6 พ.ค. เวลา 13:42 • ท่องเที่ยว
Beppu "Jigoku Meguri" Hells Tour

ทัวร์นรก ที่เบปปุ

ขั้นตอน
  • ​ซื้อตั๋ว One day pass สำหรับขึ้นรถบัสไปบ่อนรก หรือจะไม่ซื้อก็ได้ (ซื้อจะคุ้มกว่า ค่ารถบัสไป 1 รอบ ราวๆ 430 เยน - 460 เยน และถ้าหากนั่งรถบัสจาก Kannawa ไปกลับ Chinoike Jigoku-mae เที่ยวละ 220 เยน)
  • ​ซื้อตั๋วเข้าชมบ่อนรกได้ที่ทางเข้าแต่ละบ่อ ทุกบ่อจะขายตั๋วทั้งแบบเฉพาะบ่อนี้และเหมา 7 บ่อ (เริ่มที่บ่อไหนก่อนก็ได้)
เอกลักษณ์ของเมืองเบปปุ เดาได้จากสัญลักษณ์ป้ายหน้าสถานี เรานึกถึงหม้อ Hot Pot แหะ
หน้าสถานีเบปปุด้าน West exit
ด้านหน้าสถานีมีรูปปั้นคุณลุง Kumahachi Aburaya ผู้ที่ริเริ่มทำให้เบปปุกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว ไม่ไกลจากรูปปั้นคุณลุง มีโดมน้ำพุร้อนให้เราสามารถเอามือไปแช่ได้
1.รูปปั้น Shiny uncle (Kumahachi Aburaya)/2.โดมน้ำพุร้อน
เนื่องจากเราพักใกล้กับสถานีรถไฟเบปปุ จริงๆ จากสถานีเบปปุมีรถบัสไปถึงพื้นที่ของบ่อนรก แต่เราไม่รู้
ตอนเช้าเลยเข้าไปถามข้อมูลที่ Kamenoi Kitahama Bus Terminal (อยู่ถัดจาก Oita Kotsu Beppu Kitahama Bus Stop ตอนแรกเรามาที่นี่ เจ้าหน้าที่ชี้บอกให้มาตึกสูงสีส้มอยู่ถัดไปไม่ไกล)
ที่ Kamenoi Kitahama Bus Terminal เป็นเหมือน Tourism information ในตอนแรกคิดว่าต้องซื้อบัตรเข้าชมบ่อนรกที่นี่ แต่เจ้าหน้าที่เพียงแต่แนะนำ Bus one day pass ให้ เพราะว่าเราจะต้องไปซื้อตั๋วเข้าชมบ่อนรกที่หน้าทางเข้าบ่อเอง
คนพื้นที่เรียกการไปชมบ่อนรกว่า Hells tour นี่คือทัวร์นรกก็ว่าได้ 555
Kemanoi Kitahama Bus Terminal
ราคา Bus one day pass
  • ​ผู้ใหญ่ 1100 เยน นักเรียน 900 เยน เด็กเล็ก 550 เยน
เราตกลงซื้อ Bus one day pass (ของเบปปุเรียกว่า Unlimited ride ticket for one day)เจ้าหน้าที่ก็หยิบตั๋วที่ระบุวันใช้ไว้แล้วมาให้ (หน้าตาตั๋วคล้ายๆ กับ Fukuoka Tourist City Pass) พร้อมทั้งแผนที่และเส้นทางรถวิ่งมาให้ เข้าใจง่ายดี)
หน้าตาตั๋ว Bus one day
จากแผนที่จะเห็นว่าบ่อนรกมีอยู่ 2 ที่ด้วยกัน คือ 5 บ่อจะอยู่ระหว่าง Kannawa กับ Umi Jigoku Mae (สามารถเดินเท้าถึงกันได้)
