Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ThaiHypnosis
•
ติดตาม
6 พ.ค. 2024 เวลา 03:51 • สุขภาพ
อธิบายการสะกดจิตผ่านเรื่องของคลื่นสมอง
หลายคนมักเข้าใจผิดว่าการสะกดจิต (Hypnosis) คือการทำให้จิตใจหลุดเข้าสู่ภวังค์ลึกลับ แต่แท้จริงแล้ว สิ่งที่ผู้ถูกสะกดจิตกำลังสัมผัสคือคลื่นสมอง “อัลฟา” และ “เธต้า” ซึ่งเป็นสถานะที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติของสมองมนุษย์เมื่อการทำงานทางไฟฟ้าถูกชะลอตัวลง
ดังนั้นการสะกดจิตจึงไม่ใช่การเข้าสู่สถานะทางจิต หากแต่เป็นกระบวนการสื่อสารอันทรงพลังที่มีจุดประสงค์ 3 ประการ ได้แก่
1.
ชะลอคลื่นสมองให้เข้าสู่ระดับอัลฟาและเธต้าด้วยการแนะนำให้ร่างกายและจิตใจผ่อนคลาย
2.
ใช้คำแนะนำเพื่อรักษาระดับคลื่นสมองเพื่อเข้าถึงศักยภาพและความสามารถทางจิตที่มากกว่าปกติ ซึ่งไม่อาจเข้าถึงได้ในสภาวะตื่นตัวเต็มที่หรือคลื่นสมองเบต้า
3.
สื่อสารคำแนะนำและความคิดใหม่ๆเชิงบวกไปยังจิตใจในขณะที่ยังคงรับรู้เพื่อเร่งการเรียนรู้
เมื่อเราสะกดจิตให้ลูกค้า เราไม่ได้พาพวกเขาเข้าสู่ห้วงลึกลับที่จะมีเรื่องมหัศจรรย์เกิดขึ้นแล้วทันใดนั้นชีวิตก็พลันดีขึ้นในพริบตา แต่สิ่งที่เราทำคือส่งมอบคำแนะนำให้ผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อชะลอกระแสไฟฟ้าในสมอง
งานวิจัยระบุว่าเมื่อกระแสไฟฟ้าช้าลงและสมองอยู่ในคลื่นอัลฟาและเธต้า สมองจะทำงานได้มากขึ้น เมื่อคลื่นสมองช้าลงเพราะการยอมรับคำแนะนำให้ (ให้) ผ่อนคลาย กิจกรรมทางจิตในซีกสมองซ้าย เช่น การคิดวิเคราะห์วิจารณ์จะลดลง ในขณะที่กิจกรรมในซีกขวา เช่น ความคิดสร้างสรรค์ การแก้ปัญหา และจินตนาการกลับเพิ่มขึ้น สิ่งนี้ช่วยให้เราสามารถใช้ศักยภาพของสมองได้เต็มที่และมุ่งสู่จุดมุ่งหมายเฉพาะได้ดียิ่งขึ้น
แล้วเหตุใดผู้คนจึงพยายามดิ้นรนที่จะเปลี่ยนแปลงตนเอง?
