2 พ.ค. 2024 เวลา 15:12 • ธุรกิจ
Thailand

Nudge Theory

แนวคิด Nudge ซึ่งหมายถึงการผลักเบาๆ ไปทีละน้อยเพื่อให้ไปในทิศทางที่ต้องการ เป็นที่สนใจและมีอิทธิพลต่อความคิดของผู้คน เมื่อหนังสือของ Richard Thaler และ Cass Sunstein ชื่อ Nudge : Improving Decisions about Health, Wealth, and Happiness ออกมาในปี ค.ศ. 2008
.
หน่วย Behavioral Insights Team (BIT) แห่งประเทศอังกฤษ สรุปเทคนิคหลัก 4 ข้อ ในการนา Nudge มาใช้ เรียกแบบย่อๆว่าเทคนิค “EAST” ได้แก่ ...
.
+การทำให้ง่าย (Easy) ประกอบด้วยหลัก 3 อย่าง :
.
-การทำให้ทางเลือกที่ดีที่สุดเป็นทางเลือกมาตรฐาน (make it default)
.
-การทำให้ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก (make it less hassle) และ
.
-การสื่อสารที่ชัดเจนเข้าใจง่าย (make it simple)
+การทำให้น่าดึงดูด (Attractive) ประกอบด้วยหลัก 2 อย่าง :
.
-การทำให้เกิดจุดสนใจ (make it an attention) และ
.
-การให้รางวัลหรือสิ่งตอบแทนเป็นแรงจูงใจ (make benefits for maximum effect)
+การทำให้เป็นส่วนหนึ่งของสังคม (Social) ประกอบด้วยหลัก 3 อย่าง :
-การทำให้รับรู้ว่าสังคมกาลังทาหรือต้องการอะไร (make it socially preferable)
.
-การทำให้เกิดการเผยแพร่ในเครือข่าย (make it collective action in the network) และ
.
-การสร้างข้อผูกมัด (make it commitment)
การทำให้ถูกที่ถูกเวลา (Timely) ประกอบด้วยหลัก 3 อย่าง :
.
-การกระตุ้นในช่วงเวลาที่เปิดรับมากที่สุด (make it most receptive)
.
-การทำให้สมเหตุสมผลกับการประเมินผลประโยชน์ในทันที (make it match with immediate mental accounting) และ
.
การกระตุ้นให้เกิดการวางแผนการรับมือเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย (make it response to events)
แนวคิด Nudge ถูกนำมาใช้ในการประกอบธุรกิจของภาคเอกชน โดยระยะหลังนี้ได้มีการนามาใช้ร่วมกับเทคโนโลยีด้าน Internet Of Thing (IoT) ทำให้การวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคผ่าน AI มีประสิทธิผลมากขึ้น
.
เกิดแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจที่เรียกว่า The 24/7 Nudge Economy ซึ่งเป็นการที่ผู้ผลิตหรือเจ้าของ platform สามารถใช้อุปกรณ์หรือสื่อต่างๆดังกล่าว ในการเข้าถึงและกระตุ้นผู้บริโภคได้ตลอดเวลา
เครดิต : Nudge Theory: แอบบังคับอยู่ลับหลัง
โฆษณา