5 พ.ค. 2024 เวลา 02:00 • การเมือง

ความขัดแย้ง “ชัมมูและกัศมีร์” เกิดขึ้นได้อย่างไร

วันนี้เรามาฝั่งเอเชียใต้กันบ้างนะครับ:)
ความขัดแย้งและสงครามบนพื้นที่ชัมมูและกัศมีร์รัฐที่อยู่ตอนเหนือสุดของอินเดียไม่ได้มีมานานแต่พึ่งจะมาเกิดขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1940 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 นี้เองและยังคงดำเนินสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังมีตัวแสดงใหม่ ๆ ลงมาเข้าร่วมในความขัดแย้งบนพื้นที่แห่งนี้ด้วย
1
พื้นที่ของรัฐชัมมูและกัศมีร์มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนานนับตั้งแต่ในอดีต เคยเป็นดินแดนศูนย์กลางพุทธศาสนามา ก่อนที่จะหันเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลามแทน เคยอยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิต่าง ๆ มากมาย จนในท้ายที่สุดได้ตกเป็นรัฐในอารักขาของอังกฤษช่วงของการล่าอาณานิคมโดยชาติตะวันตก
ต่อมาหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 อังกฤษได้มอบเอกราชแก่อินเดียและแบ่งพื้นที่ออกเป็นอินเดียและปากีสถานตามศาสนาที่ผู้คนส่วนใหญ่ในพื้นที่นับถือ
ดูเหมือนทุกอย่างจะเรียบร้อยดีไม่มีอุปสรรคใด ๆ มาขวางกั้น เจ้าอาณานิคมอย่างอังกฤษก็ยอมมอบเอกราชให้ แถมยังมีการแบ่งพื้นที่ตามศาสนาที่ผู้คนนับถือตามเจตจำนงของผู้คนในดินแดนอาณานิคมเดิมให้อีก แต่แล้วอังกฤษก็ทิ้งปัญหาสำคัญซึ่งเปรียบเสมือนระเบิดลูกใหญ่เอาไว้
ช่วงที่อังกฤษเข้าควบคุมและปกครองดินแดนที่เป็นอินเดีย อังกฤษไม่ได้ปกครองอินเดียทั้งหมดในฐานะอาณานิคม ด้วยขนาดพื้นที่ของอินเดียที่มีขนาดใหญ่ ประกอบด้วยรัฐต่าง ๆ จำนวนมาก บางรัฐก็มีผู้ปกครองหรือมหาราชาเป็นของตนเอง พื้นที่ไหนที่ยอมรับและเข้ากับอังกฤษ อังกฤษจะปกครองในฐานะรัฐในอารักขา แต่หากดินแดนไหนไม่ยินยอม อังกฤษก็จะเข้าไปยึดครองในฐานะดินแดนอาณานิคมเต็มรูปแบบ
ภาพมหาราชารัฐต่าง ๆ
ปัญหามันอยู่ที่ว่าในตอนที่อังกฤษให้เอกราชและแบ่งดินแดนอินเดียออกเป็นอินเดียและปากีสถานนั้น อังกฤษแบ่งเฉพาะดินแดนอาณานิคมที่ตนเองปกครองโดยตรง ส่วนดินแดนรัฐในอารักขาที่มีผู้ปกครองหรือมหาราชาของพื้นที่ปกครองอยู่นั้น อังกฤษให้ผู้นำในพื้นที่ตัดสินใจเอาเองว่าจะอยู่ภายใต้อินเดียหรือปากีสถาน
รัฐที่มีปัญหามากที่สุดก็คือรัฐชัมมูและกัศมีร์ เพราะผู้คนในรัฐแห่งนี้กว่า 70% นับถือศาสนาอิสลาม ในขณะที่ผู้ปกครองหรือมหาราชาของรัฐนั้นกลับนับถือศาสนาฮินดู ความไม่เข้ากันระหว่างความเชื่อของผู้ปกครองและผู้ใต้ปกครองนี้เองที่นำไปสู่ความวุ่นวายและแตกแยกของรัฐนี้ในที่สุด
แน่นอนว่าผู้คนส่วนใหญ่ในรัฐนี้อยากให้รัฐของตนเองอยู่กับปากีสถานด้วยเหตุผลทางด้านศาสนาที่นับถือศาสนาอิสลามเหมือนกัน ในขณะที่ผู้ปกครองตอนนั้นคือ “มหาราชาหริ สิงห์” เกิดความลังเลใจด้วยกลัวจะสูญเสียสถานภาพของตนในพื้นที่ไป และอยากไปอยู่กับอินเดียมากกว่าเพราะตนเองเป็นฮินดู
ภาพมหาราชาหริ สิงห์
ท้ายที่สุดแล้วก็เกิดการกบฏขึ้นโดยการสนับสนุนของปากีสถานในการเข้ายึดครองดินแดนของรัฐ มหาราชาได้ไปขอความช่วยเหลือจากอินเดียและได้ทำหนังสือที่จะยินยอมให้ดินแดนของตนเป็นส่วนหนึ่งของอินเดีย
ภาพหนังสือยินยอมเป็นดินแดนของอินเดีย
และนี่คือจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งและสงครามที่ยังคงยืดเยื้อมาจนถึงปัจจุบันระหว่างอินเดียและปากีสถานต่อดินแดนรัฐแห่งนี้ อีกทั้งการยืดเยื้อของสงครามยังทำให้มีผู้เล่นอื่น ๆ เข้ามามีส่วนร่วมและบทบาทอีกด้วย หนึ่งในนั้นที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งคือจีน
โดยจีนได้เข้าแทรกแซงและยึดดินแดนบางส่วนของรัฐชัมมูและกัศมีร์โดยอ้างว่าดินแดนส่วนดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของทิเบตซึ่งเป็นดินแดนในการปกครองของตนเอง ในขณะเดียวกันจีนก็ดำเนินนโยบายเป็นพันธมิตรกับปากีสถานเพื่อคานอำนาจกับอินเดีย และปากีสถานได้ยกดินแดนบางส่วนของรัฐนี้ที่ตนเองควบคุมให้แก่จีนด้วยเพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่แนบแน่นของทั้ง 2 ประเทศ
จะเห็นได้ว่าสงครามและความขัดแย้งในพื้นที่แห่งนี้เพิ่งจะเกิดขึ้นมาเมื่อไม่นานนี้เองและเป็นผลพวงมาจากปัญหาที่เจ้าอาณานิคมเก่าทิ้งเอาไว้ที่สร้างบาดแผลและรอยร้าวแก่ผู้คนสองชาติทั้งอินเดียและปากีสถาน อีกทั้งยังมีตัวแปรอื่น ๆ ที่มาเข้าร่วมสร้างความขัดแย้งในพื้นที่แห่งนี้เพิ่มเข้าไปอีก และทั้งหมดนี้คือคำตอบของที่มาความขัดแย้งในพื้นที่รัฐชัมมูและกัศมีร์ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไรนั่นเองครับ
สิ่งที่ผมนำมาเล่าในวันนี้ มาจากการศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลอย่างต่อเนื่องตามความชอบความสนใจของตัวเอง ร่วมกับการคิดวิเคราะห์และแสดงความคิดเห็นออกมา อาจมีข้อมูลบางอย่างคาดเคลื่อนหรือไม่ตรงกับข้อมูลชุดอื่น ๆ ทางผู้เขียนขอแจ้งให้ทราบไว้ก่อนนะครับ
สุดท้ายนี้ขอฝากทุกคนกดไลค์ กดแชร์ กดติดตามเพจเพื่อเป็นกำลังให้กัน แล้วพบกันใหม่ในโพสต์หน้า ขอบคุณครับ:)
โฆษณา