ก็เพราะว่าพวกเขาไม่เข้าใจถึงกระบวนการเรียนรู้ของตัวเอง จนทำให้ติดอยู่กับรูปแบบพฤติกรรม ความคิด และอารมณ์แบบเดิมๆ
ช่วงวัยเด็กคือช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้ที่น่าทึ่ง เราเรียนรู้ทักษะมากมายไม่ว่าจะเป็นการพูด คณิตศาสตร์ หรือการอ่าน ในวัยนั้นสมองจะแกว่งไปมาระหว่างคลื่นอัลฟาและเธต้า ซึ่งเป็นระดับจิตที่สามารถเรียนรู้ ประมวลผล และดูดซับข้อมูลได้อย่างไม่ต้องใช้ความพยายาม
แต่เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ คลื่นสมองหลักจะเปลี่ยนเป็นคลื่นเบต้า ซึ่งมีลักษณะเป็นคลื่นสั้นและเร็ว กระตุ้นการทำงานของสมองซีกซ้าย นั่นคือการคิดวิเคราะห์วิพากษ์ในทุกสิ่งที่พบเจอ ทั้งภายในและภายนอก ผู้คนจึงพยายามเปลี่ยนแปลงเมื่อได้รับข้อมูลใหม่ในระดับคลื่นสมองเบต้า ทำให้ต้องวิเคราะห์กลั่นกรองแทนที่จะยอมรับและลงมือทำ
แต่สำหรับเด็กๆ แล้วกลับต่างออกไป พวกเขารับข้อมูลด้วยคลื่นสมองอัลฟาและเธต้า ทำให้ข้อมูลเข้าสู่กระบวนการสร้างสรรค์ในสมองโดยตรง รับเข้าไป ประมวลผล และนำไปใช้ได้ทันที โดยไม่ผ่านการวิเคราะห์ใดๆ
แล้วเรารู้ได้อย่างไรว่าอัลฟาและเธต้าเป็นสถานะแห่งการเรียนรู้ขั้นสูง?
คำตอบคือ เราเรียนรู้สิ่งสำคัญมากมายตั้งแต่ยังเด็ก การพัฒนาด้านภาษาเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจน หลายคนเชื่อว่าการเรียนรู้ภาษาที่สองต้องอาศัยช่วงเวลาสำคัญ
งานวิจัยชี้ว่ายิ่งเรียนภาษาที่สองเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งพูดภาษานั้นได้คล่องและเรียนภาษาอื่นๆต่อได้ง่ายในอนาคต
เหตุใดเด็กจึงเรียนภาษาได้เก่งกว่าผู้ใหญ่?
คำอธิบายหนึ่งคือความแตกต่างของคลื่นสมองระหว่างจิตใจเด็กกับผู้ใหญ่ เด็กที่อยู่ในช่วงอัลฟาและเธต้าจะเรียนรู้จากประสบการณ์และการซึมซับข้อมูล พวกเขาจะรับทุกอย่างเข้ามาและประมวลผลโดยอัตโนมัติ ในขณะที่ผู้ใหญ่พยายามเรียนรู้ภาษาอย่างมีสติด้วยการฝึกฝน เรียนรู้คำศัพท์ หาความเชื่อมโยงต่างๆ
กระบวนการสะกดจิตจึงได้ผล เพราะมันช่วยนำพาผู้คนกลับเข้าสู่สถานะการเรียนรู้ขั้นสูงตามธรรมชาติ ที่ทุกคนเคยสัมผัสมาแล้วในวัยเด็ก
ในฐานะนักสะกดจิต เราไม่ได้เป็นผู้บังคับให้ใครเปลี่ยนแปลงหรือมอบพลังวิเศษให้ใคร แต่เราคือทั้งครูผู้สอนและผู้ชี้แนะ ว่าพวกเขาจะเข้าถึงศักยภาพในตัวเองได้อย่างไร
การสะกดจิต (Hypnosis) นั้นที่จริงแล้วก็คือการสะกดจิตตนเอง (Self-Hypnosis) นี่เอง และเรากำลังสอนให้ผู้คนใช้พลังจิตอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อสร้างทางออกเชิงบวกให้กับชีวิต การมีผู้แนะนำที่เชี่ยวชาญในด้านการสื่อสารจะช่วยให้ลูกค้าดูดซับข้อมูลได้ง่ายดาย แทนที่จะต้องใช้ความพยายามในการบอกกับตัวเอง ซึ่งจะยิ่งเพิ่มคลื่นสมอง ผู้ชี้แนะจะช่วยให้ลูกค้าเรียนรู้ได้ดั่งเด็กๆ คือการดูดซึมข้อมูลเข้าไปได้โดยไม่ต้องพยายาม
:)
เรียบเรียงจาก : Enthusiastic Perfessionalism (xplaining Hypnosis Through Brainwaves)
เขียนโดย : John Weir, BCH, CI
ตีพิมพ์ในวารสาร The Journal of Hypnotism
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย