7 มิ.ย. เวลา 11:00 • ไลฟ์สไตล์
สีลม

[ 66:to:44 ] รีวิวตรวจปอดกับ IOM (2024) - จากหน้าจอสู่หน้าประตู

ใครจะไปคิดว่าในที่สุดวันนี้ก็มาถึง วันที่เราต้องไปตรวจปอดเพื่อใช้ในการทําวีซ่า (ระยะยาว) เข้าประเทศอังกฤษ ใครกําลังจะไปเรียนช่วงเดือนกันยานี้ หรือกําลังเตรียมตัว หรือผ่านมาเห็น ก็ยินดีที่ได้รู้จักน้า
ไม่เคยเขียนแนวนี้มาก่อน ตื่นเต้นจัง555 แต่ก็ยังไม่เท่ากับความตื่นเต้นตอนไปตรวจปอดแน่ๆ เพราะแค่หาวันก็ระทึกแล้ว ด้วยความที่มันไปวันเสาร์-อาทิตย์ ไม่ได้อ่ะนะ แถมคิวเต็มอย่างโหด!
การตรวจปอดของเรา เราเลือกไปตรวจกับทาง IOM (International Organisation for Migration) ซึ่งจะต้องทําเรื่องนัดวันเวลาผ่านทางเว็บไซต์ทางการของ IOM
Note: การตรวจปอดในที่นี้จะเป็นการตรวจหาเชื้อวัณโรค ต้องไปตรวจกับสถานที่ที่ถูกกําหนดไว้อย่างเป็นทางการเท่านั้นนะ จะมี 2 ที่ คือ IOM กับ โรงพยาบาล BNH
ทั้งนี้ ใบเซอร์ฯผลตรวจ จะมีอายุใช้งานเพียง 6 เดือนเท่านั้น (ถ้าตรวจเจอความผิดปกติ เราจะเสียเวลาไปกับขั้นตอนนี้อีกเป็นเดือน) ซึ่งสําคัญว่า ณ วันที่เข้าประเทศนั้นๆจะต้องยังไม่หมดอายุนะ ยังไงก็ตาม ความบันเทิงดอกแรกบังเกิดตรงที่เราดันนับวันผิดทําให้เริ่มจองคิวช้า เลยพลาดวันที่หมายตาไว้ ..นอยแปป
หน้าตาเว็บไซต์ของ IOM
ขั้นตอนการจอง กด Register now และเข้าไปกรอกรายละเอียดตามหัวข้อต่างๆก่อน แนะนําว่ากรอกให้ครบถ้วนและตรวจความถูกต้องให้ดี (เป็นภาษาอังกฤษ ยกเว้นหัวข้อ Native Name ที่ต้องพิมพ์เป็นภาษาไทยตามหน้าพาสปอร์ตของเรา) เพราะหลังจากนี้จะแก้ไขไม่ได้ แม้ว่า พอล็อคอินเข้าไปจะมีปุ่ม save และพิมพ์เติมได้ก็ตาม
บอกแบบนี้เพราะส่วนตัวกรอกไปเฉพาะหัวข้อที่เขาบังคับกรอก กับที่อยู่มหาวิทยาลัย แล้วเพิ่งรู้ทีหลังว่ามันแก้ไขไม่ได้ กังวลอยู่หลายวัน แต่โชคดี พอถึงวันนัดก็ไม่มีปัญหาอะไร น้ำตาจิไหล แถม process วันที่ไปตามนัดหมายก็รวดเร็วสุดๆ
Note: จริงๆสามารถฝากพี่จนท.จากเอเจนซี่ที่ดูแลเราทําเรื่องให้ก็ได้ แต่ ตอนนั้นอยากทําเองอ่ะ 555
ศูนย์ IOM ณ ตึกเกษมกิจ