และ 2 บ่อจะอยู่ที่ Chinoike Jigoku-mae ห่างจาก Kannawa ไปประมาณ 2.8 กิโลเมตร (ขึ้นรถบัส ที่ป้าย Kannawa 2 bus stop ฝั่งอู่รถบัสจอด หรือสามารถเดินไปได้ เราเห็นมีคนเดินไปบ้าง)
รถบัสที่ผ่าน Kannawa สาย 5 7 41 ระยะทางสั้นที่สุดจากสถานีรถไฟเบปปุ นอกจากนี้ยังมีรถบัสสาย 16 16 A 24 26 26A 29 และ 41
เนื่องจากจุดขึ้นรถบัสที่ใกล้เรา คือ Beppu Kitahama 1 มีรถบัสสาย 26 และ 26A วิ่งผ่าน เจ้าหน้าที่จึงบอกเราให้มาขึ้นที่ป้ายนี้
ช่วงที่มาเที่ยวเป็นช่วง Golden week ที่ญี่ปุ่น แต่ไม่เจอคนแน่นๆ บนรถ
บนรถบัสสาย 26
รถบัสสุดสายที่ Kannawa จะเห็นรถบัสหลายสายจอดเรียงราย
ป้ายสุดท้ายของรถบัสที่ Kannawa
เดินๆ ไปจะเห็น ควันสีขาวลอยขึ้นมาจากตะแกรงท่อระบายน้ำ
จากต้นซอยเดินไปเรื่อยๆ จะเจอทางเข้าบ่อ Shiraike Jigoku >> Oniyama Jigoku >> Kamado Jigoku >> Oniishibouzu Jigoku >> Umi Jigoku ด้วยความไม่รู้ เราเดินไปไกล และบ่อแรกที่เราเข้าคือ Umi Jigoku
ทางเดินเข้าซอยจากจุดจอดรถบัส
ทางเข้าบ่อ Shiraikei Jigoku บ่อแรกจากซอยทางเข้า
ทางเข้าบ่อ Shiraike Jigoku
1.Shiraike Jigoku บ่อนรกสีขาว
Shiraike Jigoku(บ่อนรกสีขาว)
บ่อน้ำพุร้อนนี้มีสีขาวเหมือนน้ำนม น้ำในบ่อมีส่วนประกอบของเกลือบอเรต ความร้อนของน้ำพุร้อนแห่งนี้ถูกใช้เพื่อเลี้ยงปลาเขตร้อนหลากหลายขนาดของสวนแห่งนี้ อุณหภูมิของน้ำพุร้อนสูง 95 องศาเซลเซียส
ที่บ่อนี้นอกจากชมบ่อน้ำพุร้อนแล้ว ยังมีส่วนจัดแสดงพันธ์ุปลาด้วย
ทางเข้าอาคารจัดแสดงพันธ์ุปลา
2.Oniyama Jigoku บ่อนรกปีศาจภูเขา
Oniyama Jigoku
ชื่อของบ่อนี้ได้รับมาจากชื่อของสถานที่ นอกจากนี้บ่อนี้ยังเป็นที่รู้จักในอีกชื่อว่าบ่อจรเข้ ในปี 1923 พื้นที่นี้ได้กลายมาเป็นบ้านของจรเข้ โดยใช้ความร้อนของน้ำพุร้อนปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม ณ ปัจจุบัน มีจรเข้อาศัยอยู่ที่นี่ราวๆ 80 ตัว อุณหภูมิของบ่อน้ำพุร้อนนี้สูงถึง 99.1 องศาเซลเซียส บ่อนี้เป็นบ่อที่แรงดันปะทุรุนแรงมาก 555
ที่นี่ยังมีส่วนจัดแสดงข้อมูลเกี่ยวกับจรเข้อีกด้วย และยังมีร้านขายสินค้าเล็กๆ อยู่ด้านใน
ส่วนจัดแสดงข้อมูลเกี่ยวกับจรเข้
มีส่วนที่เป็นบ่ออาศัยของจรเข้จริงๆ อยู่ด้วย
บ่อจรเข้
3.Kamado Jigoku เตาหลอมนรก
ทางเข้า Kamado Jigoku
ที่นี่มีหลายบ่อ และสีของน้ำแต่ละบ่อก็แตกต่างกัน
