5 พ.ค. เวลา 03:36 • ความคิดเห็น
ถ้าตอนวัยเรียน (ชีวิตยังไม่ผ่านอะไรมามากมาย) ส่วนใหญ่ก็ข้อ 1 ครับ
แต่เมื่อชีวิตเริ่มตกผลึก เข้าใจชีวิตมากขึ้น ส่วนใหญ่จะเอนมาข้อ 2 ครับ
อันนี้อยากให้ลองคิดเล่นๆตาม (ผมอาจคิดผิดก็ได้ครับ)
ผมคบกับแฟนมา 16 ปี ตอนนี้ผมอายุ 34 (ซึ่งก็คือวันที่ผมคบกันวันแรกคือ ผม ม.6 แฟน ม.4)
แรกๆก็เหมือนช่วงโปรโมชั่นอ่านะ รักกันดี ผมก็มองว่าเขาน่ารัก แต่นิสัยทั้งหมดผมยังไม่รู้อย่างลึกซึ้งแน่นอน
นั่นก็คือข้อ 1 ครับ แต่พอเวลาผ่านไปนานวัน นิสัยแท้จริงของกันและกันเริ่มเปิดเผยทำให้รู้เลยว่า ถ้าฝ่ายหนึ่งไม่
เปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อปรับเข้าหากัน จักต้องเลิกกันแน่ๆ และลักษณะของคู่ผมคือ ฝั่งหนึ่งต้องเปลี่ยนมากกว่า
อีกฝั่งค่อนข้างเยอะด้วย เพราะด้วยความต่างกันเกินไป ซึ่งสุดท้ายก็เป็นผมที่เปลี่ยนตัวเองจากหน้ามือ เป็นคนใหม่
ให้ แต่ถึงมากกว่ายังไง แฟนผมก็พยายามปรับตัวเองเช่นกัน
ผมที่เปลี่ยนแปลงได้ (มองลึกๆเหมือนอาจสละความสุขตัวเองออก ความเป็นตัวตนแทบทั้งหมด) แต่ผมทำได้
เพราะผมเลิกยึดติดกับชีวิต เลิกยึดมั่นถือมั่น ว่าสิ่งนี้คือความสุข ชีวิตต้องเป็นแบบนี้ แบบนั้น ถึงเป็นความสุข
พูดแบบสั้นที่สุดคือ "ปล่อยวาง" ครับ
ผมอาจเล่าเรื่องซะยาวก็จริง แต่จากในเนื้อเรื่องนี้ของชีวิตผม มันมีคำตอบแฝงอยู่นะครับ
นั่นก็คือ ข้อ 2 ครับ
ถ้าโลกนี้คนเลือกข้อ 1 กันเกือบทั้งโลก
ก็คงจะมีการเลิกกัน คบชู้กัน แอบมีคนอื่นกัน มากขึ้นแน่นอนครับ
หลายคนรวมถึงผมมีคำพูดที่ว่า "ยิ่งอายุมากขึ้น สเปคเรื่องหน้าตาจะลดลง (ย้ำว่าลดลง ไม่ใช่ไม่เหลือเลย)" ครับ
โฆษณา