27 เม.ย. เวลา 00:00 • นิยาย เรื่องสั้น

บทความ Blockdit ตอน ลีกวนยูสร้างชาติอย่างไร ตอน 12 อเมริกร่าง

“อเมริกันคิดว่าผู้นําทุกคนในโลกซื้อได้หมด”
3
ในช่วงเริ่มสร้างประเทศสิงคโปร์ ลีกวนยูรู้ดีว่าอิทธิพลอังกฤษกำลังลดลงในภูมิภาคนี้ สหรัฐฯกำลังมาแทนที่ เขารู้ว่าพวกอเมริกันเล่นด้วยยากเขามองวิธีที่อเมริกันจัดการกับผู้นำไทยและฟิลิปปินส์ พวกอเมริกันรู้ว่าตนมีอำนาจ และทำตามความคิดตนโดยไม่แยแสใคร
4
แต่เขารู้ว่าจำเป็นต้องพึ่งสหรัฐฯ
2
ลีกวนยูมีปัญหากับสหรัฐฯหลายเรื่อง ตั้งแต่เรื่องส่วนตัวครั้งที่เขาขอหมออเมริกันเฉพาะทางมารักษาภรรยาที่ต้องรับการผ่าตัดด่วนแต่หมออเมริกันทุกรายปฏิเสธ แต่หมออังกฤษบินมาผ่าให้ทันที
ตามมาด้วยพวกซีไอเอพยายามติดสินบนเจ้าหน้าที่สิงคโปร์ในปี 1961 ซีไอเอเสนอเจ้าหน้าที่สิงคโปร์ให้ส่งความลับต่าง ให้ แลกกับค่าตอบแทน และหากเขาถูกจับ อเมริกันจะพาเขาและครอบครัวไปอยู่สหรัฐฯ ไม่ต้องห่วงอนาคต เจ้าหน้าที่คนนั้นคิดอยู่สามวัน ก็ตัดสินใจรายงานให้เจ้านายทราบคือ ริชาร์ด คอร์ริดอน (Richard Corridon)
4
คอร์ริดอนรายงานลีกวนยูทันที พวกเขาวางแผนจับซีไอเอสามคนได้คาหนังคาเขาพร้อมหลักฐาน หนึ่งในนั้นบอกว่าตนมีอภิสิทธิ์ทางการทูต
1
ลีกวนยูบอกข้าหลวงใหญ่อังกฤษชื่อ ลอร์ด เซลเคิร์ก (Lord Selkirk) ว่าช่วยไปบอกอเมริกันทีว่าจะปล่อยตัวซีไอเอก็ได้ แต่ขอเงินร้อยล้านมาพัฒนาประเทศสิงคโปร์
5
อเมริกันส่งข่าวกลับมาว่า จะให้หนึ่งล้านแก่พรรค PAP แทนก็แล้วกัน
ลีกวนยูบันทึกเรื่องนี้ไว้ว่า “อเมริกันซื้อผู้นำเวียดนามและประเทศอื่นๆ มากจนคิดว่าผู้นำทุกคนในโลกซื้อได้หมด”
4
แต่ในที่สุดอังกฤษก็แนะนำให้สิงคโปร์ปล่อยตัวซีไอเอที่ถูกจับเพราะสิงคโปร์ยังต้องพึ่งสหรัฐฯในเรื่องอื่นๆ
ลีกวนยูบอกว่า “พวกอเมริกันควรรู้จักลักษณะคนที่พวกเขาติดต่อในสิงคโปร์ และไม่พาตัวเองเข้าไปในการใส่ร้ายกัน พวกเขาไม่ได้กำลังติดต่อกับโงดินห์เดียม (Ngo Dinh Diem) หรือซิงมันรี (Syngman Rhee 이승만) คุณซื้อและขายรัฐบาลนี้ไม่ได้”
5
โงดินห์เดียมเป็นผู้นำคนแรกของเวียดนามใต้ ในอาณัติของอเมริกา
1
