3 พ.ค. เวลา 08:24 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ผลประกอบการไตรมาส 1/2567: Apple/ Amazon/ Eli Lilly/ Novo Nordisk

สรุปสถานการณ์
1
  • Apple ประกาศซื้อหุ้นคืน 110,000 ล้านดอลลาร์ มูลค่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ดันราคาหุ้น +6%
  • รายได้ Amazon เติบโต 13% สูงกว่าคาด AI หนุนรายได้ Cloud เติบโตต่อเนื่อง
  • รายได้ Eli Lilly เพิ่มขึ้น 26% ปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ทั้งปีเติบโตแข็งแกร่งจากความต้องการยาเบาหวาน Mounjaro และยาลดน้ำหนัก Zepbound
  • ผลประกอบการ Novo Nordisk เติบโตแข็งแกร่ง ได้แรงหนุนจากยาลดน้ำหนัก Wegovy ที่มียอดขายเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่า​
Apple ผู้ครองอันดับ 1 ส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนปี 2566
Top 10 Holdings ของกองทุนหลัก: KFGTECH | KFHTECH | KFNDQ | KFUSINDX | KFWINDX
  • Apple ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ปีงบการเงิน 2567 สิ้นสุด 30 มีนาคม 2567 รายได้อยู่ที่ 90,753 ล้านดอลลาร์ -4.3% YoY แต่สูงกว่าคาดที่ 90,300 ล้านดอลลาร์ โดยยอดขาย iPhone ลดลง แต่ยอดขาย Mac เพิ่มขึ้น ได้แรงหนุนจาก MacBook Air รุ่นใหม่ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนมีนาคม นอกจากนี้ รายได้ส่วนบริการโดยเฉพาะใน App Store ก็เพิ่มขึ้น ขณะที่ Earning อยู่ที่ 1.53 ดอลลาร์ สูงกว่าคาดที่ 1.5 ดอลลาร์
- รายได้ iPhone อยู่ที่ 45,963 ล้านดอลลาร์ -10% YoY แต่สูงกว่าคาดที่ 45,800 ล้านดอลลาร์
- รายได้ Mac อยู่ที่ 7,451 ล้านดอลลาร์ +3.9% YoY และสูงกว่าคาดที่ 6,790 ล้านดอลลาร์
- รายได้ iPad อยู่ที่ 5,559 ล้านดอลลาร์ -16.7% YoY และต่ำกว่าคาดที่ 5,910 ล้านดอลลาร์
-รายได้สินค้าอื่นๆ เช่น หูฟัง, Apple Watch, AirPods อยู่ที่ 7,913 ล้านดอลลาร์ -9.6% YoY และ ต่ำกว่าคาดที่ 8,290 ล้านดอลลาร์
- รายได้ส่วนบริการ เช่น App Store, Apple Music, แพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง TV+, iCloud อยู่ที่ 23,867 ล้านดอลลาร์ +14.2% YoY และสูงกว่าคาดที่ 23,300 ล้านดอลลาร์
  • ตลาดสมาร์ทโฟนในจีนมีการแข่งขันมากขึ้นจากแบรนด์ของจีนเอง ส่งผลให้ยอดขาย Apple ในจีน อยู่ที่ 16,400 ล้านดอลลาร์ ลดลง 8% YoY แต่ยังคงสูงกว่าคาดที่ 15,900 ล้านดอลลาร์
  • Apple จะเปิดตัว iPad รุ่นใหม่ในสัปดาห์หน้า ซึ่งคาดว่าจะมีความต้องการสูง และกำลังวางแผนที่จะอัพเกรด iPhone ในปีนี้ด้วยหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นเล็กน้อยและใช้ชิปใหม่ที่เน้น AI โดย iPhone รุ่น Pro จะเพิ่มปุ่มใหม่สำหรับถ่ายภาพและวิดีโอ แต่ก็มีลักษณะคล้ายกับเวอร์ชันปัจจุบัน
  • Apple คาดการณ์ยอดขายไตรมาสปัจจุบันจะเพิ่มขึ้น ได้แรงหนุนจากยอดขาย iPad และส่วนบริการ
  • Apple ประกาศจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้น 4% อยู่ที่ 0.25 ดอลลาร์ต่อหุ้น พร้อมอนุมัติแผนการซื้อหุ้นคืนเพิ่มอีก 110,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นมูลค่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ส่งผลให้ราคาหุ้น After Hours ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6%
Amazon บริษัท E-Commerce รายใหญ่ของโลก
