26 เม.ย. เวลา 07:09
เอาเป็นว่า
ผมเองเป็นคนที่มีสิ่งที่รักที่ชอบที่สนใจเยอะมาตั้งแต่เด็กๆ
มีสาวๆเข้ามาแสดงความสนใจในตัวผมตั้งแต่ผมเป็นเด็กประถม, มัธยม, อุดมศึกษา ตราบจนถึงทุกวันนี้ ทั้งๆที่ผมไม่ได้มีอำนาจวาสนาร่ำรวยหรือหน้าตาเข้าขั้นพระเอกหนังแต่อย่างใด
ผมไม่ได้มี luxury of time and money ที่จะไปใช้กับเรื่อง lust ๆ love ๆ มากนัก
ด้วยเหตุนี้
เมื่อใดก็ตามที่ผมแสดงความสนใจในผู้หญิงคนหนึ่ง นั่นหมายถึง
ผมกำลัง
Take emotional risks
เข้าไปแบบเต็มๆ
เพราะผมไม่อาจรู้ได้ว่า สาวคนนั้นจะคิดกับผมแบบไหน และสื่งที่เธอแสดงออกกับสิ่งที่เธอคิดกับผมจริงๆ มันตรงกันหรือเปล่า?
• แต่ถ้าจะให้ผมสรุปง่ายๆ
ผมขอเปรียบเทียบแบบนี้
คนสองคนที่คิดจะคบกันไปนานๆ
มันก็เหมือนทั้งสองฝ่ายร่วมกันลากเส้นตรงบนหาดทรายด้วยกิ่งไม้ที่ถือด้วยมือของแต่ละคน
แน่นอนว่า
การช่วยกันลากเส้นตรงนั้น ทั้งสองต้องร่วมมือกัน ด้วยสมาธิที่ยิ่งยวด
เพราะระหว่างทางย่อมมีบททดสอบให้เสียสมาธิอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น กระแสลม, กระแสคลื่น, แสงแดด และผู้คนในละแวกนั้น
• หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเริ่มเสียสมาธิ
มันจะฟ้องออกมาจาก
ความคดของเส้นที่ลาก
ซึ่งเป็นภาพสะท้อน
ของ
ความคดใน
จิตใจ
ของฝ่ายนั้น
เส้นที่คนๆนั้นขีดออกมา
นอกจากจะไม่ใช่เส้นตรงแล้ว มันอาจเบี่ยงเบนออกห่างไปเรื่อยๆ!
ซึ่งอีกฝ่ายที่ยังคงตั้งใจและมีสมาธิลากเส้นตรงอยู่ สามารถสังเกตเห็นได้ตลอดเวลา!
และนั่นคือ
สัญญาณ
Clock out
ที่ชัดเจนที่สุด
มันจึงขึ้นอยู่กับฝ่ายที่ยังมีสมาธิลากเส้นให้ตรงอยู่ว่า
เขาจะให้เวลาเฝ้าสังเกตฝ่ายที่ลากเส้นคดได้ยาวนานเพียงใด และฝ่ายที่ลากเส้นคดจะกลับมามีสมาธิลากเส้นตรงได้อีกหรือไม่
• ผมขอสรุปด้วยคำกล่าวที่ผมชื่นชอบนี้ว่า
Actions speak louder than words!
โฆษณา