ซิงมันรีเป็นประธานาธิบดีคนแรกของเกาหลีใต้ จัดว่าเป็นเผด็จการ โปรสหรัฐฯ และต่อต้านคอมมิวนิสต์ สังหารคอมมิวนิสต์ไปราวแสนคน
ในปี 1965 ลีกวนยูส่งสารไปทางโลกตะวันตกว่า ถ้าอังกฤษถอนทหารจากสิงคโปร์เมื่อไร สิงคโปร์จะไม่ให้สหรัฐฯมาแทน หรือตั้งฐานทัพที่สิงคโปร์ แต่จะไปเชื่อมสัมพันธ์กับออสเตรเลียและนิวซีแลนด์
1
เขาต้องการให้อังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เป็นกันชนให้เพราะชีวิตคงจะเลวร้ายหากสิงคโปร์กลายเป็นไซ่ง่อนหรือมะนิลา ลำพังอังกฤษไม่มีความสามารถต้านคอมมิวนิสต์เหมือนสหรัฐฯ
1
สหรัฐฯก็อยากรู้ความเห็นของลีกวนยู
ลีกวนยูไม่ชอบวิธีที่อเมริกันจัดการคอมมิวนิสต์ในเอเชีย เช่น สนับสนุนโงดินห์เดียมเป็นประธานาธิบดีเวียดนามใต้ จนเมื่อโงดินห์เดียมไม่ทำตามคำสั่งของวอชิงตัน ก็เป็นที่มาของการเปลี่ยนผู้นำ โงดินห์เดียมถูกสังหารโหด
อย่างไรก็ตาม ลีกวนยูสนับสนุนสหรัฐฯในสงครามเวียดนามเพราะสหรัฐฯเป็นชาติเดียวในโลกที่มีแสนยานุภาพและความมุ่งมั่นที่จะต้านคอมมิวนิสต์
ในปี 1966 สิงคโปร์ตกลงให้ทหารอเมริกันในเวียดนามบินมาพักผ่อนที่สิงคโปร์ได้ ราวเจ็ดหมื่นคนต่อปี หรือราว 7 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด
ในช่วงสงครามเวียดนาม ลีกวนยูได้รับเชิญไปสหรัฐฯในปี 1967 เขาพบประธานาธิบดี ลินดอน บี. จอห์นสัน (Lyndon B. Johnson) ก่อนไปนักข่าวอังกฤษแห่ง London Times ซึ่งทำข่าวในวอชิงตันและเป็นเพื่อนของลีกวนยูบอกเขาว่า “สหรัฐฯไม่ได้แยแสประเทศเล็กจิ๋วอย่างสิงคโปร์ เรื่องซีไอเอให้สินบนก็ลืมไปแล้ว สหรัฐฯสนใจว่าคุณเป็นฝ่ายไหนต่างหาก ฝ่ายสหรัฐฯหรือคอมมิวนิสต์”
1
จอห์นสันพบลีกวนยูแบบตัวต่อตัว ประธานาธิบดีสหรัฐฯต้องการรู้มุมมองของลีกวนยูต่อบทบาทของสหรัฐฯในเวียดนาม
“ผมทำถูกหรือเปล่าที่ไปรบที่เวียดนาม?”
ลีกวนยูบอกว่าสหรัฐฯทำถูกแล้ว แต่สงครามเวียดนามเป็นสงครามที่เอาชนะไม่ได้ อย่างเก่งก็แค่ควบคุมไม่ใช่คอมมิวนิสต์ชนะแล้วเปิดโอกาสให้เวียดนามเลือกผู้นําที่ไม่ใช่คอมมิวนิสต์
2
ลีกวนยูพบประธานาธิบดี ลินดอน บี. จอห์นสัน
วุฒิสมาชิกคนหนึ่ง ไมค์ แมนสฟิลด์ (Mike Mansfield) ยิงคำถามใส่ลีกวนยูตรงๆ “คุณว่าการลอบสังหารโงดินห์เดียมทำให้ดีหรือร้าย?”