Top 10 Holdings ของกองทุนหลัก: KFGG | KFGMIL | KFGTECH | KFHTECH | KFNDQ | KFUSINDX | KFWINDX | KFUS
  • Amazon ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/2567 รายได้อยู่ที่ 143,300 ล้านดอลลาร์ +13% YoY และสูงกว่าคาดที่ 142,600 ล้านดอลลาร์ ได้แรงหนุนจาก AI ดันรายได้ Cloud หรือ AWS สูงกว่าคาด และเติบโตแข็งแกร่งที่สุดในรอบปี ขณะที่รายได้จาก E-Commerce ต่ำกว่าคาด เนื่องจากผู้บริโภคยังคงใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง สำหรับรายได้โฆษณาในไตรมาสนี้เติบโตสูง หลังเริ่มมีโฆษณาบน Prime Videoในส่วนของ Earning อยู่ที่ 0.98 ดอลลาร์ สูงกว่าคาดที่ 0.83 ดอลลาร์
- รายได้จาก E-Commerce อยู่ที่ 54,670 ล้านดอลลาร์ +7% YoY
- รายได้จาก Third-party Seller อยู่ที่ 34,596 ล้านดอลลาร์ +16% YoY
- รายได้จาก Amazon Web Services (AWS) อยู่ที่ 25,037 ล้านดอลลาร์ +17% YoY
- รายได้จากโฆษณาอยู่ที่ 11,824 ล้านดอลลาร์ +24% YoY
- รายได้จาก Subscription อยู่ที่ 10,722 ล้านดอลลาร์ +11% YoY
- รายได้จาก Physical Stores อยู่ที่ 5,202 ล้านดอลลาร์ +6% YoY
  • Amazon ยังคงให้ความสำคัญกับการควบคุมต้นทุน แต่ก็จำเป็นต้องทุ่มเงินลงทุนจำนวนมากเพื่อซื้อชิปประสิทธิภาพสูง โดยจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นในปีนี้เพื่อหนุนการเติบโตของ AWS และ Generative AI ซึ่งก็เริ่มเห็นผลแล้วว่าการลงทุนดังกล่าวช่วยเพิ่มรายได้ให้บริษัทอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้บริษัทจะมีการลงทุนกว่า 150,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อสร้าง Data Center ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
  • Amazon เห็นสัญญาณความต้องการที่แข็งแกร่งของ AWS แต่คาดการณ์รายได้ไตรมาสปัจจุบันอยู่ที่ 144,000 –149,000 ล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าคาดที่ 150,200 ล้านดอลลาร์ จากความกังวลการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่อาจจะชะลอตัว
Eli Lilly บริษัทยารายใหญ่สัญชาติอเมริกัน​
Top 10 Holdings ของกองทุนหลัก: KFHHCARE | KFHEALTH | KFHEUROP | KFUSINDX | KFWINDX
  • Eli Lilly ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/2567 รายได้ อยู่ที่ 8,770 ล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าคาดที่ 8,930 ล้านดอลลาร์ เนื่องจาก Supply ไม่เพียงพอ แต่ความต้องการมีสูงมาก และหากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว รายได้เติบโต 26% YoY จากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น 16% และราคายาที่เพิ่มขึ้น 10% โดยยารักษาโรคเบาหวาน Mounjaro และยาลดน้ำหนัก Zepbound ยังคงเป็นตัวหลักหนุนการเติบโตในไตรมาสนี้ ขณะที่ EPS อยู่ที่ 2.58 ดอลลาร์ สูงกว่าคาดที่ 2.46 ดอลลาร์
- รายได้จากยากลุ่ม New Products (ยาที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2022) เติบโต 34% YoY ได้แรงหนุนจากยา Mounjaro ที่มีสัดส่วนรายได้มากที่สุดถึง 21% และยา Zepbound ที่เพิ่งได้รับอนุมัติจาก FDA เมื่อปลายปี 2023 มีสัดส่วนรายได้ 6%
- รายได้จากยากลุ่ม Growth Products (ยาที่เปิดตัวก่อนปี 2565) เติบโต 2% YoY ได้แรงหนุนจากยารักษาโรคมะเร็งเต้านม Verzenio และยารักษาโรคเบาหวาน Jardiance
