คริสเตียนีและนีลเส็น
บริษัทก่อสร้างเดนมาร์ก
ปักหลักธุรกิจในไทยเกือบ 100 ปี
อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย บนถนนราชดำเนินกลาง สร้างขึ้นมาเมื่อปี 2483 เพื่อระลึกถึงวันครบรอบ 8 ปี ที่คณะราษฎรปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครอง ใช้งบการก่อสร้างใช้งบประมาณ 250,000 บาท
น้อยคนที่จะรู้ว่าบริษัทที่รับเหมาก่อสร้างอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เป็นบริษัทก่อสร้างสัญชาติเดนมาร์กที่มารับงานก่อสร้างในไทย และท้ายที่สุดจดทะเบียนเป็นบริษัทไทย รวมถึงการจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)
"คริสเตียนีและนีลเส็น" เข้ามาดำเนินการในไทยเมื่อปี 2473 ก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2 ปี โดยก่อตั้งขึ้นในไทยเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2473
มีผู้ถือหุ้น Christiani & Nielsen A/S, The Privy Purse (สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์) และ The East Asiatic Company Limited
การเข้ามาลงทุนของ "คริสเตียนีและนีลเส็น" เลือกที่จะร่วมทุนกับทุนท้องถิ่น ซึ่งในยุคสมบูรณาญาสิทธิราชมีผู้ที่สะสมทุนในภาคเอกชนมีไม่มาก และการเจรจาหาผู้ร่วมทุนจึงไปจบที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
นับถึงปัจจุบัน "คริสเตียนีและนีลเส็น" เข้ามาทำธุรกิจในไทยแล้ว 93 ปี อีกเพียง 7 ปี จะทำธุรกิจในไทยครบ 100 ปี
อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สร้างเมื่อปี 2483 โดยมี "คริสเตียนีและนีลเส็น" เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง (ภาพจาก www.cn-thai.co.th)
แต่ถ้านับถึงจุดเริ่มต้นของธุรกิจเมื่อปี 2447 นับเวลาได้ 120 ปี ที่ "คริสเตียนีและนีลเส็น" ก่อตั้งบริษัทที่กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก เพื่อก่อสร้างสะพาน งานเดินเรือ และโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กที่ถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ของงานก่อสร้างเมื่อ 100 กว่าปี
"รูดอล์ฟ คริสเตียนี" วิศวกรโยธาหนุ่มชาวเดนมาร์ก และ "เอจ นีลเซ่น" กัปตันในกองทัพเรือเดนมาร์ก คือ 2 คน ที่เป็นผู้บุกเบิกและเป็นที่มาขอชื่อบริษัท "คริสเตียนีและนีลเส็น"
นอกจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยแล้ว "คริสเตียนีและนีลเส็น" ก่อสร้างงานโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นท่าเรือคลองเตย สะพานนนทบุรี สนามมวยราชดำเนิน โรงแรมสุโขทัย สนามกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ที่ธรรมศาสตร์รังสิตปี 2541
ในช่วงที่ผ่านมาผู้ถือหุ้นของธุรกิจที่จัดตั้งในไทยมีการเปลี่ยนแปลงมาตลอดจากเริ่มต้นที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ มาในช่วงปี 2550 ผู้ถือหุ้นใหญ่ 5 อันดับแรก คือ
1.ธนาคารไทยพาณิชย์ มีสัดส่วนการถือหุ้น 41.46%
2.บริษัททุนลดาวัลย์ จำกัด (บริษัทย่อยของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์) ถือหุ้นสัดส่วน 29.89%
3.Indochina Investments Limited ถือหุ้นสัดส่วน 3.38%
4.ธนาคารกรุงเทพ ถือหุ้นสัดส่วน 3.07%
5.นายณัฐพล จุฬางกูร ถือหุ้นสัดส่วน 1.00%
ธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันกับ 1 ใน "คริสเตียนีและนีลเส็น" เมื่อปี 2550 ด้วยสัดส่วนการถือหุ้น 41.46%
ขณะที่ล่าสุดในปี 2567 โครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปมาก โดยไม่ว่าจะเป็นธนาคารไทยพาณิชย์หรือบริษัททุนลดาวัลย์ จำกัด ไม่อยู่ในรายชื่อผู้ถือหุ้น 10 อันดับแรก
ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 คือ บริษัท โกลเบ๊กซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด สัดส่วนถึง 56.54% และผู้ถือหุ้นที่เหลือทั้งหมดไม่มีรายใดถือหุ้นสัดส่วนเกิน 10%
ในปัจจุบัน "คริสเตียนีและนีลเส็น" ยังคงประมูลรับงานก่อสร้าง โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม เช่น โครงการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ สนามบินขอนแก่นและสนามบินกระบี่เมื่อปี 2561
ปีถัดมาปี 2562 ได้ร่วมประมูลพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกในนามกลุ่ม Grand Consortium ซึ่งประกอบไปด้วย บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (แกรนด์แอสเสท) , บมจ.คริสเตียนีและนีลเส็น , ไทยแอร์เอเชีย
แต่ต้องแพ้กับกลุ่มกิจการร่วมค้า BBS ซึ่งประกอบด้วย บมจ.การบินกรุงเทพ , บมจ.บีทีเอสกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ และ บมจ.ซิโน-ไทย
ในปี 2566 มีรายได้รวม 7,297 ล้านบาท กำไรสุทธิ 29.04 ล้านบาท โดยมีการประเมินทิศทางรายได้ขยายตัวเพิ่มขึ้น เพราะมีโครงการในมือที่กำลังรับรู้รายได้ เช่น โครงการฟอเรสเทียส์
ในปี 2573 จะเป็นปีที่ "คริสเตียนีและนีลเส็น" จัดตั้งบริษัทในไทยครบ 100 ปี
....
เรียบเรียงโดย ทินกร เชาวน์ชื่น
อ้างอิง
1.รายงานประจำปี บมจ.คริสเตียนีและนีลเส็น ปี 2550 และปี 2566
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