หลังลงทะเบียนเสร็จ รอประมาณ 1-2 วัน ก่อนถึงวันนัดหมายก็มีอีเมล์แจ้งเตือนที่แนบไฟล์คู่มือกับแผนที่มาด้วย เรานั่ง MRT ไปลงสถานีสีลม จากนั้นเดินต่อยาวๆไปตึกเกษมกิจ แต่ด้วยความที่ไปถึงก่อนเวลาเป็นชม. ด้วยความไม่อยากไปนั่งรอ ก็เดินเลยออกไปอีก ไปเจอตลาดเช้าในซอยนึง ไม่แน่ใจว่าใช่ตลาดที่มีเสียงลือเสียงเล่าว่าดือรึเปล่า ซึ่งตอนนั้นแวะซื้อของกินเรียบร้อย เนื่องจากความหิวส่วนตัว 555 (แต่ยังกินไม่ได้จนกว่าจะตรวจเสร็จ)
หลังจากนั้น เราก็ย้อนกลับไปที่ตึก แลกบัตรกับรปภ. จากนั้นกดลิฟท์ขึ้นชั้น 8 โลดดด! ป.ล. ใช้ใบขับขี่ หรือบัตรอื่นที่เขาอนุญาตให้ใช้แลกแทนบัตรประชาชนนะ เพราะจากนี้เราจะได้ใช้มันยาวๆเลย
แล้วทันทีที่โผล่หน้าออกจากลิฟท์ไปให้คุณพี่ที่เฝ้าประตูเห็น เขาก็แทบเปิดประตูและอัญเชิญเราเข้าไปติดต่อ Receptionist รับบัตรคิว แล้วนั่งรอเรียกพบจนท.แบบงงๆเลย จุดนี้เราจะได้บัตรคิวมา 2 ใบ ใบแรกใช้ตอนเข้าพบจนท. อีกใบสําหรับหลังได้ผลตรวจกลับมาที่นี่อีกครั้ง
พอถึงคิว เจ้าหน้าที่ก็จะถามรายละเอียดทั่วไปเกี่ยวกับสุขภาพ และอื่นๆ รวมถึงมหาวิทยาลัย อย่างเช่น จะไปมหาวิทยาลัยนี้เลยใช่ไหมหรือจะเปลี่ยนทีหลัง? และอื่นๆที่คนอื่นอาจเจอไม่เหมือนเรา จนท.ที่นี่ปฏิสัมพันธ์กับเราแบบน่ารักมากและทํางานไวจริงจัง รู้ตัวอีกทีก็คือได้ซองน้ำตาลไปทําเรื่องต่อที่โรงพยาบาลแล้ว
ในส่วนนี้จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 3,800.- จ่ายโดยตรงกับจนท.เลย จ่ายเป็นเงินสดหรือแสกนคิวอาร์โค้ด (หรือสามารถจ่ายล่วงหน้าก่อนมาก็ได้เช่นกัน แน่นอนว่าเราไม่ทําจ่ะ 555) สําหรับการติดต่อกับ IOM จะมีตัวเลือกระหว่าง โรงพยาบาลพญาไท 2 หรือ โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน เราเลือก 'รพ.กรุงเทพคริสเตียน' เพราะว่ามันเดินถึงกันได้แบบชิลๆ นอกจากนี้ ตอนออกไปโรงพยาบาลยังไม่ต้องแลกบัตรคืนนะ หลังทําทุกอย่างเสร็จแล้วค่อยมาแลกคืนทีเดียว
ทางเข้าตึกด้านหน้าโรงพยาบาล
ความบันเทิงดอกสอง อยู่ที่ประตูตรงนั้น มันเคยเกิดขึ้นกับใครบ้างไหม 555+ คือ ประตูมีสองช่อง เป็นประตูอัตโนมัติ มันก็ต้องเข้า-ออกประตูไหนก็ได้ใช่ไหมล่ะ นี่ก็เดินเข้าไปด้วยความมั่นใจมาก สุดท้ายไปยืนเด๋ออยู่ประตูซ้ายสองสามวิ วินาทีนั้นได้แต่คิด 'เอ๊ะ? ทําไมประตูไม่เปิดวะ' จนเดินไปอีกประตู อ้าว มันเปิด!? ไม่งงจะงงมาก แล้วภาพที่เห็นคือพี่ยามเตรียมขยับแล้ว เขาคงเห็นแหละว่าอินี่อะไรของมัน (เกือบโดนรวบละ ข้อหาทําตัวน่าสงสัย) โคตรอายเล๊ย 555
