23 เม.ย. 2024 เวลา 08:00 • สุขภาพ

ทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่ต้องการลดการบริโภค “คาเฟอีน”

ภาพจำของ “คาเฟอีน” คงเป็นกาแฟที่เรามักดื่มกันในยามเช้า ไม่ว่าจะก่อนไปทำงาน หรือ ก่อนทำกิจกรรมใดๆ ถ้าได้กาแฟสักแก้วคงจะดี และสำหรับบางคนกลายเป็นของที่ขาดไม่ได้แล้ว แต่จะดีกว่าไหมที่มีตัวช่วยให้หายง่วงได้เหมือนกันแต่ “คาเฟอีน” น้อยกว่าครึ่ง นั่นก็คือ “ชาเขียว” คือ หนึ่งในเครื่องดื่มที่มีมายาวนานหลายพันปีและเป็นที่นิยมอย่างมากทั่วโลก โดยเฉพาะในเอเชีย ชาเขียวมีคุณสมบัติหลายอย่างที่ทำให้ได้รับความนิยม ไม่เพียงเพราะรสชาติที่อ่อนโยนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประโยชน์ต่อสุขภาพที่หลากหลายอีกด้วย
ชาเขียวดียังไง ?
ประโยชน์ของ "ชาเขียว"
1. การป้องกันโรค: ชาเขียวมีสารต้านอนุมูลอิสระมากมายที่ช่วยลดระดับอนุมูลอิสระในร่างกาย ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคมะเร็งและโรคเรื้อรังอื่นๆ การดื่มชาเขียวอย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยป้องกันโรคเหล่านี้ได้
2. การลดน้ำหนัก: ชาเขียวมีสารที่ช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย ซึ่งสามารถช่วยในการลดน้ำหนัก นอกจากนี้ยังมีการศึกษาที่ชี้ให้เห็นว่าการดื่มชาเขียวสามารถช่วยลดไขมันในร่างกายโดยเฉพาะอย่างยิ่งไขมันที่อยู่รอบเอว
3. การปรับปรุงสมรรถภาพของสมอง: คาเฟอีนในชาเขียวช่วยเพิ่มความตื่นตัวและลดความเหนื่อยล้า นอกจากนี้ยังมีสาร L-theanine ซึ่งช่วยเสริมคุณสมบัติของคาเฟอีน ช่วยให้สมองตื่นตัวและเพิ่มการโฟกัสได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
4. การป้องกันโรคหัวใจ: การดื่มชาเขียวอย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ เช่น ลดระดับคอเลสเตอรอลและปรับปรุงการไหลเวียนของเลือด ชาเขียวยังช่วยลดความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักสำหรับโรคหัวใจ
5. การปรับปรุงสุขภาพของผิว: ด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่สูง ชาเขียวสามารถช่วยป้องกันและลดความเสียหายของผิวจากรังสี UV จากแดดประเทศไทยที่ร้อนแรง และช่วยลดการอักเสบ ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และลดการเกิดริ้วรอยอีกด้วย
ข้อควรระวัง !!
1. ดื่มมากไป: การดื่มชาเขียวมากเกินไปอาจนำไปสู่ผลเสียต่างๆ เช่น อาการท้องร่วงหรือมีปัญหาการนอนหลับเนื่องจากคาเฟอีน ควรจำกัดการบริโภคไม่ให้เกิน 3-4 ถ้วยต่อวัน
2. หลีกเลี่ยงชาเขียวตอนใกล้นอน: เนื่องจากชาเขียวมีคาเฟอีน ควรหลีกเลี่ยงการดื่มชาเขียวอย่างน้อย 4-6 ชั่วโมงก่อนเวลานอน เพื่อไม่ให้คาเฟอีนมีผลต่อการนอนหลับ
แล้วทำไมชาเขียวถึงดีกว่ากาแฟ ?
"ตื่นตัวพร้อมกับความรู้สึกผ่อนคลาย"
1. คาเฟอีนน้อยกว่า: ชาเขียวมีคาเฟอีนน้อยกว่ากาแฟ เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการลดการบริโภคคาเฟอีน แต่ยังต้องการความตื่นตัวและไม่อยากมีอาการกระวนกระวายจากคาเฟอีนที่มากเกินไป
2. มี L-theanine: ชาเขียวมี L-theanine ที่เป็นกรดอะมิโนที่ช่วยเพิ่มการผลิตสารสื่อประสาทอย่างเซโรโทนินและโดพามีนในสมอง สารตัวนี้ช่วยให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลายและปรับปรุงความสามารถในการโฟกัสโดยไม่ทำให้รู้สึกกระวนกระวายเหมือนของกาแฟ
3. สารต้านอนุมูลอิสระสูง: ชาเขียวมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่นแคทเชชิน ซึ่งมีคุณสมบัติในการต่อต้านการอักเสบและสามารถลดความเสี่ยงของโรคหลายอย่างรวมถึงมะเร็งและโรคหัวใจ
4. ช่วยเรื่องสุขภาพฟัน: ชาเขียวมีฟลูออไรด์ธรรมชาติซึ่งช่วยป้องกันฟันผุ ในขณะที่กาแฟมักทำให้ฟันมีสีเหลือง
5. ช่วยในการลดน้ำหนัก: ชาเขียวช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน ช่วยเร่งการลดน้ำหนัก โดยเฉพาะการลดไขมันในร่างกาย
6. ลดเสี่ยงโรคเบาหวาน: การศึกษาพบว่าการดื่มชาเขียวสามารถช่วยปรับปรุงความไวต่ออินซูลินและลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่เสี่ยงหรือป่วยด้วยโรคเบาหวาน
“ชาเขียว” ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดปริมาณคาเฟอีนที่บริโภคเข้าไป รวมถึงผู้ที่ต้องการเครื่องดื่มที่ช่วยให้ตื่นตัวแต่ไม่ต้องการผลข้างเคียงที่รุนแรงของกาแฟ การเลือกดื่มชาเขียวถือว่าตอบโจทย์ในเรื่องนี้ได้เช่นกัน
โฆษณา