  • ทั้งยา Zepbound และ Mounjaro มีความต้องการสูงมาก แต่บริษัทยังผลิตได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการที่มี ทั้งนี้ Eli Lilly ยังคงขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะมีการผลิตเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญภายในครึ่งหลังของปีนี้ และจะช่วยแก้ปัญหา Supply ที่ไม่เพียงพอได้
  • ในส่วนของยารักษาโรคอัลไซเมอร์ Donanemab มีความล่าช้าในการได้รับอนุมัติเนื่องจาก FDA ต้องการหารือเกี่ยวกับความปลอดภัยและประสิทธิภาพของยาเพิ่มเติม ทั้งนี้บริษัทยังคงมีความมั่นใจต่อประสิทธิภาพของยาดังกล่าว
  • ราคาหุ้น Eli Lilly +6% หลังบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ทั้งปีอยู่ที่ 43,600 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์ จากยอดขายยา Mounjaro และ Zepbound แข็งแกร่ง และปรับคาดการณ์ EPS จากเดิมที่ 12.2-12.7 ดอลลาร์ต่อหุ้น เพิ่มขึ้นเป็น 13.5 - 14 ดอลลาร์ต่อหุ้น
Novo Nordisk บริษัทยารายใหญ่ในยุโรป
Top 10 Holdings ของกองทุนหลัก: KF-EUROPE | KFHEALTH | KFHEUROP | KFHHCARE
  • Novo Nordisk บริษัทยารายใหญ่ในยุโรป ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/2567 รายได้อยู่ที่ 65,349 ล้านโครนเดนมาร์ก +22% YoY ในส่วนของกำไรสุทธิอยู่ที่ 25,407 ล้านโครนเดนมาร์ก +28% YoY และสูงกว่าคาดที่ 23,700 ล้านโครนเดนมาร์ก ได้แรงหนุนจากยอดขายยาในกลุ่มโรคเบาหวานและยาลดน้ำหนักที่เติบโต 25% โดยเฉพาะยารักษาโรคเบาหวานกลุ่ม GLP-1 ที่เติบโต 30% และยาลดน้ำหนัก Wegovy ที่มียอดขายเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่า
- รายได้จากกลุ่มยารักษาโรคเบาหวานที่มีสัดส่วน 76% ของรายได้ เติบโต 22% YoY ได้แรงหนุนจากยากลุ่ม GLP-1 เติบโต 30% YoY ในส่วนของอินซูลิน เติบโต 7% YoY
- รายได้จากกลุ่มยาลดน้ำหนักที่มีสัดส่วน 17% ของรายได้ เติบโต 41% YoY ได้แรงหนุนจากยาลดน้ำหนัก Wegovy ที่ทำรายได้ 9,377 ล้านโครนเดนมาร์ก เติบโต 106% YoY
- รายได้จากกลุ่มยาโรคหายากที่มีสัดส่วน 7% ของรายได้ ลดลง 4% YoY
  • หากดูรายได้แยกเป็นรายประเทศพบว่ารายได้จากอเมริกาเหนือเพิ่มขึ้น 35% เนื่องจากยา Wegovy ใช้ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยโรคอ้วน ได้รับอนุมัติในสหรัฐฯ เมื่อไตรมาสแรก ปัจจุบันมีการสั่งซื้อยา Wegovy ถึง 130,000 รายการต่อสัปดาห์ และมีคนมาเริ่มใช้ยานี้กว่า 25,000 รายต่อสัปดาห์
  • ข้อมูลจากการทดลองยาลดน้ำหนักตัวใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นได้ช่วยให้มูลค่าของบริษัทเพิ่มขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม ล่าสุด Novo Nordisk ปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ทั้งปีจะเติบโต 19% - 27%
ที่มาของข้อมูล
  • Apple: Bloomberg, Company website | รายได้ประกาศ: 2 พ.ค. 2567 | อัปเดต: ณ 3 พ.ค. 2567
  • Amazon: Bloomberg, Company website | รายได้ประกาศ: 30 เม.ย. 2567 | อัปเดต : 2 พ.ค. 2567
  • Eli Lilly: Bloomberg, CNBC, Company website | รายได้ประกาศ: 30 เม.ย. 2567 | อัปเดต : 2 พ.ค. 2567
  • Novo Nordisk: CNBC, Company website | รายได้ประกาศและอัปเดต: 2 พ.ค. 2567
*ข้อมูล Top 10 Holdings ของกองทุนหลัก ณ มี.ค. 2567
ข้อมูลกองทุนกรุงศรี
>> ข้อมูลหุ้นทั่วโลก