ทางเข้าแผนกเอกซเรย์
เราไม่ได้ถ่ายตอนเข้าไปติดต่อ Reception ของโรงพยาบาล เพราะอายมาก พยายามเก็บทรงอยู่ 555 ใดๆก็ตาม เพียงแค่เอาตัวเข้าไปพร้อมซองน้ำตาล เจ้าหน้าที่ทุกคนคือรู้ทันทีว่ามาทําอะไร เราเข้าไปที่เคาท์เตอร์ เขาจะขอพาสปอร์ตกับบัตรปชช.จากเราทันที พอเช็คข้อมูลชื่อกันเสร็จแล้ว เขาก็จะปล่อยให้ไปต่อที่แผนกเอกซเรย์ (เสมือนเคลียร์เควสในเกม) ไปถึงก็ตามสูตรเดิมเลย ติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อน แล้วจะได้สายรัดข้อมือที่มีชื่อตัวเองมา จากนั้นก็จะได้เข้าไปเตรียมตัวและนั่งรอเรียกเข้าห้อง
บอกเลยว่า พอได้เข้าห้องเอกซเรย์ ณ จุดๆนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากกก แบบไม่ทันตั้งตัวจนเกือบได้สร้างเรื่องอีกรอบละ 5555 เพราะจังหวะที่เขาบอกให้สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก็เผลอปล่อยออกมาก่อน ดีที่กลับตัวกลับใจทันเลยรอดมาได้ 555
ทางไปต่ออีกด้านของศูนย์ IOM
เอกซเรย์เสร็จ เราจะได้ผลเอกซเรย์ใส่ซองปิดผนึกมาตามระเบียบ ห้ามแกะเอง ต้องเอาให้คุณหมอที่ศูนย์ IOM เป็นคนเปิด ดีที่เวลายังเหลือกว่าจะพักเที่ยง เลยไม่ต้องรีบมาก แต่ถ้าใครมีธุระรีบไปไหนต่อก็อาจจะต้องรีบหน่อย เพราะคิวจากนี้จะไม่ใช่การเรียงเบอร์แล้วนะ แต่เรียงตามลําดับคนมาก่อน-หลังล้วนๆ!
จากนี้ เราจะถูกเรียกให้ไปโซนขวาที่เป็นเคาท์เตอร์ เบอร์ 6-11 ตามป้ายแทน ถ้าด้านในฝั่งนั้นมีเก้าอี้ว่างก็เข้าไปนั่งรอในนั้นก็ได้เหมือนกัน
ระหว่างรอพบหมอ นี่ดันตื่นเต้นจนเริ่มแพนิคเบาๆ กลัวผลออกมาว่าปอดมีปัญหา (แม้จะแน่ใจว่าตัวเองแข็งแรงดี) ซ้ำเติมไปอีกคือนั่งๆอยู่รู้สึกแปลกๆข้างใน ได้แต่ถามตัวเองว่า ตกลงจะเป็นอะไรจริง หรือแค่หิว 555+ สุดท้ายพอได้พบหมอ ผลเอกซเรย์ก็ปกติดีไม่มีปัญหาอะไร หลังจากนั้นออกมารับใบรับรองที่เคาท์เตอร์ด้านนอก (เป็นกระดาษแข็งประมาณนึง สีเหลืองอ่อนๆ) อยู่ในโซนเดียวกับที่เข้าไปพบแพทย์เลย
ภารกิจเสร็จสิ้น กลับบ้านได้ ถ้าไม่นับที่สร้างเรื่องสร้างคอนเทนต์ให้ตัวเอง ทุกอย่างจะดูราบรื่นกว่านี้อีก 5555 แล้วสุดท้ายนี้ เจอกันอีกทีอีพีหน้าจ้า
ป.ล. สรุป ที่รู้สึกแปลกๆระหว่างนั่งรอ คือ หิวข้าวจริงไม่จกตา...
โฆษณา