25 เม.ย. เวลา 02:26 • ความคิดเห็น

ตะลุยป่าไม้ไซบีเรีย (9)

โดย
นิติการุณย์
มิ่งรุจิราลัย
สนทนากับโรงงานไม้เกือบทุกแห่ง จะได้ยินคำว่า ‘โลกร้อน’ โรงไม้ที่นี่จึงตัดไม้ 1 ต้น และจะปลูกทดแทน 3 ต้น
1
การใช้อิฐ หิน ปูน ทราย เหล็ก ทองแดง ทองเหลือง ใช้แล้วก็สร้างกลับคืนไม่ได้
ภูเขาหินปูนลูกใหญ่ๆ ให้สัมปทานไปไม่กี่ปี โดนระเบิดหายไปทั้งภูเขา ให้มีเงินอีกแสนล้านก็ไม่สามารถจะเรียกทรัพยากรธรรมชาติภูเขาหินปูนนี้กลับมาได้
การตัดไม้นำมาก่อสร้าง 1 ต้น และปลูกทดแทน 3 ต้น ป่าไม้ก็จำนวนเท่าเดิมหรือมากกว่า
การโตของไม้มี 2 แบบ คือโตแบบ primary growth และแบบ secondary growth
แบบไพรมารีโกรทก็คือโตตามปกติ สูงเท่ากับพันธุ์ของตัวเอง แต่พอโตได้สูงสุดแล้วก็ถึงช่วงเซคันดารีโกรท ที่ต้นไม้จะขยายออกข้างทำให้มีเส้นรอบวงมากขึ้น
ป่าไม้ในไซบีเรียมีมากถึง 8 ล้านกว่าตารางกิโลเมตร ใหญ่กว่าพื้นที่ของออสเตรเลียทั้งทวีป ต้นไม้ที่กำลังโตจะสร้างอาหารด้วยกระบวนการสังเคราะห์ที่ใช้ทั้งแสง น้ำ คลอโรฟิลด์ และคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อทำให้ได้น้ำ น้ำตาล และออกซิเจน
ต้นไม้ส่วนใหญ่ในไซบีเรียอายุเกิน 100 ปี ยิ่งอายุมากก็ดูดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไปใช้น้อยลง ปล่อยก๊าซออกซิเจนน้อยลง
ไม้ในไซบีเรียถูกนำมาใช้ทั้งภายนอกและภายในอาคาร อยู่ได้นานเกิน 100 ปี ถ้าจะไปใช้ในภูมิภาคอื่น ก็ต้องระวังเรื่องปลวก
2
แต่ถ้าเอาอาหารปลวกออกจากเนื้อไม้ ไม้ก็จะอยู่ได้ยาวนานหลายร้อยปี โดยที่ไม่มีแมลงมารบกวน
ไม้มีองค์ประกอบ 3 ส่วน ส่วนแรกคือ ‘เซลลูโลส’ (สารประกอบอินทรีย์ที่เกิดจากกลูโคสประมาณ 5 หมื่นโมเลกุลมาเชื่อมต่อเป็นสายยาว)
ส่วนที่สองคือ ‘เฮมิเซลลูโลส’ (โพลีแซ็กคาไรด์ซึ่งประกอบด้วยน้ำตาล 5 คาร์บอนอะตอม และ 6 คาร์บอนอะตอมต่อการเป็นพอลิเมอร์สายสั้น)
1
และส่วนที่สามคือ ‘ลิกนิน’ (ชั้นของพอลิเมอร์ ธรรมชาติ เป็นส่วนประกอบสำคัญของผนังเซลล์ที่มีคุณสมบัติแข็งแกร่ง และไม่เน่าเปื่อยง่าย)
1
ถ้ากลัวปลวกก็ใช้เทคโนโลยีเทอร์โมวูด เป็นการเอาอาหารของปลวกซึ่งก็คือเซลลูโลสและเฮมิเซลลูโลสออก ไม้ก็จะอยู่ได้นาน แต่ค่าความแข็งของไม้จะหายไปร้อยละ 20
ต้นไม้ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์และปล่อยก๊าซออกซิเจน หากจะแก้ปัญหาโลกร้อน ก็ต้องเริ่มการปลูกต้นไม้กันจริงจัง
กล้าไม้เล็กๆราคาต้นละ 1-2 บาท นำไปปลูก 10 ปีก็ขายเป็นเนื้อไม้ได้ในราคาหลายหมื่น ระหว่างเติบโตก็ดูดคาร์บอนไดออกไซด์ และปล่อยออกซิเจนให้เรา
2
รัฐบาลของบางประเทศกู้เงินมาใช้จ่ายรวมแล้วหลายล้านล้านบาท ถ้าตอนนั้นแบ่งมาสัก 5 หมื่นล้าน ปลูกต้นไม้ทั่วประเทศ 5 หมื่นล้านต้น เวลาผ่านไป 10 ปี มูลค่าไม้เหล่านี้เพิ่มเป็นหลายล้านล้านบาท แถมระหว่างนั้นก็ช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ ทำให้คุณภาพอากาศดีขึ้น
1
สถาบันวิจัยผลกระทบทางสภาพภูมิอากาศแห่งพอสดัมของเยอรมนีศึกษาผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกจากภาวะโลกร้อนพบว่า ภายใน ค.ศ.2050 เศรษฐกิจโลกจะเสียรายได้ร้อยละ 19 ของรายได้ทั้งหมดหรือ 38 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (1.4 พันล้านล้านบาท)
ความเสียหายเหล่านี้ส่วนใหญ่มาจากการที่อุณหภูมิโลกสูงขึ้น + การเปลี่ยนแปลงปริมาณน้ำฝน + ความแปรปรวนของอุณหภูมิ
แม็กซิมิเลียน ค็อตซ์ นักวิทยาศาสตร์ของสถาบันวิจัยฯ เปิดเผยว่า จากการศึกษาข้อมูลของภูมิภาคต่างๆ มากกว่า 1.6 พันแห่งย้อนหลังไปเป็นเวลา 40 ปี ภูมิภาคที่ในอนาคตจะเผชิญกับรายได้ที่จะลดลงอย่างฮวบฮาบคืออเมริกาเหนือ (สหรัฐฯและแคนาดา) และทวีปยุโรป
ที่กระทบหนักที่สุดคือเอเชียใต้และแอฟริกา กระทบทั้งผลผลิตทางการเกษตร แรงงาน และโครงสร้างพื้นฐาน
แต่เดิมเมื่อได้ยินคำว่า ‘ตัดไม้ทำลายป่า’ เราก็โกรธ แต่พอได้ฟังคำอธิบาย และเข้าไปดูในโรงงานในไซบีเรีย ก็จึงเข้าใจเรื่องข้อดีของการตัดไม้แก่ และการปลูกทดแทน
1
ประเทศไหนใช้ไม้มากก็จะยิ่งส่งเสริมให้มีการปลูกทดแทนเยอะ เรื่องอย่างนี้ รัฐต้องเร่งให้ความรู้กับประชาชน
สุดท้ายผมเชื่อว่า ป่าไม้ในไซบีเรียจะยังคงสภาพเป็นปอดให้ยุโรปต่อไปอีกนับศตวรรษ.
โฆษณา