3 พ.ค. เวลา 13:32 • ยานยนต์
เอาเป็นว่า
รถแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อ
made and model ที่ต่างกันไปจะมีระบบแยกย่อยให้พิจารณาไปตามกรณีๆไป
ผมขอมองแบบนี้
• ในกรณีทั่วไป
การกินน้ำมันของเครื่องยนต์จะขึ้นอยู่กับ loads หรือ ภาระที่เครื่องแบกรับ
- ถ้าเป็น N
เครื่องจะถูกตัดขาดจาก gearbox โดยเด็ดขาด ดังนั้นเครื่องจะไม่ต้องสูญเสียกำลังไปขับชุดเกียร์ใดๆ
เป็นผลให้ประหยัดน้ำมันมากกว่า
ในทางตรงกันข้าม
- ถ้าเป็น D
ถึงแม้รถจะจอดสนิท แต่ถ้าติดเครื่องอยู่
เครื่องยนต์ยัง "ต่อ" อยู่กับ gearbox และยังต้องขับเคลื่อนชุดเกียร์ต่อไป
นั่นคือ ทันทีที่เรายกเท้าออกจากแป้นเบรค รถก็พร้อมจะเคลื่อนไปข้างหน้า ไม่ต่างจากการที่เราเข้า R ค้างไว้
ด้วยเหตุนี้
เครื่องยนต์จะรับภาระขับชุดเกียร์อยู่ตลอดเวลา เป็นผลให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่า
- ถ้าเป็น P
อันนี้ผมเข้าใจว่า เราเข้า P ตอนสาร์ทรถ และก่อนดับเครื่อง
P จะทำการ lock เกียร์เอาไว้ ส่วนมันจะกินน้ำมันมากน้อยแค่ไหน
ผมไม่แน่ใจ แต่ผมคาดว่า N น่าจะประหยัดน้ำมันที่สุด
• ข้อคิดสำหรับการประหยัดน้ำมัน
- รถบางรุ่นจะตัดการทำงานของบางกระบอกสูบออก ในขณะรถจอดนิ่งๆ
เช่น รถมีหกกระบอกสูบ แต่ตอนจอดติดไฟแดง จะใช้อยู่แค่สามกระบอกสูบ
พอรถจะออกตัว ก็กลับมาใช้ทั้งหกสูบอีก
- ลองสอบถามจากทางศูนย์ดูนะครับว่า
ระหว่างระบบเกียร์แบบเดิมที่มีเฟืองขบกัน กับ ระบบเกียร์แบบปัจจุบันที่มีชื่อว่า CVT
แบบไหนจะประหยัดน้ำมันมากกว่ากัน
- รถขับเคลื่อนสี่ล้อ ย่อมกินน้ำมันมากกว่า รถขับเคลื่อนสองล้อ
ดังนั้น
ถ้าต้องการประหยัดน้ำมัน ควรปรับโหมดการขับ จากสี่ล้อมาเป็นสองล้อ
โฆษณา