ที่มาของชื่อน้ำพุแห่งนี้เหมือนจะเกี่ยวข้องกับการหุงข้าวด้วยไอน้ำพุร้อน Jigoku ในเทศกาลของศาลเจ้าชินโต Kamado ที่บ่อนี้จะพ่นน้ำอุณหภูมิสูงและพุก๊าซที่รุนแรง อุณหภูมิของน้ำพุร้อนที่นี่สูง 90 องศาเซลเซียส
ที่นี่ยังคึกคักไปด้วยร้านที่ขาย Jigoku Mushi อาหารที่นึ่งด้วยไอน้ำพุร้อน Soft cream และอื่นๆ
ที่ Kamado Jigoku เป็นอีก 1 สถานที่ที่มีบ่อสำหรับแช่เท้าเพื่อผ่อนคลาย โดยไม่มีค่าใช้จ่าย (แต่เราไม่เห็นแหะสำหรับบ่อนี้)
ร้านขายจิโกคุมุชิ อาหารที่นึ่งด้วยไอน้ำพุร้อน
4.Oniishi Bozu Jigoku บ่อโคลน
ที่นี่จะมีบ่อย่อยๆ อีก 2 บ่อ
บ่อโคลน
ในอีกชื่อหนึ่งของบ่อนี้คือบ่อนรกหัวพระ (Hell of the monk's head) เนื่องจากลักษณะโคลนหนืดที่ปุดๆ ขึ้นมามีลักษณะคล้ายกับศรีษะที่ถูกโกนผม หรือหัวของพระนั่นเอง อุณหภูมิของบ่อโคลนนี้สูงถึง 99 องศาเซลเซียส
ที่นี่ยังมีบ่อแช่เท้าเพื่อผ่อนคลาย
5.Umi Jigoku บ่อทะเลนรก
อันที่จริง บ่อนี้เป็นบ่อแรกที่เราเข้า ด้านหน้าเป็นเคาน์เตอร์ขายตั๋ว (ด้านหน้าทุกบ่อจะมีจุดขายตั๋ว) โดยเราสามารถเลือกได้ว่าจะซื้อตั๋วเฉพาะบ่อนี้บ่อเดียว หรือซื้อตั๋วที่สามารถเข้าชมได้ทั้ง 7 บ่อ ราคาตั๋วเข้าชมทั้ง 7 บ่อ อยู่ที่ 2200 เยน (ข้อมูล ณ วันที่ 2 พฤษภาคม 2567)
ด้านหน้าทางเข้า Umi Jigoku
เจ้าหน้าที่ก็จะให้ตั๋วเข้าบ่อ แผ่นพับไกด์แนะนำข้อมูลแต่ละบ่อ และแผ่นล่าตราประทับ เราชอบไอเดียนี้ มันสนุกแหะ เหมือนได้เข้าชมบ่อน้ำพุร้อนพร้อมล่าตราประทับไปด้วย
ตั๋ว แผ่นพับและแผ่นล่าตราประทับ
เราซื้อแบบเข้าชมได้ทั้ง 7 บ่อ ก็จะได้ตั๋วแบบสมุดฉีกมา ก่อนจะเข้าแต่ละบ่อ จะต้องฉีกส่วนที่เป็นภาษาญี่ปุ่นพื้นขาว จะมีรอยปรุฉีกได้สะดวก แล้วหย่อนลงในกล่อง และเราก็จะเหลือสมุดตั๋วนี้ไว้เป็นที่ระลึกได้ด้วย
อันนี้ก่อนเข้าบ่อโคลน
ก่อนทางเข้า Umi Jigoku จะมีจุดประทับตรา บางบ่อจะต้องเดินเข้าไปก่อนแต่ทุกบ่อจะมีจุดให้ประทับตราล่าตราประทับสนุกสนาน 555
จุดประทับตรามีทุกบ่อ
และจะผ่านร้านขายสินค้าของฝาก ที่ระลึก มีขนม พวงกุญแจ และอื่นๆ ให้เลือกไม่น้อย
ออกจากร้านค้ามาก็จะพบกับบ่อน้ำสีสวยงาม ในความเห็นเราบ่อนี้สวยสุด
Umi Jigoku
สระน้ำนี้เกิดขึ้นเมื่อ 1200 ปีที่แล้วจากการปะทุของภูเขาไฟ Tsurumi สีของน้ำในสระดูเหมือนน้ำทะเลที่ให้ความสดชื่น แต่อุณหภูมิของน้ำในสระนี้สูง 98 องศาเซลเซียสเลยล่ะ
ที่นี่เป็นอีกบ่อที่มีจุดให้แช่เท้าเพื่อผ่อนคลาย
เหลืออีก 2 บ่อ ซึ่งเราจะต้องขึ้นรถบัสไปยัง Chinoike Jigoku-mae (หรือจะเดินก็ได้)
เดินมาขึ้นรถที่ป้าย 2 Bus Terminal ( Touris Information) รอรถบัสสาย 16 16A และ 29 โดยตารางเวลาสามารถดูได้ที่ป้ายด้านหน้า
รถบัสจะมาส่งที่จุดนี้ ถึงแล้ว Chinoike Jigoku-mae ให้ข้ามถนนมาฝั่งตรงข้ามที่รถบัสจอด
ด้านหน้าจะมีป้ายบอกทางไป บ่อ Chinoike Jigoku และ Tatsumaki Jigoku
ทางเข้าไปยังบ่อ Chinoike Jigoku
6.Chinoike Jigoku บ่อเลือด
บ่อนี้เป็นบ่อที่เราอยากมาเยือนให้ได้สักครั้ง
บ่อเลือดร้อน 555
เนื่องจากดินเหนียวในบ่อเป็นสีแดงรวมกับพุก๊าซจึงทำให้น้ำในบ่อมีสีแดงเสมือนเลือด เป็นบ่อน้ำธรรมชาติที่เก่าแก่ ในญี่ปุ่นเรียกบ่อนี้อีกอย่างว่า Akayusen หรือน้ำพุร้อนสีแดง อุณหภูมิของน้ำในบ่อสูง 78 องศา
ที่นี่เป็นอีกบ่อที่มีจุดแช่เท้าเพื่อผ่อนคลาย
เดินออกมายังป้ายบอกทางไปบ่อ Tatsumaki แล้วเดินไปทางที่ลูกศรชี้ จะเจอทางเข้า
7.Tatsumaki Jigoku บ่อนรกทอร์นาโด
ที่นี่เป็นน้ำพุร้อนไกเซอร์ (น้ำพุร้อนที่พุ่งขึ้นจากใต้ดินเป็นช่วงๆ) ถ้ามาถึงหลังจากที่น้ำพุร้อนพุ่งขึ้นมาแล้ว ต้องใช้เวลารอไปอีกราวๆ 30 นาที จึงจะได้เห็นน้ำพุร้อนพุ่งขึ้นมาอีกครั้ง
ที่นี่จะมีที่นั่งจัดเตรียมไว้ให้นักท่องเที่ยวนั่งรอ ดูเหมือนเป็นอัฒจันทร์ รอบแรกที่เราเดินเข้ามา โบ๊ะบ๊ะมาก เดินเฉิดฉายเข้ามาเดี่ยวๆ มองหาบ่อน้ำพุร้อน คนเยอะแยะมากมายนั่งกันเต็ม ลดหลั่นเป็นชั้น มีความสงสัยในหัวว่า เขานั่งทำอะไรกัน
หันไปมองบ่อหิน มีน้ำพุผุดขึ้นมา เกิดเสียงฮือฮาของนักท่องเที่ยวในที่นั้น รู้ได้ทันทีว่าต้องรีบหลบทีน 555
น้ำพุไกเซอร์ที่นี่มีช่วงระยะเวลาสั้นในการปะทุผุดขึ้นมาจากใต้ดิน เป็นน้ำพุร้อนที่พ่นน้ำร้อนและพุก๊าซออกมาเป็นระยะๆ น้ำพุไกเซอร์ที่มีชื่อเสียงอยู่ในสหรัฐอเมริกา อุทยานแห่งชาติ Yellowstone ซึ่งใช้เวลาในการปะทุราวๆ 50 - 100 นาที
จบทริปทัวร์ 7 บ่อนรก ทุกบ่อจะมีกล่องให้หย่อนแผ่นเก็บตราประทับ เมื่อเราประทับตราได้ครบทุกบ่อแล้ว หรือจะเก็บไว้เป็นที่ระลึกก็ได้ ส่วนเราไม่ได้หย่อนเนื่องจากเก็บไม่ครบ ลืมประทับตราจากบ่อ Shiraike
ไอน้ำพุร้อนที่พวยพุ่ง ดูเป็นสิ่งปกติของเบปปุ
โฆษณา