ลีกวนยูตอบตรงๆ ว่า “ร้าย เพราะไม่มีใครสามารถแทนที่โงดินห์เดียมที่สามารถปกครองได้ มันน่าจะมีทางอื่นให้โงดินห์เดียมเปลี่ยนนโยบายหรือวิธีการปกครอง การกำจัดเขาสร้างความไม่เสถียรภาพและแย่กว่านั้นคือความไม่แน่นอนว่า ผู้นำคนไหนที่ยืนหยัดเพื่อเวียดนาม แต่ไม่ตามคำแนะนำของอเมริกันจะรอดได้”
2
ลีกวนยูบอกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ดีน รัสค์ (Dean Rusk) ว่า “ผมหวังว่าประธานาธิบดีอเมริกันคนต่อไปจะชนะการเลือกตั้งโดยสามารถโน้มน้าวใจฮานอยว่าคนอเมริกันมีความอดทนและแก้ปัญหา เพื่อให้ผ่านสงครามไปได้ ถ้าอเมริกาถอนตัว จะเกิดคลื่นต้านประเทศที่ไม่เป็นคอมมิวนิสต์ทั้งหลาย ประเทศไทยจะเปลี่ยนข้าง มาเลเซียจะต้องเจอเครื่องบดของการก่อความไม่สงบแบบกองโจร หลังจากนั้น หลังจากคุมพี่น้องคอมมิวนิสต์ได้ คอมมิวนิสต์ก็จะไปจัดการสิงคโปร์ โดยที่กองทัพจีนไม่จําเป็นต้องยกไปถึงสิงคโปร์”
2
รัฐมนตรีสิงคโปร์หลายคนเห็นว่าการที่ลีกวนยูแสดงจุดยืนข้างประธานาธิบดีจอห์นสันในเรื่องสงครามเวียดนามอาจแรงไปหน่อย น่าจะถอยมาเป็นกลางกว่านี้ ไม่เช่นนั้นฐานคนจีนระดับรากหญ้าจะไม่ชอบลีกวนยูก็เปลี่ยนการใช้ภาษา แต่ยังคงดำรงจุดยืนเดิม
ลีกวนยูเดินสายพูดไปทั่วสิบวัน หลังจากจบการท่องสหรัฐฯ เขารู้สึกว่าความสัมพันธ์กับสหรัฐฯเป็นแบบฉาบฉวยมาก ต่างจากความสัมพันธ์กับอังกฤษ
วันที่ 25 เมษายน 1975 เวียดนามเหนือยึดไซ่ง่อน นรกในเอเชียอาคเนย์ก็แตกเวียดนามเหนือชนะสงครามเวียดนาม หมายถึงมีโอกาสที่ domino effect จะเกิดขึ้น ประเทศไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ล้วนมีสิทธิ์กลายเป็นคอมมิวนิสต์
2
ก่อนไซ่ง่อนแตกหนึ่งสัปดาห์ เรือมนุษย์หลายพันลําออกจากเวียดนามไปตายดาบหน้า บ้างไปขึ้นฝั่งที่ไทย บ้างถูกโจรสลัดไทยปล้นฆ่า ข่มขืน หลายพันคนมุ่งหน้าไปที่สิงคโปร์ ลีกวนยูต้องตัดสินใจว่าจะทำอย่างไร
ลีกวนยูสั่งให้รับผู้อพยพทั้งหมดขึ้นฝั่ง แต่หาประเทศที่สามให้เพราะสิงคโปร์เล็กเกินไปที่จะรองรับผู้อพยพ
1
วันที่ 8 พฤษภาคม 1975 แปดวันหลังไซ่ง่อนแตก ลีกวนยูติดต่อประธานาธิบดี เจอรัลด์ ฟอร์ด (Gerald Ford) ประธานาธิบดีสหรัฐฯถามลีกวนยูว่าปฏิกิริยาในเอเชียอาคเนย์เป็นอย่างไร
ลีกวนยูตอบว่า “เมืองไทยแตกตื่น อินโดนีเซียก็แตกตื่น”
เจอรัลด์ ฟอร์ด ถามความเห็นของลีกวนยูว่า อเมริกาควรไปทางไหน ลีกวนยูตอบว่า ทางดีที่สุดคือรอฝุ่นสงบก่อน เขาเชื่อว่าลาวจะไปทางเวียดนาม เขมรแดงจะฆ่าคนเป็นว่าเล่น ส่วนไทยจะเข้าหาจีน เพื่อให้ช่วยต้านเวียดนาม
1
เฮ็นรี คิสซิงเจอร์ รัฐมนตรีการต่างประเทศถาม “แล้วจีนจะช่วยไทยหรือ?”
