3 พ.ค. เวลา 06:54 • หนังสือ

โอกาสที่จะรัก|"ลมปราณที่ไม่มีวันหวนคืน" และ "Lucky in Love"

ลมปราณที่ไม่มีวันหวนคืน และ Lucky in Love  นวนิยายสองเรื่องที่เล่าความรักในมุมมองที่ต่างกัน ผ่านตัวละครในความสัมพันธ์อันลึกซึ้งที่ไม่เหมือนกันเลย แต่กลับอาจจะมีธีมที่มองได้แบบเดียวกัน อย่าง "โอกาสที่จะรัก"
Lucky in Love เล่าเรื่องความสัมพันธ์ได้เกิดขึ้นไปแล้วผ่านมุมมองที่น่ารักของเจ้าสุนัขตัวน้อยเมื่อมันได้รับการอุปถัมภ์จากคู่รักคู่หนึ่ง แต่เบื้องหลังความสัมพันธ์ที่นักอ่านมองเข้าไปกลับล่วงรู้ว่าความสัมพันธ์มีแต่ความมืดมน ในขณะที่ 'ลมปราณที่ไม่มีวันหวนคืน' เล่าถึงเรื่องราวรักแรกก่อนมีความสัมพันธ์กันเชิงลึก รักแรกของหนุ่มชื่อปราณกับน้องคนสนิท แต่รุ่นน้องผู้นั้นกลับมีรักแรกต่อผู้อื่น รักแรกที่ลืมยากจึงเป็นตัวตั้งต้นจุดประกาย ความขัดแย้งในเรื่อง ๆ นี้
ความสัมพันธ์ของคุณกำลังมีตัวร้ายอยู่ในนั้นรึเปล่า? คุณมองเห็นตัวร้ายคนนั้นไหม สิ่งที่เราค้นพบในเรื่อง Lucky in love เป็นอะไรที่ประหลาดใจไม่ใช่น้อย นักเขียนใช้วิธีการเล่าเรื่องผ่านมุมมองของเจ้าหมาน้อยที่เติบโตไปพร้อมกับกาลเวลาในความสัมพันธ์ของคู่รัก หมาน้อยเปรียบเสมือนเด็กที่ใสซื่อบริสุทธิ์ คอยเชื่อฟังและเคารพผู้ปกครอง ถ้าหากคุณมีตัวร้ายในความสัมพันธ์แต่กลับมองไม่เห็นเขา
ก็ไม่เป็นไรเพราะลักกี้เจ้าหมาน้อยในเรื่องมองไม่เห็นเขาเช่นกัน ไม่ว่าเจ้านายของเขาจะเป็นคนนิสัยอย่างไรหรืออาจจะเคยทำร้ายใครไป คน ๆ นั้นก็จะเป็นคนที่แสนดีในสายตาลักกี้เสมอ นวนิยายเรื่องนี้เล่าความบกพร่องในความสัมพันธ์ได้อย่างตรงไปตรงมา แต่เรากลับต้องใช้สายตาของหมาน้อยบริสุทธิ์มองผ่านไปยังตัวละคร
จนบางครั้งก็เกิดความรำคาญที่ผู้อ่านไม่สามารถทำอะไรได้เลย ไม่สามารถหักห้ามหรือตักเตือนตัวละคร เป็นได้แค่เพียงผู้สังเกตการณ์อยู่นอกกรอบเท่านั้น ถึงอย่างนั้นมันก็คงจะเป็นแก่นความคิดของเรื่องราว ที่กำลังบอกว่าคนภายนอกไม่สามารถจับต้องความสัมพันธ์ของเราได้ หากแต่เราจะต้องเรียนรู้และปรับปรุงได้ด้วยตัวเอง
สายตาที่ซื่อสัตย์ของลักกี้มองออกไปด้วยความห่วงใย บนความสัมพันธ์ที่เห็นหนทางข้างได้เพียงบางครา เรื่องนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความเสพติดที่เจ็บปวดและคอยอธิบายการนิยามความรักที่บอกว่า ความรักคือความเจ็บปวดที่สวยงามได้ นอกจากนั้นความซื่อสัตย์อันเป็นแกนกลางของความสัมพันธ์เป็นส่วนผสมที่ขาดไปไม่ได้ แต่หลายคนกำลังมองข้ามรึเปล่า?  Lucky in love จึงเป็นนิยายที่สอนมุมมองความรักใหม่ ๆ กับสิ่งที่เราสัมพันธ์แต่อาจมองไม่เห็นจากตาของมนุษย์
