Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
โรงพยาบาลเอกชัย
•
ติดตาม
6 พ.ค. เวลา 04:52 • สุขภาพ
โรงพยาบาลเอกชัย
ปากนกกระจอก (Angular Cheilitis)
คือ ภาวะอักเสบที่เกิดขึ้นบริเวณมุมปาก โดยจะเกิดอาการเจ็บปาก ปากแห้งและแตก เป็นแผล อาจมีรอยแดง บวม และตึงที่มุมปากข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง ผู้ป่วยอาจจะเกิดอาการของโรคนี้เพียง 2-3 วัน หรือนานกว่านั้น ซึ่งจะขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดโรค
💬 อาการของโรคปากนกกระจอกเป็นอย่างไร ?
สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งข้างเดียวและสองข้าง ซึ่งอาการต่างๆ จะแตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล สามารถสังเกตได้ ดังนี้
👉 มีแผลเปื่อยแตกเป็นร่องที่มุมปาก
👉 เจ็บ คันระคายเคืองบริเวณมุมปาก
👉 เกิดรอยแดงและเลือดออก
👉 มีตุ่มพองและอาจมีของเหลวด้านใน
👉 เกิดสะเก็ดแผล
👉 ปากบวม ลอก แห้ง แตก ตึง
👀 สาเหตุหลักๆ ของการเกิดโรคปากนกกระจอก มีอะไรบ้าง ?
☘️ ติดเชื้อที่บริเวณปาก ➡️ บริเวณปากหรือช่องปากติดเชื้อรา หรือติดเชื้อแบคทีเรียแล้วลุกลามไปที่มุมปาก ทำให้เกิดแผลอักเสบของโรคปากนกกระจอกขึ้นมาได้
☘️ เกิดการระคายเคืองจากน้ำลาย ➡️ พบได้บ่อยในคนที่ปากแห้งและชอบเลียริมฝีปาก หรือผู้ที่มีปัญหาน้ำลายไหลเอ่อมาที่มุมปากบ่อยๆ ซึ่งน้ำลายทำให้เกิดการระคายเคือง เกิดการอักเสบและอาจติดเชื้อตามมาได้
☘️ เกิดอาการแพ้ ➡️ เมื่อริมฝีปากสัมผัสกับสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ เช่น ลิปสติก ยาสีฟัน ก็ทำให้ริมฝีปากระคายเคืองและอักเสบได้ หรือบางรายอาจเกิดจากโรคภูมิแพ้ผิวหนัง
☘️ การขาดสารอาหาร ➡️ โดยเฉพาะวิตามิน B2 และธาตุเหล็ก
☘️ การจัดฟัน หรือใส่ฟันปลอมที่ไม่พอดี ➡️ ทำให้น้ำลายล้นออกมาที่มุมปากบ่อยๆ หรือมีการเสียดสีกับอุปกรณ์ จนมีความเสี่ยงทำให้เกิดโรคปากนกกระจอกได้เช่นกัน
☘️ มีปัญหาสุขภาพ โรคประจำตัว ➡️ โรคบางอย่าง อาจทำให้เป็นโรคปากนกกระจอกได้ง่ายขึ้น เช่น โรคโลหิตจาง มะเร็งบางชนิด โรคที่เกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน เป็นต้น
☘️ ผลข้างเคียงจากการใช้ยาบางชนิด ➡️ เช่น การกินยารักษาสิวกลุ่มกรดวิตามินเอ
🚩 การป้องกันโรคปากนกกระจอกด้วยตนเอง 🚩
โรคปากนกกระจอกสามารถป้องกันได้ โดยเริ่มจากการดูแลตัวเองไม่ให้มีปัญหาสุขภาพที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคดังกล่าว สามารถทำได้ ดังนี้
🌟 ไม่ควรกัดหรือเลียริมฝีปากเมื่อปากแห้งหรือแตก เนื่องจากการกัดปากจะทำให้เลือดออกและแผลหายได้ช้า ทั้งนี้ น้ำลายที่เลียริมฝีปากจะล้างความชุ่มชื้นของผิวหนังออกไป ส่งผลให้ปากแห้งกว่าเดิม
🌟 ควรทาลิปบาล์มที่ผสมเจลหรือขี้ผึ้งเป็นประจำ เมื่อเกิดอาการปากแห้ง โดยเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว ไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง
🌟 ผู้ที่ใส่ฟันปลอมควรหมั่นดูแลความสะอาดของฟันปลอมอยู่เสมอ รวมทั้งไม่ใส่ฟันปลอมขณะนอนหลับ
🌟 ผู้ป่วยโรคเชื้อราในช่องปากที่มีปัญหาสุขภาพด้านอื่นที่เกี่ยวข้องกับโรคดังกล่าว เช่น ผู้ป่วยเบาหวาน ควรรักษาความสะอาดช่องปากและรับการรักษาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้อาการของโรคแย่ลง
🌟 งดสูบบุหรี่ เนื่องจากการสูบบุหรี่สามารถทำให้ปากแห้งได้ง่าย
โรคปากนกกระจอกมักจะไม่ร้ายแรงและสามารถหายได้ภายใน 2 สัปดาห์หลังจากเริ่มการรักษา อย่างไรก็ตาม หากไม่ได้รับการรักษาทันที โรคนี้อาจทำให้เกิดแผลที่ปาก ซึ่งอาจเป็นอันตรายได้ การดูแลรักษาโรคปากนกกระจอกเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำหรือมีอาการที่รุนแรงขึ้นในครั้งต่อไป
สุขภาพ
ไลฟ์สไตล์
บทความ
บันทึก
3
1
3
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย