหญ่ที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดของจีน
ในช่วงการปฏิวัติวัฒนธรรม หางโจวต้องเผชิญกับเหตุการณ์ความไม่สงบด้านแรงงานและการต่อสู้แบบกลุ่มที่เรียกว่าเหตุการณ์หางโจว
อาหารมื้อแรกในเมืองถุนซี
วันแรกที่เราไปถึงหางโจว เราไม่ได้เที่ยวในเมืองนี้ แต่เลือกที่จะเดินทางต่อโดยตั้งใจจะไปเที่ยวชม ภูเขาหวงซาน ..
ในระหว่างทางเราแวะทานอาหารจีนในเมืองที่เป็นทางผ่าน
.. อันที่จริง ปัจจุบันร้านอาหารจีนส่วนใหญ่ที่เราไปนั่งทานอาหาร ตกแต่งร้านได้โอ่โถง การบริหารดี และรวดเร็ว
เมนูอาหารจีนในภูมิภาคนี้ รสชาติจะไม่เผ็ด ไม่ใส่หมาล่า .. หลายๆเมนูมีความคล้ายกับบ้านเรา ..
.. และเนื่องจากภูมิภาคนี้มีความอุดมสมบูรณ์ด้านดินฟ้า อากาศ ผลผลิตทางการเกษตรจึงมีให้เลือกมากชนิด มีความสดใหม่ ให้รสชาติที่ว๊าวมากๆ
วัตถุดิบที่ใช้ปรุงประกอบเป็นเมนูหลักต่างๆ .. แทบทุกร้านจะจัดวางให้เห็นกันแบบชัดเจน ทั้งผัก และเนื้อสัตว์ประเภทต่าง
.. เนื้อสัตว์บางชนิดเราอาจจะรู้สึกแปลกๆ ไม่คุ้นตา แต่เป็นอาหารธรรมดาๆของที่นี่ แถมเป็นอาหารดังที่ราคาสูงไม่เบาเลยที้ดียว
เมนูปรุงเสร็จแล้ว ก็มีให้ชม คงเผื่อลูกค้าที่คิดไม่ออกว่าจะทานอะไรดี
.. หากติดขัดในการสั่ง ก็ไม่ยาก ชี้ๆเอาเลยก็ย่อมได้
การจัดวางตัวอย่างขนม และของกินชนิดต่างๆ .. กระตุ้นต่อมหิวได้ชงัดนัก
.. เราไปสั่งอาหารมาทานกันดีกว่า
อาหารที่เราสั่งมารับประทาน .. หน้าตาดี รสชาติถูกปาก
โฆษณา