"The Forest of Love" 2019
กลุ่มวัยรุ่นที่มีความฝันอยากเป็นผู้กำกับ
แต่ดันเข้าไปพัวพันกับนักต้มตุ๋นสุดอันตราย
จนทำให้ทุกอย่างด่ำดิ่งลงเหวชนิดกู่ไม่กลับ
"The Forest of Love" 2019
เสียงเพรียกในป่ามืด ภาพยนตร์อาชญากรรม ระทึกขวัญ สุดคัลท์ ผลงานกำกับจาก Sion Sono ผู้กำกับเจ้าของผลงานคอลเลคชั่นสุดวิปริตอย่าง Suicide Club (2001), Cold Fish (2010), Himizu (2011) และอีกมากมาย ที่คราวนี้ได้ทุนสร้างจาก Netflix แล้วเฮียแกก็เหมือนเอาทุนมาสนอง need ตัวเองแบบจัดเต็ม ไม่สนเหตุผลตรรกะห่าเหวใดๆทั้งสิ้น หนังที่โคตรบ้าและเพี้ยนแบบนี้ สะท้อนให้เห็นลายเซ็นของเฮียโซโนะได้อย่างชัดเจน
เรื่องราวของกลุ่มเด็กวัยรุ่น 3 คน ชิน (Shinnosuke Mitsushima) เจย์ (Young Dais) และฟุคามิ (Dai Hasegawa) ที่มีความฝันในการเป็นผู้กำกับและต้องการที่จะชนะรางวัลประกวดภาพยนตร์อินดี้พวกเขาจึงตัดสินใจทำหนังขึ้นมาโดยอ้างอิงจากฆาตรกรต่อเนื่องในคราบของนักต้มตุ๋นที่ตำรวจตามจับอย่าง มุราตะ โจ (Kippei Shîna) หนุ่มใหญ่วัยกลางคนที่มีสาริกาลิ้นทอง พูดอะไรก็หลอกให้คนเชื่อและทำตามได้ไม่ยาก
และด้วยสเน่ห์ที่แสนร้อนแรงของมุราตะ ทำให้ทาเอโกะ (Kyoko Hinami) และ มิตสึโกะ (Eri Kamataki) สองสาวอดีตเพื่อนร่วมชั้นก็หลงกลเข้ามาพัวพันในการถ่ายหนังสุดเพี้ยนในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน ก่อนที่ทุกอย่างจะค่อยๆถลำลึกลงไปเรื่อย จนยากที่จะหวนกลับคืน
"ชิออน โซโนะ ได้ทำลายคืนวันหยุดสุดหรรษาของคุณเป็นที่เรียบร้อยแล้ว" ประโยคนี้ดังขึ้นมาในหัว ในคืนที่กำลังหาหนังดูและไม่รู้จะดูเรื่องอะไร จนกระทั่งเลื่อนมาเจอ The Forest of Love ที่เคยกดบันทึกไว้ ส่วนตัวแล้วชื่นชอบการแสดงของเฮียคิปเปอยู่แล้ว พอเห็นหน้าปกเรื่องก็เลยกดดูอย่างไม่ลังเล จนพอหนังผ่านไปได้ไม่กี่นาทีจึงได้รู้ว่า... นี่มันคือหนังของ ชิออน โซโนะ ผู้กำกับที่ขึ่นชื่อเรื่องความวิปริตผิดเพี้ยนและรุนแรงเบอร์ต้นของญี่ปุ่น!!
ตลอดระยะเวลา 2 ชั่วโมงครึ่งมันเต็มไปด้วยความบ้า ยำกันมั่ว นัวกันคลั่ง! แม่งโคตรจะบ้าดีเดือด แม้ว่าส่วนตัวจะได้ยินชื่อเสียงของผู้กำกับคนนี้มานานและเคยดูผ่านๆมาบ้าง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้นั่งชมแบบตั้งใจจริง และก็พบว่าสมคำร่ำลือ ทั้งบ้า ทั้งเพี้ยน โรคจิต วิปริตแบบขั้นสุด ทุกการกระทำของตัวละครไม่มีตรรกะหรือเหตุผลใดๆทั้งสิ้น นอกจากพาคนดูด่ำดิ่งไปสู่ความมืดมิดจนต้องอุทานว่า WTF แทบตลอดทั้งเรื่อง
และที่น่าสนใจก็คือ งานของโซโนะมักจะเป็นหนังคัลท์ที่เต็มไปด้วยความรุนแรง ทั้งเรื่องเซ็กส์ ฉากอ้วกชวนแหวะที่โคตรจะสมจริง แต่ทั้งหมดนี้มันกลับแฝงไปด้วยสเน่ห์ ราวกับเรากำลังนั่งท่องไปในโลกศิลปะ Surrealism ทำให้แม้จะรู้สึกแหวะและกระอักกระอ่วนไปตลอดทั้งเรื่อง แต่ก็ไม่สามารถที่จะหยุดดูต่อได้ ด้วยความอยากรู้ว่าเรื่องราวสุดวิบัตินี้มันจะไปจบลงยังไง และเฮียโซโนะก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ!