เราต้องขอบอกไว้ก่อนว่าไม่เคยอ่านนิยายวาย หรือเรื่องที่มีคู่เอกเป็นผู้ชายสองคนจนกระทั่งมาเจอนิยายสองเล่มนี้ ฉะนั้นเราเองก็ไม่สามารถคาดเดาความขาดหวังของตัวเองได้ว่าจะได้อะไรการอ่านแนวนี้ เราต้องการลองศึกษาและอ่านหลากหลายแนวเพื่อเปิดมุมมองการอ่านของเรามากขึ้น และเมื่อเราอ่าน 'ลมปราณที่ไม่มีหวนคืน' จบ เรามองว่ามันน่าจะยังเป็นสูตรสำเร็จที่พอจะคาดเดาได้ตามฉบับนิยายแนววาย(เท่าที่เคยได้ยินมา)
เป็นนิยายที่มีความฟีลกู๊ดเป็นหลัก แต่หากมองให้ลึกก็ได้ทิ้งรอยความเป็นมนุษย์มากเหมือนกัน กับการเล่าถึงรักครั้งแรกที่ใครก็ต่างรู้ว่าลืมยาก ลมปราณที่ไม่มีวันหวนคืน จะคอยพร่ำบอกถึงความไม่แน่นอนในชีวิตรักได้เป็นอย่างดี ทั้งการจากและพบกันอีกครั้ง การก้าวผ่านความผิดหวังและการเปิดโอกาสให้กับสิ่งใหม่ในปัจจุบันและอดีตที่เราเคยพลาดมา
ถึงเนื้อเรื่องไม่ได้สร้างความประทับใจให้กลับเรามาก แต่สิ่งที่จำเป็นในการอ่านหนังสือเล่มนี้มันคือหัวใจที่ผู้อ่านจะต้องเปิดออกเพื่อรับความเข้าและความรู้สึกที่เขียนขึ้นในหน้าหนังสือ ทุกถ้อยคำที่ลิขิตเป็นดั่งจดบันทึกเหตุการณ์ที่เห็นถึงความสดใสและบริสุทธิ์ในความรัก ถึงแม้ความเศร้าที่มาเยือนจะโหดร้าย แต่ยังสามารถเยียวยาบาดแผลให้กับผู้อ่านได้คอยประทับใจในความเป็นมนุษย์ที่ต้องสู้
ความน่าเสียดายส่วนตัวอย่างหนึ่งคงจะเป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลงถิ่นที่อยู่ตัวละครเอกอย่าง ม่านหมอก จากคนเชียงใหม่ต้องไปเรียนและทำงานในเมืองหลวงอยู่พักใหญ่ อยากจะเรียนรู้ความเป็นมนุษย์ในตัวม่านหมอกเพื่อตนต้องย้ายสถานะเป็นคนบ้านนอกในเมืองกรุงให้มากกว่านี้ อย่างไรก็ตามนิยายเรื่องนำเสนอความรักเป็นหลัก และก็ทำสำเร็จด้วยน้ำเสียงของนักเขียนที่คอยทำให้เราเพลิดเพลินจนอ่านจบเล่ม
สิ่งหนึ่งเรามองเห็นจากการอ่านทั้งสองเรื่องคือ "โอกาสที่จะรัก" การทำผิดพลาดด้วยอารมณ์ก่อให้เกิดความขัดแย้งในความสัมพันธ์จึงพลาดช่วงวินาทีที่จะรักกันให้ยาวนานกว่าเดิม ในขณะที่บุคคลใกล้ตัวกลับทำได้เพียงรอให้ความรักคืนสู่ชีวิตประจำวัน ฉะนั้นโอกาสนั้นมีอยู่เสมอ แต่ความรุนแรงต่างหากที่คอยทำลายมัน
และยังมีความรักที่คอยดูแลห่วงใยเสมอ การมีรักที่เรามองจากใจตัวเอง อาจทำให้เราพลาดมองเห็นรักจากคนอื่นอยู่ก็เป็นได้ มันไม่ผิดเลยที่จะได้ลองรักหลาย ๆ แบบ และเชื่อมั่นกับความรักของตัวเอง แต่หากวันหนึ่งมองย้อนกลับไปเราจะนึกเสียดายบ้างไหม...นั่นจึงเป็นคำถามสำคัญหากเรามีโอกาสที่จะรัก...
ทั้งสองเรื่องเป็นหนังสือที่คุ้มค่ามาก ๆ ถ้าใครอยากตามไปอ่านก็ตามนี้เลย
ลมปราณที่ไม่มีวันหวนคืน>> https://somsiri.readawrite.com/?action=user_page&page_address=somsiri
โฆษณา