1
ลีกวนยูตอบว่า “ผมเชื่อว่าจีนจะช่วย”
1
และจีนก็ช่วยจริงๆ
1
บทบาทลีกวนยูในการดึงสหรัฐฯไปจับมือกับจีน
การไปเยือนกรุงปักกิ่งของประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน (Richard Nixon) ในปี 1972 เป็นสิ่งที่ลีกวนยูบอกว่าเป็นจุดเปลี่ยนประวัติศาสตร์แต่ไม่ค่อยมีคนรู้ว่าลีกวนยูมีบทบาทหลังฉากที่กระตุ้นให้นิกสันไปเปิดสัมพันธ์กับจีน
1
ลีกวนยูมีประสบการณ์ทางการเมืองในภูมิรัฐศาสตร์โลกเข้มข้น ด้วยวิธีคิดทางยุทธศาสตร์ การวางแผน เขามองการณ์ไกล มีวิสัยทัศน์ระดับสูง จมูกไว ทํา
ให้นิกสันยกย่องลีกวนยู ลีกวนยูเป็นหนึ่งในนักการเมืองนานาชาติไม่กี่คนที่นิกสันขอคำปรึกษาก่อนตัดสินใจสร้างสัมพันธ์กับจีนในปี 1972
1
นิกสันมองจีนแบบศัตรูเสมอมา จนมีคนเรียกเขาว่าเป็น Cold Warrior (นักรบสงครามเย็น) นิกสันบอกเสมอว่า ‘จีนแดง’ เป็นชาตินอกกฎหมาย มีแต่พวกนักชาตินิยมของกลุ่ม Free China หรือ Formosa/Taiwan เท่านั้นที่เป็นตัวแทนที่แท้จริงของจีน
1
แต่นิกสันก็เปลี่ยนมุมมองนี้เกี่ยวจีนคอมมิวนิสต์ สองสามคนที่เปลี่ยนมุมมองของนิกสันได้แก่ประธานาธิบดี ชาร์ลส์ เดอโกลล์ ของฝรั่งเศส คอนราด อดีนาวเออร์ (Konrad Adenauer) แห่งเยอรมนีตะวันตก และ มูฮัมหมัด อายูบ ข่าน (Muhammad Ayub Khan) ของปากีสถาน และลีกวนยู
หลายคนนี้ทำให้นิกสันมองพ้นจากกรอบเดิม
นิกสันเป็นผู้นำที่เดินทางไปต่างประเทศบ่อย ไม่ใช่แค่เชื่อมสัมพันธ์ แต่เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเรื่องการเมืองภูมิภาค
1
ลีกวนยูพบประธานาธิบดีนิกสันในปี 1969
วันที่ 18 เมษายน 1967 นิกสันพบลีกวนยู ทั้งสองคุยกันอย่างเข้มข้นสองชั่วโมงเต็มเรื่องจีน
นิกสันถามลีกวนยูว่า “นโบายของสหรัฐฯต่อจีนควรเป็นอย่างไร?”
1
ลีกวนยูตอบว่า “ถ้าผมเป็นอเมริกัน ผมจะพิจารณาว่าประเทศจีนมีเส้นพรมแดนสี่พันไมล์กับโซเวียต เส้นพรมแดนที่คนรัสเซียได้เปลี่ยนในศตวรรษที่ผ่านมา ดังนั้นสองประเทศนั้นมีปัญหาที่ยังสางไม่จบ มันไม่มีเส้นพรมแดนระหว่างสหรัฐฯกับจีน สหรัฐฯขีดเส้นเส้นหนึ่งข้ามช่องแคบไต้หวันด้วยกองเรือรบที่ 7 แต่นี่เป็นแค่เส้นบนน้ํา และไม่จําเป็นว่าจะเป็นอย่างนั้นตลอดไป มีเรื่องมากมายที่สหรัฐฯจะได้ประโยชน์ที่ติดต่อจีน”
1
หลายเดือนต่อมา นิกสันส่งสัญญาณใหม่ออกไป ทั้งการพูดกับบรรดานักธุรกิจชั้นนํา และผ่านบทความในนิตยสาร Foreign Affairs ของ Council of Foreign Relations (สภาความสัมพันธ์ต่างประเทศ)
2
นิกสันเริ่มได้คิดว่า คอมมิวนิสต์ก็มีหลายขั้ว สหรัฐฯควรตักตวงผลประโยชน์จากความร้าวฉานของจีนกับโซเวียตมากกว่าต่อต้านทุกคนที่ต่างจากตน
2
ดึงเมืองจีนกลับมาสู่สังคมโลก ดีกว่ารบกับจีน
2
นิกสันส่งสัญญาณแรกไปว่า ความคิดและมุมมองของเขาเกี่ยวจีนเปลี่ยนไปแล้ว
ในปี 1967 นิกสันพูดว่า “มองไปไกลๆ เราไม่สามารถปล่อยให้เมืองจีนอยู่นอกกลุ่มนานาประเทศได้ตลอดกาล บ่มเพาะแฟนตาซีอุ้มชูความเกลียดชังและข่มขู่เพื่อนบ้าน มันไม่มีพื้นที่บนดาวเคราะห์ดวงเล็กๆ นี้ สำหรับคนที่มีศักยภาพพันล้านคนอาศัยอยู่ในการแยกตัวที่เกรี้ยวกราด”
3
ในปี 1971 นิกสันบอกว่าจะไปเยือนจีน ทั่วโลกตกใจ แต่ลีกวนยูไม่แปลกใจสักนิด เขารู้แล้วว่ามันจะเกิดขึ้น
โฆษณา