ต้องบอกเลยว่าแม้ในช่วงต้นเรื่องเฮียโซโนะแกจะพยายามยัดตัวละครมามากมาย ซึ่งแต่ละคนก็ไม่ได้มีที่มาอะไร โผล่มาดื้อๆแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย จะมีก็สองนักแสดงหญิงหลักที่รับบทเป็น มิตสึโกะและทาเอโกะ ที่มีพอจะมีแฟลชแบ็คเท้าความในอดีตอยู่บ้าง ว่าสมัยเรียนพวกหล่อนเคยพยายามจะทำละครเวที โรมิโอกับจูเลียต จนเป็นเหตุให้เกิดความสูญเสียที่เป็นแผลติดตัวครั้งใหญ่ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญอะไร เพราะทุกตัวละครก็แม่งโคตรจะเพี้ยนกันอยู่แล้ว
แต่ทีเด็ดของเฮียโซโนะก็คือการที่แกลากหนังที่ยาวเกือบ 3 ชั่วโมง ด้วยพล็อตเรื่องสุดแปลกแบบนี้มาจนจบได้โดยไม่รู้สึกเบื่อหรือง่วงเลย ก็ถือว่ามันตอบโจทย์แล้วสำหรับคนทำหนัง แม้ส่วนตัวจะไม่ใช่คอหนังสายคัลท์หรือสยองขวัญรุนแรงๆ ก็ยังสามารถดูเรื่องนี้จนจบได้โดยที่รู้สึกสนุกและลุ้นไปกับหนังได้ตลอดเวลา
แต่ฉากเลือด ฉากศพ พวกนี้ เฮียแม่งก็ทำเหมือนจริงเกิน ขนาดหรี่ตาดูภาพยังติดตาชวนหลอนจนถึงเช้า ใครที่ขวัญอ่อน ขี้กลัว ไม่ขอแนะนำอย่างแรง... ไม่สิ! หนังของ ชิออน โซโนะ คนปกติทั่วไปก็ไม่ควรดูอยู่แล้ว เพราะมันคือศูนย์รวมของความบ้าและความเพี้ยน
ถ้ามองในภาพรวมของหนัง ถึงแม้ว่าความคิดของตัวละครแต่ละตัวจะโคตรจิตป่วย แต่ทุกอย่างกลับถูกจัดวางองค์ประกอบไว้อย่างดี ทั้งงานภาพงานเสียง ซาวด์ประกอบที่ดูไหลลื่น จนทำให้เพลินไปกับความบ้าของหนังโดยไม่รู้สึกว่าเกินจริงแต่อย่างใด จนทำให้เผลอตั้งคำถามว่ามันจะมีเหรอวะ? คนที่แม่งเพี้ยนขนาดนี้ และหนังเรื่องนี้ก็ดันได้แรงบันดาลใจจากเหตุฆาตกรรมต่อเนื่องในคิวชูที่เกิดขึ้นจริงๆเสียด้วย
ถ้าจะให้พูดความรู้สึกหลังดูจบ ก็แทบจะอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้เลย นอกจำคว่า F*ck รัวๆ มันบ้ามากๆ แต่ก็รู้สึกชอบมากๆเช่นกัน ผู้กำกับชิออน โซโนะ เข้าไปล้วงความวิปริตโรคจิตวิปลาสในด้านมืดของมนุษย์และถ่ายทอดออกมาให้มันเป็นศิลปะที่ดูเผินๆอาจจะซับซ้อนแต่ดันย่อยง่าย ไม่มีอะไรจะสุดยอดไปกว่านี้อีกแล้ว
The Forest of Love หรือในชื่อไทย 'เสียงเพรียกในป่ามืด' ยังมีเวอร์ชั่น Deep Cut ที่เป็นลิมิเต็ดซีรี่ส์อีก 7 ตอน สามารถรับชมได้ทาง Netflix แต่แน่นอนว่าผลงานสุดคัลท์แนวนี้ ใครที่ชอบก็ชอบไปเลย ใครที่เกลียดก็โคตรเกลียดไปเลย แต่ถึงยังไงก็อยากจะเชื้อเชิญให้คุณลองพิสูจน์ด้วยตาตัวเองดูสักครั้ง ไม่แน่คุณอาจจะได้พบโลกใหม่แบบที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน และแน่นอนว่า ชิออน โซโนะ ทำถึง!
ปล.มุมกล้องแสงสีเสียง การแสดงของแต่ละคน และภาพรวมของหนังขอให้คะแนนส่วนตัวไปที่ 7.5/10 ก่อนแล้วกัน แต่ถ้าเรื่องของความคิดสร้างสรรค์และไอเดียสุดแปลกให้ไปเลยเต็ม 10 เดี๋ยวที่เหลือไว้ขอไปไล่เก็บเรื่องอื่นๆในลิสต์ให้ครบหมดก่อน แล้วจะมาไล่เรียงลำดับคะแนนของหนังแกใหม่
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