>> ข้อมูลหุ้นสหรัฐ
>> ข้อมูลหุ้นยุโรป
>> ข้อมูลหุ้นเทคโนโลยี
>> ข้อมูลหุ้นกลุ่มสุขภาพ
>> ข้อมูลอื่นๆ
นโยบายการลงทุนและคำเตือน
  • KF-EUROPE/ KFHEUROP ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ Allianz Europe Equity Growth Fund (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV | ระดับความเสี่ยง 6 – เสี่ยงสูง
  • KFHEALTH/ KFHHCARE ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ JPMorgan Funds - Global Healthcare Fund (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV | ระดับความเสี่ยง 7 – เสี่ยงสูง
  • KFGG ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ Baillie Gifford Worldwide Long Term Global Growth Fund, Class B USD Acc (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV | ระดับความเสี่ยง 6 – เสี่ยงสูง
  • KFGMIL ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ Goldman Sachs Global Millennials Equity Portfolio, Class I Shares (Acc.) (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV | ระดับความเสี่ยง 6 – เสี่ยงสูง
  • KFGTECH ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ T. Rowe Price Funds SICAV – Global Technology Equity Fund (Class Q) (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV | ระดับความเสี่ยง 7 – เสี่ยงสูง
  • KFHTECH ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ BGF World Technology Fund (Class D2 USD) (กองทุนหลัก) | ระดับความเสี่ยง 7 – เสี่ยงสูง
  • KFNDQ ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ Invesco NASDAQ 100 ETF (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV | ระดับความเสี่ยง 6 – เสี่ยงสูง
  • KFUS ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ Baillie Gifford Worldwide US Equity Growth Fund (กองทุนหลัก) | ระดับความเสี่ยง 6 – เสี่ยงสูง
  • KFUSINDX ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ iShares Core S&P 500 ETF (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV โดยกองทุนหลักเน้นลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี S&P 500 Index | ระดับความเสี่ยง 6 - เสี่ยงสูง
  • KFWINDX ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ iShares MSCI ACWI ETF (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV | ระดับความเสี่ยง 6 – เสี่ยงสูง
  • KFGTECH/ KFHEALTH/ KFHHCARE ลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนทำการลงทุน
  • KFHEUROP, KFHHCARE, KFGG, KFGMIL, KFHTECH และ KFUSINDX ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน
  • KF-EUROPE, KFEURORMF, KFHEALTH, KFGTECH, KFNDQ, KFUS และ KFWINDX ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
  • เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
สามารถขอรับข้อมูลหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ.กรุงศรี โทร. 02-657-5757
หรือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ตัวแทนสนับสนุนการขาย/ เจ้าหน้าที่ขายหน่วยลงทุน
ติดตามกองทุนกรุงศรี อัปเดตข่าวสาร และกิจกรรมต่างๆ ได้ที่
#กองทุนกรุงศรี #NewsUpdate
โฆษณา